ปัจจุบันเทรนด์การทำธุรกิจขนาดใหญ่มุ่งทำการตลาดด้วยการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบเฉพาะกลุ่มและเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Marketing มากขึ้น โดยข้อมูลจาก McKinsey บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาครัฐและเอกชน ระบุว่า Digital Marketing สามารถช่วยลดต้นทุนการหาลูกค้าได้ถึง 50% และเพิ่มยอดขายได้ 5-15% ซึ่งการทำการตลาดดังกล่าว ต้องทำงานในลักษณะขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) โดยอาศัยฐานข้อมูลมหาศาล (Big Data) และใช้ Marketing Software มาเป็นเครื่องมือสำคัญ
19 ปีที่ผ่านมา “เรดดี้ แพลนเน็ต” (ReadyPlanet) บริษัทผู้คิดค้นและพัฒนามาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม สัญชาติไทย พัฒนาเครื่องมือต่างๆ สำหรับให้บริการลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่บริการทำเว็บไซต์สำเร็จรูป จนมาสู่การสร้าง “ReadyPlanet Marketing Platform” หรือ RMP ที่ล่าสุดบริษัทได้ประกาศเป็น “All-in-one Marketing-Tech Platform” เพื่อให้บริการ Digital Marketing ครอบคลุมทุกขั้นตอน
ธุรกิจต้องรับมือการแข่งขันการตลาดที่รุนแรง
คุณทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรดดี้ แพลนเน็ต จำกัด กล่าวว่า เทรนด์การทำ Personalized Marketing จะเป็นเทรนด์การทำการตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่องไปอีก 3-5 ปี ส่งผลให้งบการทำ Digital Marketing สูงมากขึ้น เพื่อพัฒนาระบบให้มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ReadyPlanet มีอัตราการเติบโตบริษัทเฉลี่ยไม่น้อยกว่าปีละ 20% มีฐานลูกค้าเป็นธุรกิจขนาดเล็ก 19,000 ราย และธุรกิจขนาดใหญ่ 100 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว จากการทำงานร่วมกับลูกค้าโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก พบว่า ลูกค้าไม่รู้ว่าทำการตลาดดิจิทัลไปแล้ว ได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน
“ปัญหาของธุรกิจ SME ไม่มีข้อมูลมหาศาลเหมือนกับธุรกิจขนาดใหญ่ และการใช้ Marketing Software เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดก็ต้องใช้เงินมาก เช่น บริษัทใหญ่ที่มีเงินทุนมากสามารถใช้ซอฟต์แวร์ติดตามและวิเคราะห์ว่าช่องทางการตลาดช่องทางไหนดีที่สุดได้ แต่ SME ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะไม่มีเงินทุนพอ เป็นต้น ขณะเดียวกัน SME บางรายก็จ้างหลายบริษัทในการทำ Digital Marketing ทำให้ข้อมูลไม่เชื่อมถึงกัน จึงไม่สามารถทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้นั่นเอง”
เนื่องจากผู้ให้บริการ Digital Marketing ส่วนใหญ่ ไม่มีแพลตฟอร์มการตลาดเป็นของตัวเอง มีเพียงบริการจัดการสื่อโฆษณาออนไลน์ หรือผลิต Marketing Content จึงต้องอาศัยซอฟต์แวร์ของต่างประเทศมาประยุกต์ใช้งาน ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจไทยได้ลงตัว
แต่เมื่อการตลาดไม่ใช่แค่การทำโฆษณาเพียงอย่างเดียว การที่ลูกค้าหรือ User จะมาเจอสินค้าจากแบรนด์หนึ่ง และกลายเป็นลูกค้าที่มี loyalty กับแบรนด์ได้ ต้องอาศัย 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ 1. เลือกกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าจริงๆ ได้มากที่สุด 2. เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายนั้นให้เป็นลูกค้าให้ได้ 3. ทำให้ลูกค้าอยู่กับแบรนด์ และเกิดการซื้อซ้ำ จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อได้
ดึง RMP ช่วย SME ทำ Personalized Marketing
ReadyPlanet พัฒนาเครื่องมือ Digital Marketing ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการตลาด (Full Funnel) ตั้งแต่ Reach – Convert – Retain โดยเครื่องมือทั้งหมดจะทำงานเชื่อมโยงข้อมูลกันแบบไร้รอยต่อ (Seamless Data) กลายเป็น Marketing Platform เต็มรูปแบบที่มีประสิทธิภาพการทำงานเทียบเท่าแพลตฟอร์มของต่างประเทศ
โดยในขั้นตอนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Reach) จะบริการจัดการโฆษณาในสื่อออนไลน์ อย่าง Google, YouTube, Facebook ต่อมาขั้นตอนการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นลูกค้า (Convert) จะให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูป โมบายแอพพลิเคชั่น, Online Shop และระบบจองบริการ และสุดท้ายขั้นตอนการรักษาฐานลูกค้าเดิม (Retain) จะทำผ่านระบบ CRM (Customer Relationship Management) บริหารงานขาย และจัดการฐานลูกค้า ด้วยระบบ Database ที่เก็บข้อมูลลูกค้าเชิงลึก
นอกจากนี้ยังมีบริการบริหารจัดการข้อมูลผ่านกลุ่มเป้าหมาย ที่เรียกว่า R-CRM โดยมีแอพพลิเคชั่น R-app ระบบการทำสมาชิก,การแจกคูปอง,ระบบสะสมแต้ม เข้ามาช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ รวมถึงการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ว่าการทำการตลาดวิธีไหนที่คุ้มค่าที่สุด หรือการวิเคราะห์ข้อมูลว่าคีย์เวิร์ดไหนก่อให้เกิดการขายมากที่สุด ผ่าน R-insights
“จุดเด่นสำคัญของ RMP คือ มีทีมงานคนไทยที่คอยแนะนำและให้คำปรึกษาเรื่องระบบตลอด 24 ชั่วโมง มีศูนย์อบรม Digital Marketing สำหรับลูกค้า ให้เข้ามาเรียนรู้การใช้งาน มีระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับผู้ให้บริการ Online Payment ในไทย ที่สำคัญคือ บริษัทฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนา Marketing Software ให้แก่ธุรกิจไทยมานานทำให้เข้าใจเทรนด์ตลาดไทยและความต้องการของผู้ประกอบการไทยได้ดีกว่า”
ชูจุดต่าง “ราคาถูก” กว่าแพลตฟอร์มต่างประเทศ
สำหรับราคาค่าบริการ จะเริ่มต้นที่ 3,300 บาทต่อปี ซึ่งลูกค้าของ ReadyPlanet ปัจจุบันที่ใช้งานเฉพาะ R-web และ R-shop จะได้รับการอัพเกรด R-CRM เพิ่มฟรี แต่ถ้าหากต้องการใช้ครบทุกบริการจะมีราคาอยู่ที่หลักแสนบาทต่อปี
เหตุผลที่สามารถให้บริการในราคาถูกกว่าแพลตฟอร์มของต่างประเทศถึง 1 ใน 3 เพราะความที่เป็น All-in-One Marketing-Tech Platform ทำให้ลูกค้าสามารถจ้างทำเว็บไซต์ ตลอดจนระบบทั้งหมดได้ในคราวเดียว โดยบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่อง Data Privacy เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตาม คาดว่า เมื่อเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้วจะช่วยให้บริษัทมีลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 20% ภายในปี 2020