เยาวชนไทยคว้ารางวัลชนะเลิศ จากเวทีระดับนานาชาติ Panasonic KWN Global Contest 2019 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น….. กลุ่มบริษัท พานาโซนิคในประเทศไทย โดย นางศิริรัตน์ ยงค์เจริญชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พานาโซนิค แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด นำผู้ชนะเลิศจากโครงการ “สร้างสรรค์ ฉลาดคิด ผลิตข่าวกับพานาโซนิคประจำปี 2561 (Panasonic Kid Witness News 2018)” เป็นตัวแทนเยาวชนไทย นำผลงานไปแข่งขันต่อบนเวทีระดับโลก โดยมีตัวแทนเยาวชน จาก 12 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา อเมริกา บราซิล ปากีสถาน มาเลเซีย ไทย เวียดนาม จีน ฮ่องกง ญี่ปุน สหรัฐอาหรับเอมิเรส และแทนซาเนีย เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 18 ทีม แบ่งเป็น ระดับประถมศึกษา 10 ทีม และระดับมัธยมศึกษา 8 ทีม
โดยทีมเยาวชนไทยสามารถคว้า รางวัลชนะเลิศ (Grand Prix) ระดับชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล จ.กระบี่ กับผลงานเรื่อง “สังเวียนชีวิต” เป็นเรื่องราวของเพื่อนในชั้นเรียนที่ครอบครัวมีปัญหาทั้งสภาพความเป็นอยู่ และการเงิน ทำให้ต้องออกไปชกมวย เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวอีกทางหนึ่ง ถึงแม้ว่าการชกมวยจะทำให้เขาเหนื่อย ท้อ หรือได้รับบาดเจ็บแค่ไหนก็ตาม เขาต้องทำต่อไปเพื่อให้ครอบครัวสบาย เรื่องราวนี้เป็นเรื่องจริงของ “นายสหัสวรรษ พรมศร” หรือ “รักษ์” นักมวยสมัครเล่นที่ต้องชกมวยไปพร้อมกับเรียนหนังสือ บวกกับครอบครัวค่อนข้างลำบาก พ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ นั่นหมายความว่ารายได้ของแม่ ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูทั้งครอบครัว รักษ์จึงตัดสินใจขึ้นสังเวียนชกมวย เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว รวมถึงรับผิดชอบทั้งตัวเอง และไม่ให้เสียการเรียน พวกเราจึงทำหนังเรื่องนี้ขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นชีวิตของเด็กคนหนึ่งในสังคม ที่มีปัญหาและอุปสรรคต้องพบเจอ อยากถ่ายทอดให้หลายคนมีกำลังใจ เป็นแรงบันดาลใจในชีวิต ให้อดทน มุ่งมั่น และฝ่าฟันความยากลำบากต่อไป รวมถึงมุมมองของชีวิตนักมวย กับศิลปะมวยไทยที่มีความโดดเด่นสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของชาติที่ควรรักษาไว้สืบทอดต่อไป
ตัวแทนเยาวชนจากโรงเรียนอำมาตย์พานิชนุกูล จ.กระบี่ นายปรัตถกร กำลังดี (น้องคิม) กล่าวว่า “ตนรู้สึกภาคภูมิใจและตื่นเต้นที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยขึ้นไปรับรางวัล เป็นเกียรติที่ได้นำประเทศไทยไปสู่เวทีโลก ซึ่งเป็นความพยายามทำหนังสั้นมาตลอด 10 ปี ของโรงเรียน และเป็นปีที่ 2 ของผมและทีมชิงชันฟิล์มที่ได้ส่งหนังเข้าประกวดในโครงการ Panasonic Kid Witness News และในที่สุดเราทุกคนก็ทำได้ ซึ่งต้องขอบคุณความช่วยเหลือมากมายจากหลาย ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว โรงเรียน คุณครู เพื่อน ๆ คณะกรรมการทุกคน และสำคัญที่สุดคือ สหัสวรรณ พรมศร ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราทำหนังเรื่องนี้ นอกจากนี้การเข้าร่วมกิจกรรม Panasonic KWN Global Contest เปรียบเสมือนการมาแลกเปลี่ยนแนวคิดการผลิตสื่อและยังรวมไปถึง วัฒนธรรมชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนชาติอื่น ๆ ที่เราได้พบกัน ทำให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ที่คอยช่วยเหลือกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน และทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี นำกลับไปใช้พัฒนาชีวิตต่อไป”
ด้าน นายพีรวิชญ์ เอ่งฉ้วน (น้องเค) กล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจสุด ๆ ที่ผลงานของพวกเรา ได้รับการยอมรับบนเวทีระดับโลก ต้องขอขอบคุณ คุณครูจิราภรณ์ ณ นคร ที่แนะนำให้รู้จักกิจกรรมดีๆ และคอยช่วยเหลือ ขอบคุณทีมงานชิงชันฟิล์ม ที่คอยช่วยกันคิด สร้างสรรค์ ลงมือทำผลงานมาโดยตลอด ขอบคุณทางพานาโซนิค ที่ให้โอกาสพวกเรา 10 ปีในความพยายายามของทีม 6 ปีในการเดินตามความฝัน ต้องขอบคุณช่วงเวลาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา ขอบคุณ Panasonic ที่ให้โอกาสพวกเราได้เปิดโลกกว้าง ได้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ ได้รู้แนวคิดของเพื่อน ๆ จากทีมอื่น ๆ ได้รู้จักเพื่อนใหม่จากหลากหลายประเทศ และได้รู้ว่าโลกแห่งการเรียนรู้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด”
ด้าน นางศิริรัตน์ ยงค์เจริญชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พานาโซนิค แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากการที่เราได้จัดโครงการสร้างสรรค์ ฉลาดคิด ผลิตข่าว กับพานาโซนิค หรือ Panasonic Kid Witness News เป็นเวลา 15 ปีติดต่อกันในประเทศไทย และตัวแทนเยาวชนได้รับรางวัลชนะเลิศ Grand Prix รวม 4 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2558 2559 2561 และปีนี้ 2562 นับเป็นอีกความปลื้มใจของพานาโซนิค ประเทศไทย นอกจากเราจะได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของน้องๆ แล้ว ยังภูมิใจที่ได้เห็นเด็กๆ มีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีระดับโลก นำความรู้ที่ได้จากค่ายพัฒนาผลงาน ของโครงการฯ กับผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงสื่อสารมวลชนไทย ไปปรับปรุงผลงาน ทำให้มีมุมมอง นำเสนอผลงานออกมาเป็นที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และยังแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตผลงานสารคดีเชิงข่าว จนได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการและสามารถคว้ารางวัล Grand Prix Award สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย โดยเราหวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทยได้มีโอกาสในการได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และถ่ายทอดความคิดนั้นๆ ออกมาในรูปแบบของสารคดีเชิงข่าว และยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม ฝึกทักษะในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงโอกาสในการค้นหาความสนใจและศักยภาพของตนเอง และสิ่งที่ภูมิใจอย่างมากคือได้เห็น เด็กๆ หลายๆ รุ่นที่เข้าร่วมโครงการของเราก็ได้มีโอกาสทำงานที่รัก และเติบโตในสายงานด้านสื่อสารมวลชนอย่างมีคุณภาพ”