จากก่อนหน้านี้ที่เราเคยนำเสนอเกี่ยวกับเทรนด์การเติบโตของร้านอาหารแบบที่ไม่มีหน้าร้านในโลกแห่งความเป็นจริง (Ghost Restaurant) และห้องครัวแบบเช่าใช้ (Shared-Kitchen) ว่ากำลังได้รับความนิยมในเอเชียกันไปแล้ว วันนี้เราพบว่ามีการแตกไอเดียธุรกิจร้านอาหารออกมาอีกหนึ่งไอเดีย แถมยังสร้างสรรค์และน่าติดตามไม่แพ้กัน กับการเปิดให้เช่าพื้นที่สำหรับทำร้านอาหาร – บาร์ขนาดเล็กกันไปเลย ในชื่อ OPEN DISH
โดยแนวคิดของ OPEN DISH นั้นคล้ายกับธุรกิจประเภท Ride-Sharing ที่เราคุ้นเคยกันดี เพียงแต่เปลี่ยนจากบริการรับส่งมาเป็นตัวร้านอาหารที่จับต้องได้จริง เข้าทำอาหารได้จริง และสามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้จริงนั่นเอง
สิ่งหนึ่งที่ต้องบอกว่า เป็นเอกลักษณ์ของ OPEN DISH ก็คือเรื่องของความเข้าใจ Pain Point ของผู้ประกอบการร้านอาหารในญี่ปุ่นว่าต้องเผชิญด่านทดสอบที่โหดหินแค่ไหนกว่าจะมีร้านในฝันกับเขาสักแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขอใบอนุญาต หรือการเก็บหอมรอมริบเงินหลักสิบล้านเยนเพื่อมาลงทุนร้านอาหารเล็ก ๆ แถมยังไม่ชัดเจนด้วยว่าจะอยู่รอดถึงปีหรือไม่ และนั่นทำให้ทาง OPEN DISH ตัดสินใจเข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่ร้านอาหารแล้วนำมาปล่อยให้เช่าสำหรับคนที่อยากจะมีร้านเป็นของตัวเองเสียเลย
โดยพื้นที่ของ OPEN DISH ที่เปิดให้เช่านั้นจะเป็นพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างดี และมีบรรยากาศเหมาะกับการเป็นร้านอาหารแล้วเรียบร้อย ผู้เช่าเพียงจ่ายค่าเช่ารายเดือน แล้วก็เข้าใช้ได้เลย โดยที่ไม่ต้องมีสัญญาการเช่าระยะยาวมาผูกพันให้ยุ่งยากเหมือนในอดีต (แต่จะมีการวางมัดจำราว 20,000 เยนให้กับทางบริษัท) นอกจากนั้น ทาง OPEN DISH จะเป็นผู้จัดการธุระต่าง ๆ ทางกฎหมายให้ทั้งหมด สิ่งที่ผู้ใช้บริการต้องทำหลังจากจ่ายค่าเช่าใช้แล้วมีเพียงการเข้ามาทำอาหาร เสิร์ฟให้กับลูกค้าและรับเงินกลับไปเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดของ OPEN DISH ก็มีเช่นกัน นั่นคือไม่ใช่ใครก็มาเช่าแล้วเปิดร้านอาหารได้ แต่ต้องเป็นเชฟมืออาชีพที่มีใบประกาศนีบัตรรับรองเท่านั้น
ปัจจุบัน OPEN DISH มีพื้นที่ให้บริการ 2 แห่ง นั่นคือย่านนากาเมกุโระ ในรูปแบบร้านอาหาร กับย่านโอโมเตะซันโด ในรูปแบบบาร์ขนาดเล็ก โดยคิดค่าบริการสองราคา นั่นคือ 50,000 เยน (เข้าไปเปิดร้านได้ 3 วันต่อเดือน) และ 100,000 เยน (เข้าไปเปิดร้านได้ 7 วันต่อเดือน)
ส่วนประเทศไทยนั้น ในวันที่ต่างชาติบูมเรื่อง Shared-Kitchen บ้านเราก็เริ่มเห็นการเปิดตัวธุรกิจในลักษณะเดียวกันตามมา ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่า ธุรกิจในลักษณะ OPEN DISH นี้จะมีโอกาสเติบโตในประเทศไทยหรือไม่เช่นกัน