เนื่องในวันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 27 กันยายนของทุกปี Airbnb ยังคงมุ่งมั่นและสานต่อเจตนารมย์ในการโปรโมทจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวแห่งใหม่ (emerging destinations) ของไทยสู่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผย community-led destination marketing campaign หรือ “เดสทิเนชั่น มาร์เก็ตติ้ง แคมเปญที่ใช้เสน่ห์ของผู้คนในชุมชนเป็นตัวชูโรง” ซึ่งสร้างสรรค์ให้กับจังหวัดบุรีรัมย์ล่าสุดเพื่อผลักดันสู่จุดหมายปลายทางระดับโลก
นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เกียรติเป็นประธานการเปิดงานเสวนาของ Airbnb ในหัวข้อ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับ Airbnb: นอกเหนือจากเมืองใหญ่” (‘Sustainable Travel with Airbnb: Beyond Big Cities’) โดยนางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb ได้เปิดตัวเดสทิเนชั่น มาร์เก็ตติ้ง แคมเปญของ จ.บุรีรัมย์ ชูไฮไลท์ด้วยวิดีโอของสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และวิถีชีวิตท้องถิ่นของชาวบุรีรัมย์ ซึ่งถ่ายทอดผ่านมุมมองของชุมชนเจ้าของบ้านพัก Airbnb
Airbnb จะโปรโมทวิดีโอนี้บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและเดินทางทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ไปยังจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ซึ่งกำลังเติบโตและเป็นที่นิยมในประเทศไทย นอกจากนี้ Airbnb ยังขยายการวางแผน เดสทิเนชั่น มาร์เก็ตติ้ง แคมเปญนี้ไปถึงจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ๆ ในไทย เช่น อำเภอหนองแซงและอำเภอเสาไห้ของจังหวัดสระบุรี เป็นต้น
ในการเสวนาหัวข้อ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับ Airbnb: นอกเหนือจากเมืองใหญ่” (‘Sustainable Travel with Airbnb: Beyond Big Cities’) ครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ได้แก่ นายสุเทพ เกื้อสังข์ รองผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน), ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล, นางสาวชมภู มฤศโชติ ผู้อำนวยการกองสารสนเทศการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายขรรค์ชัย อาราม ผู้บริหาร B-STAY รวมถึง นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb ซึ่งทุกท่านได้ร่วมแสดงมุมมองต่อการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัลและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมทั้งร่วมกันอภิปรายถึงการที่หน่วยงานรัฐและชุมชนท่องเที่ยวท้องถิ่นสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นและช่วยพัฒนาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและการบริการ
ก่อนหน้านี้ Airbnb ได้ร่วมมือกับโครงการ B-Stay ผู้ให้บริการที่พักแบบโฮมสเตย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อจัดสร้างที่พักที่มีความยืดหยุ่นในการรองรับงานโมโตจีพี 2018 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ซึ่ง Airbnb ได้มีการอบรมการใช้งานแพลตฟอร์มและลิสต์โฮมสเตย์มากกว่า 65 แห่งในจังหวัดบุรีรัมย์บนแพลต์ฟอร์ม Airbnb ในช่วงปีที่ผ่านมา
สำหรับงานโมโตจีพี 2019 ซึ่งเป็นงานสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ Airbnb เผยข้อมูลล่าสุด นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาบุรีรัมย์หันมาใช้บริการ Airbnb ในการจองที่พักเพิ่มมากขึ้น
ตั้งแต่ Airbnb ประกาศความร่วมมือกับโครงการ B-Stay ในปีที่แล้ว จำนวนบ้านพักของ Airbnb
ในบุรีรัมย์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 360% ปีต่อปี
บุรีรัมย์ติดอันดับที่ 7 ของจุดหมายปลายทางยอดฮิตของ Airbnb ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 โดยอ้างอิงจากอัตราการเติบโตของยอดการจองที่พักในปีก่อน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนี้มียอดจองที่พักในบุรีรัมย์เติบโตสูงขึ้น 357% ปีต่อปี*
ในช่วงที่มีการจัดงานโมโตจีพีที่บุรีรัมย์ ชุมชนเจ้าของที่พัก Airbnb ในบุรีรัมย์จะมีโอกาสต้อนรับ
ผู้เข้าพักมากกว่า 430 คน ที่เดินทางมาจากกว่า 100 เมืองทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 96% ปีต่อปี**
โดยผู้เข้าพักราว 27% เดินทางมาจากในประเทศ และผู้เข้าพักชาวต่างชาติที่ติดอันดับมากที่สุด เดินทางมาจาก ออสเตรเลีย อินเดีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
ขนาดของการจองที่พักอยู่เฉลี่ย 2.5 คน และมีระยะเวลาการเข้าพัก 3 คืน
ช่วงอายุของผู้เข้าพักที่มีจำนวนมากที่สุดคือ อายุระหว่าง 30-39 ปี ตามมาด้วยผู้เข้าพักในช่วงอายุ 40-49 ปี และเจ้าของที่พักเป็นผู้หญิงมีสัดส่วน 45% ของเจ้าของที่พักทั้งหมดในบุรีรัมย์***
นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าวว่า “จากแรงขับเคลื่อนของนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาจะสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นชุมชนท้องถิ่นและการท่องเที่ยวอย่างจริงแท้นั้นมีมากขึ้น เราสังเกตเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนสถานที่ใหม่ๆ ที่ออกนอกเส้นทางเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ที่พักอันมีเอกลักษณ์และประสบการณ์ในชุมชนของ Airbnb จะช่วยทำให้จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งใหม่ อย่างบุรีรัมย์ ดึงดูดและรองรับผู้มาเยือนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราจะยังคงทำงานร่วมกับรัฐบาลและผู้คนในชุมชนอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อส่งเสริมการเติบโตของการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางแห่งใหม่และยังช่วยกระจายผลประโยชน์ทางการท่องเที่ยวให้กว้างและไกลให้นอกเหนือจากเมืองใหญ่หรือแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม”
นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “การท่องเที่ยวนับเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งสามารถส่งผลเชิงบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน สร้างรายได้ การกระตุ้นการลงทุน และการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมาภาคการท่องเที่ยวได้สร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยและประชาชนคนไทยมากกว่าสองล้านล้านบาท รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีนโยบายสำคัญที่จะยกระดับการท่องเที่ยวของประเทศให้พัฒนาและเติบโต แต่การเติบโตนั้นจะต้องมิใช่การเติบโตในเชิงปริมาณเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องเติบโตอย่างยั่งยืน มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีความหลากหลาย นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนให้เกิดการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศได้ง่ายและทำให้เกิดการกระจายรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวสู่ชุมชนได้อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”