บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าปฏิวัติวงการถ่ายภาพครั้งใหม่ ตอกย้ำการเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีสุดล้ำอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งสุดยอดนวัตกรรมกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลส α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์ มาร์ค โฟว์) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดจากตระกูลอัลฟ่า ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยกับเซ็นเซอร์ Full Frame ตัวแรกของโลกที่ให้ความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซลเพื่อให้คนรักการถ่ายภาพระดับมืออาชีพสามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็วชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวกล้อง RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ 100 มาร์คเซเว่น) ซึ่งมาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีการถ่ายภาพสุดล้ำจากกล้องรุ่นใหญ่มาบรรจุไว้ในกล้องรุ่นนี้ รวมถึงไลน์อัพเลนส์กล้อง G Master ซีรี่ส์ใหม่ล่าสุดระดับพรีเมี่ยมพร้อมกันอีก 3 รุ่น ทั้ง FE 35mm F1.8, FE 600mm F4 GM OSS และ FE 200-600mm F5.6-6.3 G OSS รวมทั้งอุปกรณ์เสริม อาทิ Vertical ไมโครโฟน ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องและเลนส์กล้องออกสู่ตลาดในครั้งนี้ โซนี่มั่นใจว่านอกจากจะมอบประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพสุดประทับใจให้แก่ช่างภาพมืออาชีพและเหล่า Vlogger ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างตรงใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งของโซนี่ให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
มร. เท็ทซูทากะ ซูดะ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บ. โซนี่ ไทย จ.ก. เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำตลาดดิจิตอลอิมเมจจิ้ง โซนี่เดินหน้าคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับวงการถ่ายภาพ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่รวมทั้งรองรับการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย และในวันนี้ โซนี่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งของโซนี่เพื่อทวีความแข็งแกร่ง ไปพร้อมกับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมถ่ายภาพให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยการแนะนำกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดคือ กล้องอัลฟ่าฟูลเฟรมมิเรอร์เลส รุ่น α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์มาร์คโฟร์ หรือ อัลฟ่าเจ็ดอาร์มาร์คสี่)) กล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสที่ให้รายละเอียดสูงที่สุด พร้อมระบบออโต้โฟกัสอันทรงประสิทธิภาพทั้งความรวดเร็ว และแม่นยำ และกล้องพรีเมียมคอมแพคท์ รุ่น RX100 VII (อาร์เอ็กซ์วันฮันเดรดมาร์คเซเว่น หรือ อาร์เอ็กซ์หนึ่งร้อยมาร์คเจ็ด) ที่ได้นำสุดยอดเทคโนโลยีจากกล้อง α9 ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของระบบออโต้โฟกัส และการทำงานที่รวดเร็ว เพื่อต่อยอดประสบการณ์ใหม่ของการถ่ายภาพที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในทุกระดับตั้งแต่ช่างภาพมืออาชีพ ไปจนถึงกลุ่ม Vlogger และ VDO Content Creator ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ด้วยคุณภาพเทคโนโลยีที่เป็นเลิศ และก้าวล้ำมากมาย ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก โดยโซนี่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์กล้อง รวมถึงเลนส์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการถ่ายภาพให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น รวมทั้งสามารถขยายตลาดเข้าไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่กว้างมากขึ้นอีกด้วย”
ผลิตภัณฑ์ดิจิตอล อิมเมจจิ้ง รุ่นใหม่จากโซนี่ประกอบด้วย
กล้องอัลฟ่าฟูลเฟรมมิเรอร์เลส รุ่น α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์ มาร์ค โฟว์)
นับเป็นสุดยอดกล้องมิลเรอร์เลสฟลูเฟรมระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของกล้องมิเรอร์เลสแบบฟลูเฟรมที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของกล้องรุ่น α7R III ให้มีความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของคนรักการถ่ายภาพระดับมืออาชีพในปัจจุบันได้สร้างสรรค์ภาพในมิติใหม่ที่ไม่เกิดเคยมาก่อน โดย α7R IV เป็นกล้องมิลเรอร์เลสตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ภาพแบบ Full Frame Back-illuminated CMOS ขนาด 35 ม.ม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดโดยมีความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซล และชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ X ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยให้ Dynamic Range กว้างถึง 15 สต็อป พร้อมทั้งสามารถภ่ายภาพแบบต่อเนื่องได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็ว และได้คุณภาพสีที่เป็นธรรมชาติสมจริง พร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ Real Time Eye AF ที่ช่วยโฟกัสแบบติดตาม ดวงตาบุคคล ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ระบบ Animal Eye AF ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาสัตว์ แม้ในขณะเคลื่อนไหวโดยไม่พราดเป้า ด้วยการโฟกัสแบบ Hybrid AF ที่มีจุดโฟกัสแบบ Phase Detection มากถึง 567 จุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในการถ่ายภาพถึง 74% ในโหมดฟลูเฟรม และ Contrast Detection ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 425 จุด ทำให้สามารถโฟกัสทุกภาพได้อย่างคมชัดและแม่นยำยิ่งขึ้นแม้ในที่แสงน้อย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพกีฬาหรือถ่ายภาพที่ต้องการความเร็วสูงๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็ว 10 ภาพต่อวินาที และถ่ายต่อเนื่องได้ถึง 68 ภาพ รวมถึงรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K HDR
ยิ่งไปกว่านั้น กล้อง α7R IV ยังโดดเด่นด้วยระบบป้องกันสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในระยะไกลนิ่งมากขึ้น โดยสามารถกันสั่นได้ถึง 5.5 Stop พร้อมกับโหมด Pixel Shift Multi Shooting ที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งเป็นการถ่ายภาพรวมกันโดยอาศัยเทคนิคการขยับเซ็นเซอร์ เพื่อให้แต่ละพิกเซลเก็บรายละเอียดได้ถึง 240 ล้านพิกเซลโดยการถ่ายภาพ 16 ครั้งแยกออกจากกัน ขณะเดียวกันยังมีโหมดครอปภาพขนาดเท่าเซ็นเซอร์ APS-C ซึ่งหากใช้โหมดนี้สามารถจะให้ภาพที่ความละเอียดได้ถึง 26.2 ล้านพิกเซลทีเดียว ขณะที่ตัวกล้องได้รับการพัฒนาให้สามารถกันละอองน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังมีจอแสดงผลแบบสัมผัสพับได้ ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซลที่ให้ความแม่นยำของภาพได้สูงถึง 120fps นอกจากนี้ ตัวกล้องยังมาพร้อมปุ่ม Joystick ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อการควบคุมกล้องได้อย่างง่ายดายมากขึ้น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบ USB type C และมีช่องเสียงการ์ด USH-II 2 ช่อง ทั้งยังรองรับแบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-FZ100 ที่สามารถเก็บภาพความประทับใจได้อย่างจุใจถึง 710 ภาพต่อแบตเตอรี่หนึ่งก้อน และกริป VG-C4EM ที่สามารถชาร์จไฟผ่าน USB type C จากตัวกล้องโดยตรงทำให้เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม ศกนี้ ในราคา 114,990 บาท (Body)
กล้องพรีเมียมคอมแพ็คท์ RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ หนึ่งร้อย มาร์คเจ็ด)
เป็นสุดยอดกล้องพรีเมี่ยมคอมแพ็คท์ในตระกูล Cyber-Shot RX Series รุ่นล่าสุด RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ 100 มาร์คเซเว่น) ที่ได้รับการต่อยอดจากความสำเร็จของกล้องรุ่น RX100 VI ให้มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ โดยกล้อง RX100 VII ยังคงความโดดเด่นในการออกแบบดีไซน์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเพื่อให้เหมาะต่อการพกพาในสไตล์กล้องคอมแพ็คท์ แต่ให้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ด้วยจุดเด่นของระบบออโต้โฟกัสสุดอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งถอดแบบมาจากกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลสรุ่นยอดนิยมอย่าง α9 โดยมีจุดโฟกัสภาพแบบ Phase Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 357 จุด และ Contrast Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 425 จุด ทำให้สามารถจับภาพวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นเดิม พร้อมกับระบบโฟกัสแบบ Real-time Eye AF ที่มีประสิทธิภาพในการโฟกัสดวงตาได้ทั้งตาคนและสัตว์ได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกภายใน 0.02 วินาทีเท่านั้น ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็วถึง 20 ภาพต่อวินาทีโดยไม่มีจอดำ และสามารถถ่ายภาพรัวด้วยความเร็ว 90 fps. ในโหมด Single Burst Shooting ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Stacked 20.1 MP Exmor RS™ CMOS ขนาด 1 นิ้ว พร้อมเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar T* 24-200mm f2.8-4.5 ซึ่งให้พลังซูมในการถ่ายภาพได้ไกลถึง 8.3 เท่า เพื่อเอาใจผู้รักการถ่ายภาพที่ต้องการคุณภาพของภาพในระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น กล้อง RX100 VII ยังมาพร้อมระบบกันสั่นที่พัฒนาขึ้นใหม่เป็นแบบ 4K Active SteadyShot โดยผสานกันสั่น Electronic และ Optical เข้าด้วยกันเพื่อให้ประสิทธิภาพในการกันสั่นที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมถึง 8 เท่า พร้อมกับประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอที่เพิ่มมากขึ้นโดยรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K HDR แบบ Hybrid Log Gamma (HLG) ทั้งยังรองรับ S-Log3 ทำให้ภาพวิดีโอสามารถเล่นบนทีวี 4K UHD ได้เต็มขนาดและสามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้ ขณะที่ตัวกล้องมาพร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว สามารถพับได้ มีช่องความละเอียด 2.35 ล้านพิกเซล ช่วยให้มองเห็นภาพได้คมชัดสมจริง รวมถึงมีช่องเสียบสายไมโครโฟนและอุปกรณ์เสริมตัวใหม่อย่างไม้กันสั่น Shooting Grip Kit ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง RX100 VII โดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับ Vlogger ที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในรูปแบบของวิดีโอ ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม ศกนี้ ในราคา 38,990 บาท
เลนส์ รุ่น FE 35mm F1.8 (SEL35F18F)
เป็นสุดยอดนวัตกรรมเลนส์สำหรับกล้องมิเรอร์เลส E-Mount ระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุดทั้งที่เป็นฟลูเฟรม และ APS-C ที่ออกแบบมาเพื่อมอบอิสระและความคล่องตัวในการถ่ายภาพ Portrait และ Snapshots ที่เหนือชั้นกว่าเดิม ด้วยการออกแบบตัวเลนส์ให้มีขนาดและน้ำหนักเบาอย่างมากเพียง 280 กรัม แต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากมาย โดยเป็นเลนส์ไพรม์มุมกว้างที่ให้รูรับแสงสว่างถึง F1.8 เส้นผ่าศูนย์กลาง 65.6 มม. โดยให้ทางยาวโฟกัส 35 มม.บนฟลูเฟรม และ 52.5 มม.บน APS-C มาพร้อมกับชิ้นเลนส์ 11 ชิ้น 9 กลุ่มเลนส์ รวมถึงชิ้นเลนส์พิเศษ Aspherical 1 ชิ้น ทั้งยังมีใบมีดรับแสง 9 ใบ สามารถสร้างโบเก้ได้สวยงามและจับภาพได้ใกล้สุดอยู่ที่ 0.22 เมตร รองรับฟิลเตอร์ขนาด 55 มม. นอกจากนี้ ยังใช้ระบบมอเตอร์โฟกัสแบบ Linear Motor ช่วยให้โฟกัสภาพได้รวดเร็วแม่นยำและเงียบกริบยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมื่อถ่ายวีดีโอสลับกับการถ่ายภาพนิ่ง แถมยังมีระบบป้องกันละอองน้ำและฝุ่นเป็นอย่างดี ขณะที่ตัวบอดี้ของเลนส์ทำจากอลูมีเนียมส่วนด้านนอกใช้พลาสติก จึงน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ศกนี้ ในราคา 22,990 บาท
เลนส์ GM รุ่น FE 600mm F4 GM OSS (SEL600F40GM)
นับเป็นเลนส์ Super Telephoto ระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุดของตระกูล G Master โดยเป็นเลนส์ระยะไกลที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพกีฬา ภาพสัตว์ และถ่ายระยะไกลระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ด้วยระยะยิงที่ไกลถึง 600 มม. พร้อมกับรูรับแสงกว้างสุดที่ F4 มีน้ำหนักเลนส์อยู่ที่ 3,040 กรัมซึ่งถือว่าเบาที่สุดในเลนส์ระยะเดียวกันในตลาด ประกอบด้วยเลนส์ 24 ชิ้น 18 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษ XA 1 ชิ้น, ED 2 ชิ้น และ Fluorite 3 ชิ้น ช่วยให้ได้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดและลดการเกิดความคลาดเคลื่อนของสีต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมี Blade Circular Aperture 11 ใบ นอกจากนี้ ตัวเลนส์ยังใช้มอเตอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่แบบ Extreme Dynamic Linear Motor ทำให้สามารถโฟกัสภาพได้รวดเร็วแม่นยำและเงียบกริบยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 4.5 เมตร ทั้งยังมีระบบกันภาพสั่นไหว OSS ในตัว รวมถึงกันฝุ่นและละอองน้ำเพื่อให้ช่างภาพได้ลุยป่าเก็บภาพความประทับใจของฝูงสัตว์ได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น วางจำหน่ายแล้วในราคา 459,990 บาท
เลนส์ G รุ่น FE 200-600mm F5.6-6.3 G OSS (SEL200600G)
นับเป็นนวัตกรรมเลนส์ระดับพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาสำหรับกล้องมิเรอร์เลสทั้งที่เป็นฟลูเฟรม และ APS-C ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุดเพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุด และเมื่อนำมาจับคู่กับกล้องมิเรอร์เลส จะทำให้การจับภาพแอ็คชั่นโดยเฉพาะภาพสัตว์และกีฬาจากระยะไกลแม่นยำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเป็นเลนส์ซูมคุณภาพที่ให้ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 200-600 มม. บนฟลูเฟรม และ 300-900 มม.บน APS-C พร้อมให้ค่ารูรับแสงกว้างถึง F5.6-6.3 ตลอดช่วงซูม ขณะเดียวกัน ยังสามารถต่อกับ Tele Converter 1.4x และ 2.0x สามารถขยายได้ถึง 1200 มม. F13 โดยภาพยังมีคงคุณภาพสวยงาม ภายในประกอบด้วยชิ้นเลนส์ประสิทธิภาพสูง 24 ชิ้น 17 กลุ่ม รวมถึงมีชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง ED 5 ชิ้น และ Aspherical 1 ชิ้น รวมถึงมี Blade Circular Aperture 11 ใบ เพื่อให้ได้โบเก้ที่สวยงาม ยิ่งไปกว่านั้น ยังโดดเด่นด้วยระบบมอเตอร์ความเร็วสูง Direct Drive Super Sonic Wave (DDSSM) ที่ให้ความละเอียดสูงเพื่อช่วยให้การจับภาพแอ็คชั่นจากระยะไกลได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว แม่นยำ และเงียบกริบ เคลือบด้วยสารนาโน ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OSS ระยะโฟกัสภาพใกล้สุดอยู่ที่ 2.4 เมตร รวมถึงมีวงแหวนโฟกัส มี Linear Response MF สำหรับการปรับโฟกัสแบบแมนนวล ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยมือได้อย่างฉับไวเหมาะกับสถานการณ์ในการถ่ายภาพต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 69,990 บาท
อุปกรณ์เสริม
พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้แนะนำอุปกรณ์เสริมมากมายเพื่อมอบประสบการณ์ถ่ายภาพ α7R IV ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบด้วย กริปรุ่นใหม่ VG-C4EM สำหรับถือเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพในแนวตั้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมแบตเตอรี่ NP-FW50 ที่มีความอึดกว่ารุ่นเดิมถึง 2 เท่า ทั้งยังสามารถชาร์จไฟได้อย่างง่ายดายผ่านตัวกล้อง แถมยังป้องกันละอองน้ำและฝุ่นเป็นอย่างดี รวมถึง ECM-B1M Shotgun Microphone รุ่นล่าสุด ซึ่งมีขนาดกระทัดรัดความยาวเพียง 99.3 มม.หรือประมาณ 4 นิ้วเท่านั้น แต่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพในการบันทึกเสียงคุณภาพสูง โดยมาพร้อมการรับเสียงแบบ Super-directional สามารถปรับทิศทางการรับเสียงได้ 3 แบบ พร้อมรองรับการแปลงสัญญาณอะนาล็อกเป็นดิจิตอลเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพโดยปราศจากเสียงรบกวนรองข้าง และ XLR-K3M ชุดอแดปเตอร์ไมโครโฟน ที่มีน้ำหนักเบาพร้อมไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียงที่คมชัดและสามารถควบคุมเสียงได้อย่างละเอียดและง่ายดายด้วยช่องเสียบถึงสองช่องด้วยกัน
ผู้สนใจสามารถทดลองประสิทธิภาพของกล้องและเลนส์รุ่นใหม่ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา และร้านผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร และสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th