“อิเกีย”(IKEA) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำยอดขายพุ่งเกิน 25,000 ล้านบาท ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ ชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวที่ดีของแบรนด์ห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากสวีเดน เจ้าของสัญลักษณ์สโตร์ทรงกล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินขนาดมหึมา ซึ่งกำลังเปิดประตูต้อนรับลูกค้ายุคใหม่ และสรรค์สร้างแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านให้ทุกคนอย่างต่อเนื่อง
โดยตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจากสวีเดนขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมปรับตัวรับลูกค้ารุ่นใหม่ ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากพนักงานทั้ง 3,400 คน
โดยเฉพาะอิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เปิดประตูต้อนรับผู้เยี่ยมชมสโตร์กว่า 98 ล้านคน สู่สโตร์อิเกียและศูนย์การค้าที่กระจายตัวอยู่ในภูมิภาคนี้ และเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เริ่มโครงการก่อสร้างสโตร์และศูนย์การค้าในทำเลใหม่ จำหน่ายตู้หนังสือ BILLY/บิลลี่ ไปกว่า 113,000 ตู้ ยังไม่รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านราคาย่อมเยาอีกมากมายซึ่งช่วยสรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้แก่คนทั่วไปในทุกๆ วัน
อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็น 1 ใน 12 แฟรนไชส์ของอิเกีย และบริหารงานสโตร์อิเกียรวม 8 แห่งทั่วภูมิภาค ในจำนวนนั้นมี 2 สโตร์ ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย 1 แห่ง ที่จังหวัดภูเก็ต รายได้จากยอดขายของสโตร์เหล่านี้ล้วนรวมอยู่ในผลประกอบการรวมของอิเกียที่ Inter IKEA Group รายงานเมื่อ วันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา โดยปีงบประมาณที่ผ่านมาของอิเกีย เริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน ปี 2561 และสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม ปี 2562
สำหรับ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเจ้าของและบริหารงานสโตร์อิเกียใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ เมื่อรวมยอดขายจากแต่ละสโตร์กับรายได้จากการปล่อยให้เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า ซึ่งตั้งอยู่ติดกับสโตร์อิเกียแต่ละแห่งในภูมิภาค (รวมถึงศูนย์การค้าเมกาบางนา) ทำให้รายได้รวมของบริษัทขยับขึ้นไปอยู่ที่ 29,000 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้ว 20%
“ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า สโตร์อิเกียและศูนย์การค้าของเราก็ยังคงขยายตัวได้ดี เพราะเราเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนทั่วไป ทำให้บ้านของพวกเขาสวยน่าอยู่ขึ้น ช่วยให้พวกเขาใช้ชีวิตประจำวันในบ้านได้ง่าย สะดวกสบาย และยั่งยืนยิ่งขึ้นในต้นทุนที่ย่อมเยา” คริสเตียน รอยเคียร์ กรรมการผู้จัดการ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
พร้อมทั้งกล่าวต่อว่า “เราอยู่ในตลาดที่ตอนนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่เรายังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะสรรค์สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้แก่คนทั่วไปในทุกๆ วันอย่างมั่นคงเหมือนเช่นเคย หรืออาจจะมากเสียยิ่งกว่าเคยด้วยซ้ำ เราจึงมีเป้าหมายที่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่ดีที่สุดในท้องตลาดให้แก่ลูกค้า รวมถึงเสนอสินค้าที่ครอบคลุมทุกระดับราคา ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทายเพียงใด ทุกคนก็จะพบสินค้าที่ถูกใจในราคาที่เหมาะกับงบประมาณของตนเองได้เมื่อมาที่อิเกีย”
“ศูนย์การค้าของเราก็ช่วยเสริมคุณค่าด้วยการสร้างจุดนัดพบหลากหลายแห่งที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของชุมชน เมื่อรวมกันแล้วจึงอาจกล่าวได้ว่า เราเป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกๆ คนจะมาใช้เวลาพักผ่อนอย่างมีคุณภาพได้ตลอดทั้งวันอย่างแท้จริง”
ไฮไลต์จากประเทศไทย และ Southeast Asia
ทั้งนี้ สโตร์ อิเกีย ในประเทศไทย ประกอบด้วย อิเกีย บางนา , อิเกีย บางใหญ่ , ศูนย์บริการสั่งซื้อและรับสินค้าอิเกีย จังหวัดภูเก็ต และ เมกาบางนา โดย Movement ในประเทศไทยของอิเกีย อาทิ
– อิเกีย บางใหญ่ เปิดให้บริการครบ 1 ปี และเป็นสโตร์อิเกียแห่งแรกในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวในระดับสูงที่สุด นั่นคือ LEED Platinum
– ให้บริการจำหน่ายสินค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในประเทศไทย ทุกคนก็เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านราคาย่อมเยาจากสวีเดนกว่า 8,000 รายการ ได้เหมือนๆ กัน
– เมกาบางนามีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ เปิดสวนสาธารณะสำหรับชุมชนและเปิดให้บริการโซนเด็กโซนใหม่ โดยมีผู้เช่าที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้ให้บริการความบันเทิงและพื้นที่เล่นสนุกสำหรับเด็ก ไปจนถึงคลาสเรียนต่างๆ
ขณะที่ไฮไลท์จาก อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปีงบประมาณ 2562 ประกอบด้วย
– เปิดสโตร์อิเกียใหม่ 1 แห่ง ที่ Batu Kawan, Penang ทางตอนเหนือของมาเลเซีย
– อยู่ระหว่างการก่อสร้างสโตร์อิเกียใหม่ 2 แห่ง 1 แห่ง ที่ฟิลิปปินส์ และ 1 แห่ง ที่เม็กซิโก ซึ่งอยู่ในแฟรนไชส์ของอิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน
– ต้อนรับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กว่า 51.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 16 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเว็บไซต์รูปแบบใหม่และแรงบันดาลใจอีกมากมาย
– จำหน่ายหลอดไฟ LED ที่ช่วยประหยัดไฟ 850,000 ดวง ให้แก่ลูกค้าในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค
– จัดส่งสินค้าตามรายการสั่งซื้อทั้งหมด 353,000 รายการ ถึงบ้านของลูกค้าในทั้ง 3 ประเทศ มากกว่ายอดในปีที่แล้ว 38%
– ให้บริการประกอบเฟอร์นิเจอร์แก่ลูกค้ารวม 700,000 ชิ้น หรือนาทีละ 3 ชิ้น!
– แผงโซลาร์เซลล์จำนวน 28,102 แผง บนดาดฟ้าของสโตร์ช่วยผลิตพลังงานหมุนเวียนและลดต้นทุนของเรา
– มีร้านค้าและร้านค้าขนาดเล็กรวม 1,448 ร้านในศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง (รวมทั้งสโตร์อิเกีย)
– อยู่ระหว่างการก่อสร้างศูนย์การค้าใหม่ 1 แห่ง คือ Toppen ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอิเกีย Tebrau ทางตอนใต้ของมาเลเซีย โดยจะเปิดให้บริการวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562
– ยอดขายของ IKEA for Business พุ่งขึ้นถึง 42% โดยจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าที่เลือกซื้อสินค้าอิเกียไปตกแต่งร้านอาหารไปจนถึงห้องชุดตัวอย่าง
ทั้งนี้ การดำเนินงานที่สำเร็จลุล่วงไปได้นี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการสนับสนุนที่ได้รับจากพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรไม่แสวงผลกำไร หน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ อีกมากมายที่คอยสนับสนุนเรามาตลอดการเดินทางของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้