ขอบคุณภาพจาก Techcrunch
ในขณะที่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั้งเทศ – ไทย กำลังเฮฮากับการคลิก Like ภาพเพื่อนในแบบฉบับคนสูงวัย – เด็กน้อยหน้าอ่อน แต่สำหรับวุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกาอย่าง Charles E. Schumer อาจไม่ถูกใจสิ่งนี้ เพราะเขาได้เขียนจดหมายถึง FBI ให้ตรวจสอบการใช้งาน Data ของแอป FaceApp กันแล้ว
โดยสิ่งที่วุฒิสมาชิกรายนี้กังวลมีหลายด้าน ทั้งการใช้ AI ในการปรับเปลี่ยนใบหน้า และการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ดังข้อความที่ระบุในจดหมายว่า
“การที่ FaceApp ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเปลี่ยนภาพใบหน้าของผู้เล่นให้ดูเด็กลง หรือสูงวัยขึ้นได้นั้น ผู้เล่นจะต้องให้ข้อมูลของตนเองเป็นการตอบแทนไปยังบริษัท ซึ่งเมื่อดูในนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวแล้วพบว่า แอปพลิเคชันได้ขอเข้าถึงชื่อ Username ที่ใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ชื่อเรียงเสียงจริงของผู้ใช้งานคนนั้น ๆ โดยไม่มีการแจ้งให้ผู้ใช้งานได้ทราบ
ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว การให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ในระดับนี้หมายความว่า ภาพต่าง ๆ ที่ถูกเผยแพร่ในแอปพลิเคชันสามารถูกนำไปใช้งานได้ทั้งแบบสาธารณะและใช้เป็นการส่วนตัวโดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของภาพนั้น ๆ อีก”
“ไม่เพียงเท่านั้น ตัว FaceApp ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเก็บภาพของผู้เล่นไว้นานเท่าไร และจะลบข้อมูลเหล่านี้ทิ้งหลังจากใช้งานแล้วหรือไม่ หรือจะทราบได้อย่างไรว่าจะไม่ส่งภาพต่อให้กับบุคคลอื่น”
สตาร์ทอัพรัสเซีย ต้นเหตุความไม่เชื่อใจ
อย่างไรก็ดี หนึ่งในความกังวลของวุฒิสมาชิกสหรัฐอเมริกาก็คือต้นกำเนิดของ FaceApp ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือว่าง่าย ๆ ก็คือเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติรัสเซียนั่นเอง โดย Schumer ระบุในจดหมายว่า ข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกันอาจได้รับผลกระทบจากแอปพลิเคชันตัวนี้ โดยอาจตกอยู่ในมือของรัฐบาลรัสเซีย หรืออาจถูกใช้ในทางมิชอบเพื่อทำลายสหรัฐอเมริกาอีกทีก็เป็นได้
ด้าน FaceApp ก็ออกมาชี้แจงถึงการใช้ Data บนแอปพลิเคชันแล้วเช่นกัน โดยได้ปฏิเสธทุกข้อหา ตั้งแต่ประเด็นเรื่องการปรับโฉมใบหน้าไปจนถึงการส่งต่อภาพไปยังรัสเซีย
โดย Yaroslav Goncharov ผู้ก่อตั้ง FaceApp เผยว่า “การเก็บภาพและประมวลผลเกิดขึ้นบนบริการของ AWS และ Google Cloud ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ไม่ได้มีสัญชาติรัสเซีย อีกทั้งที่ผ่านมา เราไม่ได้แชร์ หรือขายข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัทอื่นแต่อย่างใด”
ส่วนการเก็บภาพของผู้ใช้งานเอาไว้นานเท่าไรนั้น ทาง FaceApp ระบุว่าภาพส่วนใหญ่จะถูกลบออกจากเซิร์ฟเวอร์ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากที่ถูกอัปโหลดขึ้นมา และไม่มีการส่งภาพ หรือข้อมูลของผู้ใช้งานไปยังรัสเซีย ซึ่งมีศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทตั้งอยู่แต่อย่างใด
FaceApp ยังเผยด้วยว่า ผู้ใช้งานสามารถขอให้บริษัทลบข้อมูลได้ โดยเข้าไปที่คำสั่ง Settings->Support->Report a bug
“ฟีเจอร์ทั้งหมดบน FaceApp สามารถเข้าไปเล่นได้โดยไม่ต้องล็อกอินเข้าระบบ และ 99% ของผู้ใช้งานก็ไม่ได้ล็อกอินเข้ามา ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ใช้ในการยืนยันตัวบุคคลได้” Yaroslav กล่าวทิ้งท้าย