ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดตัวการใช้งาน “ซิตี้ เพย์เมนท์ เอาท์ไลเออร์ ดีเทคชั่น” (Citi®Payment Outlier Detection) นวัตกรรมยกระดับความปลอดภัยการทำธุรกรรมและการบริหารกระแสเงินสด ผ่านการประยุกต์ เอไอ และแมชชีนเลิร์นนิง ในการประมวลผล และตรวจสอบค้นหารายการชำระเงินที่น่าสงสัย เปรียบเทียบและปรับปรุงระบบตรวจหาความแตกต่าง และความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการสั่งจ่ายจากรายการชำระเงินต่างๆ จากประวัติข้อมูลของลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ พร้อมระบบแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที ก่อนเกิดการทำคำสั่งจ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรัดกุมในการตรวจสอบการทำธุรกรรม รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากรายการสั่งจ่ายผิดวิสัย ที่เสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจ โดยปัจจุบันพร้อมเปิดใช้แล้วใน 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวเปิดให้บริการบนแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมออนไลน์สำหรับลูกค้ากลุ่มสถาบันของทางธนาคารฯ ได้แก่ CitiDirect BE และ CitiConnect ด้วยการพัฒนาของสายงานบริหารจัดการเงินเพื่อธุรกิจ
มร. มานิช โคลิ หัวหน้าภูมิภาคกลุ่มตลาดโลก กลุ่มงานระบบชำระเงิน และการรับชำระ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า ท่ามกลางการเติบโตของการใช้งานธุรกรรมผ่านระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล แบงก์กิ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น มาพร้อมกับภัยคุกคาม และการโจรกรรมไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น และมีกระบวนการซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การยกระดับมาตรการการป้องการ และตรวจสอบธุรกรรมให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น รวมถึงความต้องการใช้งานธุรกรรมชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่รวดเร็ว นับเป็นข้อท้าทายสำคัญของธนาคารในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับกลุ่มลูกค้าระดับองค์กร ซึ่งต้องบริหารกระแสเงินเพื่อธุรกิจการค้าจำนวนมาก
มร. มานิช กล่าวเพิ่มว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ จึงพัฒนาการให้บริการผ่านการใช้งานระบบ ซิตี้ เพย์เมนท์ เอาท์ไลเออร์ ดีเทคชั่น (Citi®Payment Outlier Detection) บนแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมออนไลน์ของทางธนาคารฯ อย่าง CitiDirect BE และ CitiConnect ซึ่งมีจุดเด่นมาจากการประยุกต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) เพื่อใช้เรียนรู้พฤติกรรมของการทำธุรกรรมสั่งจ่ายชำระเงินในรูปแบบต่างๆ ของลูกค้า แล้วศึกษาเปรียบเทียบและปรับปรุงระบบตรวจหาความแตกต่าง และความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการสั่งจ่ายจากรายการชำระเงินต่างๆ ในอดีตของลูกค้าได้อย่างอัตโนมัติ หากมีการชำระเงินที่ผิดวิสัยระบบจะแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที ก่อนเกิดการทำคำสั่งจ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรัดกุมในการตรวจสอบการทำธุรกรรม รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงจากรายการสั่งจ่ายผิดวิสัย ที่เสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ตอบโจทย์การบริการให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุด อาทิ การเชื่อมโยงการส่งคำสั่งการชำระเงินที่สอดคล้องกับเวลารับคำสั่ง เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการวิเคราะห์ประมวลผล และเพิ่มทางเลือกในการกำหนดสิทธิ์ในการชำระเงิน ฯลฯ
ก่อนจะเริ่มการใช้ระบบจริงพร้อมกันทั่วโลก ธนาคารซิตี้แบงก์ ได้นำร่องการใช้งานให้กับลูกค้าสถาบันชั้นนำระดับโลกกว่า 20 ราย ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีกับบริการใหม่ล่าสุด และสามารถมั่นใจได้ว่า ซิตี้ เพย์เมนท์ เอาท์ไลเออร์ ดีเทคชั่น จะยกระดับบริการบริหารกระแสเงินสด ตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุมสำหรับธุรกิจของลูกค้า ให้มีความพร้อมพัฒนาและขยายการเติบโตไปสู่ตลาดทั่วโลกในอนาคต มร. มานิช กล่าวสรุป
ด้าน มร. แพทริค โอนีลล์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้ เพย์เมนท์ เอาท์ไลเออร์ ดีเทคชั่น ได้รับการพัฒนาโดยศูนย์นวัตกรรมซิตี้ (Citi Innovation Lab) ที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยร่วมมือกับบริษัทฟีดซาย (Feedzai) ผู้นำด้านนวัตกรรมเอไอเพื่อการบริหารความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างการรวมแพลตฟอร์มการตรวจสอบธุรกรรมของฟีดซาย ซึ่งได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมระดับโลก (2018 TMI Awards for Innovation and Excellence) มาเพิ่มศักยภาพการบริการให้กับลูกค้า โดยปัจจุบัน ระบบดังกล่าวเริ่มต้นให้บริการแก่ลูกค้าซิตี้กว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และจะเข้ามาช่วยยกระดับความปลอดภัยของลูกค้าธนาคารฯ ตามพันธกิจของธนาคารซิตี้แบงก์ ในฐานะธนาคารคู่ค้าทางธุรกิจที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจ รวมถึงยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและมอบบริการที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความถูกต้องโปร่งใสให้การบริหารกระแสเงินและการทำธุรกรรมของลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และรวดเร็ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย หรือ www.citibank.co.th