e-Beetle ขอบคุณภาพจาก volkswagen
เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนทราบกันแล้วว่า Volkswagen ได้ประกาศยุติการผลิตรถยนต์รุ่น Beetle หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “รถเต่า” ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้แฟนคลับหรือคนที่หลงรักอยากจะได้รถรุ่นนี้มาครอบครองต้องอกหักช้ำใจไปตามๆ กัน
อย่างไรก็ตาม เหมือนว่าจะมีข่าวดีให้แฟน ๆ ของรถยนต์คลาสสิครุ่นนี้ได้ใจชื้นกันแล้ว เมื่อล่าสุด Volkswagen ประกาศความร่วมมือกับ eClassics บริษัทดัดแปลงรถยนต์คลาสสิคที่ใช้น้ำมันให้มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้า เปลี่ยนรถเต่ารุ่น Super Beetle Convertible ปี 1973 มาใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าได้สำเร็จ และดูเหมือนว่าจะเวิร์คซะด้วย
ที่ผ่านมา มีหลายบริษัทพยายามเปลี่ยนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปกติมาเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าอย่าง Zelectric ซึ่งติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไปกับชุดเพลาขับเคลื่อนเดิมของรถ ทำให้สูญเสียพื้นที่บางส่วนสำหรับการบรรทุกสัมภาระไป (รถเต่าเป็นรถยนต์ที่วางเครื่องยนต์ไว้ด้านหลัง และมีพื้นที่บรรทุกของในกระโปรงหน้าแทน) แต่ความร่วมมือระหว่าง Volkswagen กับ eClassics นั้นต่างออกไป โดยยกเครื่องยนต์ไฟฟ้าจาก VW e-Up! มาใส่แทน รวมทั้งเพลาและชิ้นส่วนที่ใช้ในการขับเคลื่อนทั้งหมด
ขอบคุณภาพจาก volkswagen
ผลลัพธ์ที่ได้คือพื้นที่บรรทุกสัมภาระยังเท่าเดิม เพิ่มเติมคือห้องเครื่องยนต์ข้างหลังเล็กลง ทำให้ได้พื้นที่บรรทุกสัมภาระข้างหลังเพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักของรถที่มากขึ้น เนื่องจากต้องใส่แบตเตอร์รี่เพิ่มเข้าไปถึง 14 ก้อนเลยทีเดียว รวมแล้วทำให้รถยนต์มีน้ำหนักมากถึง 1,280 กิโลกรัม ซึ่งสามารถให้พลังมากถึง 36.4 kWh เลยทีเดียว
แม้ว่าน้ำหนักจะมากขึ้น แต่ก็สามารถทำความเร็วมากขึ้นด้วย โดยอัตราเร่งความเร็ว 0-80 กม./ชม. นั้น อยู่ที่ 8 วินาที นิดๆ และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 150 กม./ชม. และสามารถขับไปได้ถึง 200 กิโลเมตรเมื่อชาร์ตไฟเต็ม และ e-Beetle ยังมีความสามารถในการชาร์ตเร็วอีกด้วย เมื่อแบตเตอร์รี่หมด และทำการชาร์ตกับแท่นชาร์ตเร็วไป 1 ชั่วโมงแล้ว สามารถขับขี่ได้ 150 กิโลเมตร
การดัดแปลงรถเต่าในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกน้อยมาก ที่เห็นได้ชัดคือตรงกระโปรงหลังที่ไม่มีช่องระบายความร้อนอีกต่อไป และไฟท้ายด้านขวาสามารถยกขึ้นเพื่อเสียบปลั๊กชาร์ตไฟได้
ชาร์จไฟกันตรงนี้ ขอบคุณภาพจาก volkswagen
อย่างไรก็ดี หากคุณอยากเปลี่ยนรถเต่าคันเก๋าให้กลายเป็นรถไฟฟ้าใหม่เอี่ยม คงต้องรอไปอีกสักพัก เพราะ Volkswagen ยังไม่เปิดเผยว่าจะนำมาทำตลาดหรือไม่ และเมื่อดูจากคุณภาพของงานดัดแปลงนี้แล้ว คงต้องบอกว่าอาจทำให้กระเป๋าเบาหวิวได้เช่นกัน แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่า แนวคิดที่จะดัดแปลงเครื่องยนต์เก่าให้เป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจมาก และอาจมีผลต่อการเสียภาษีรถยนต์ในบางประเทศด้วย