ขอบคุณภาพจาก CNBC
Bob Iger ซีอีโอดิสนีย์ลาออกจากบอร์ด Apple แล้ว เหตุต้องการรักษามารยาท เนื่องจากบริการ Disney+ ที่เตรียมจะเปิดตัวในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ จะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Apple TV+ ในศึกสตรีมมิ่งนั่นเอง
โดยการลาออกของ Bob Iger มีขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาหลังจาก Apple จัดอีเวนท์เปิดตัว iPhone 11 พร้อมประกาศราคาของบริการ Apple TV+ อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นการลาออกเพราะคำนึงถึงความเหมาะสม และต้องการแสดงให้เห็นถึงธรรมาภิบาลในการเป็นผู้บริหารที่ดี หาใช่การลาออกเพราะขัดแย้งทางธุรกิจแต่อย่างใด อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีภาพความสนิทสนมของสองซีอีโออย่าง Bob Iger และ Tim Cook ปรากฏออกมาให้เห็นกันตลอดด้วย แต่เมื่อผลิตภัณฑ์ในอนาคตของบริษัทจะกลายเป็นคู่แข่งกัน การจากลาก็จำเป็นต้องเกิดขึ้น
สำหรับตำแหน่งของ Bob Iger ในบอร์ดของ Apple เกิดขึ้นเพราะสายสัมพันธ์กับอดีตซีอีโอผู้ล่วงลับ “สตีฟ จ็อบส์” (Steve Jobs) โดยครั้งหนึ่งในอดีต ดิสนีย์ได้เคยเข้าซื้อกิจการของ Pixar ซึ่งสตีฟ จ็อบส์เป็นบอร์ดอยู่ในขณะนั้น ทำให้เขาก้าวเข้ามาเป็นบอร์ดของดิสนีย์
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่สตีฟ จ็อบส์เสียชีวิตลง เขาได้ขอให้ Iger เข้ามาเป็นบอร์ดแทนตำแหน่งของเขา และ Iger ก็รับหน้าที่นั้นมาตั้งแต่ปี 2011 โดย Iger เข้าเป็นประธานคณะกรรมการด้านบรรษัทภิบาล และกรรมการบอร์ดด้านการจ่ายค่าชดเชย ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นภาพความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างสองบริษัทตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ดี และดิสนีย์ก็เป็นบริษัทแรกที่พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับ iPhone และ iPad ด้วย
แต่การลาออกของ Bob Iger ไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2009 อดีตซีอีโอของ Google อย่าง Eric Schmidt ก็เคยประกาศลาออกจากบอร์ดของ Apple มาแล้วเช่นกัน เหตุเพราะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในตอนนั้นของ Google มีทิศทางว่าจะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ iPhone จาก Apple นั่นเอง