หากเอ่ยถึงคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมในสังคมไทยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เชื่อว่าต้องมีเรื่องของการ “ดูดวง” รวมอยู่ด้วยเป็นแน่ เห็นได้จากการที่เรามีทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์ที่มุ่งมั่นผลิตคอนเทนต์ดูดวงออกมาเป็นจำนวนมาก แถมยังกลายเป็นสีสันที่คนบนโลกออนไลน์นิยมนำมาแชร์ต่อบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง จากวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับเรื่องของดวงอย่างมากนี้ จึงไม่แปลกหากเรื่องราวของการดูดวงจะถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม LINE TODAY ปุ่มที่ 4 ในแอป LINE Messenger และกลายเป็นคอนเทนต์ Top3 ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
คนรุ่นใหม่ ก็ “สายมู”
แต่ในมุมของ LINE TODAY ความน่าสนุกของการดูดวงไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะในฐานะที่เป็นฮับด้านคอนเทนต์ของประเทศไทยที่มียอดเพจวิวกว่า 1 พันล้านเพจวิว และมียูสเซอร์ (User) เข้ามาใช้งานกว่า 36 ล้านคนต่อเดือน LINE TODAY พบว่า สังคมไทยเริ่มมีประยุกต์คอนเทนต์ “ดูดวง” ในทางที่แตกต่างจากเดิมมากขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากการเปิดเผยของคุณสิริกาญจน์ สมนึก หัวหน้าธุรกิจ LINE TODAY ที่เล่าถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของคอนเทนต์ดูดวงว่า พบการเติบโตในกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็เป็นสายมูมากขึ้น
“เราพบว่าคนรุ่นใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น ให้ความสนใจกับคอนเทนต์ดูดวงมากขึ้น และไม่ใช่การสนใจแบบงมงาย แต่เขาใช้คอนเทนต์ดูดวงเพื่อเสริมความมั่นใจ สาเหตุมาจากวัยของเขากำลังเจอกับความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งในการความรัก การเงิน การงาน-การเรียน เขาเลยอยากเสริมความมั่นใจผ่านการเช็คดวง”
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาจากแคมเปญ “คลินิคดูดวง” ของทางค่ายที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม กับการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีปัญหาอยากปรึกษาหมอดูสามารถส่งคำถามเข้ามาได้ และทีมงาน LINE TODAY ก็ได้เชิญหมอดูชื่อดังเข้าไปช่วยตอบคำถามเหล่านั้น
ส่วนคำถามที่โดดเด่นเป็นพิเศษ และถูกนำไปพัฒนาเป็นคลิปวิดีโอ และเชิญหมอดูชื่อดังอย่างหมอวั้ง – วรางคณา อัชชะกิจ มาร่วมตอบปัญหาให้หายข้องใจร่วมกับ นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์ ซึ่งแคมเปญนี้พบว่าสามารถสร้าง Engagement ได้เป็นจำนวนมากทั้งบน Facebook และ Twitter (มีคำถามส่งเข้ามามากกว่า 3,000 คำถาม) อีกทั้งยังนำมาต่อยอดเป็นคลิปวิดีโอได้มากถึง 40 ชิ้น
รู้จักลูกค้า และ แตกต่าง ด้วย “ดวง”
คุณสิริกาญจน์เผยว่า “ผลลัพธ์ของแคมเปญดังกล่าวทำให้ LINE TODAY ได้รู้จักผู้อ่านในมุมที่ลึกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คำถามจากผู้ใช้ Twitter ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นวัยรุ่น เราพบว่าเด็ก ๆ ไม่ค่อยถามเรื่องของตัวเอง แต่มาขอให้อาจารย์ดูดวงให้ไอดอลที่เขาชื่นชอบเยอะมากค่ะ เช่น ไอดอลของเขากำลังเข้าประกวดอยู่ จะผ่านเข้ารอบหรือเปล่า ฯลฯ ส่วนคำถามจากผู้ใช้ Facebook เราพบว่ามีความจริงจัง และเป็นทางการกว่า โดยมากจะถามเรื่องการเงิน การงาน ความรัก”
โดยหลังจากปล่อยแคมเปญคลินิกดูดวงออกไปนั้น คุณสิริกาญจน์เผยว่า ยอดผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่นมีการเติบโตขึ้น 15 – 20%
“จากข้อมูลอินไซต์นี้ ก็ต้องบอกว่าน่าสนใจ เพราะกลายเป็นว่าเราสามารถเข้าถึงใจเด็กอายุ 12 – 14 ปีได้ ส่วนเขาจะติดตามเราต่อหรือไม่ เราไม่ได้คาดหวังในจุดนั้น เพราะเราตระหนักดีว่าโลกมันเปลี่ยนไว แค่อย่างน้อยเราได้ทำความรู้จักกันก็เป็นเรื่องดีแล้ว”
อีกหนึ่งข้อมูลอินไซต์ที่ LINE TODAY พบจากคอนเทนต์ในหมวดดูดวงก็คือ พฤติกรรมผู้อ่านที่ต่างไปจากการอ่านคอนเทนต์ข่าวทั่วไป
“เราพบว่าผู้ที่เข้ามาในหมวดดูดวงของ LINE TODAY จะมีพฤติกรรมที่แตกต่างจากผู้อ่านคอนเทนต์ในหมวดอื่น ๆ (เช่นข่าวทั่วไป) ที่เข้ามาอ่านจบแล้วก็อาจจะไปอ่านอย่างอื่นต่อ แต่สำหรับคอนเทนต์ดูดวง เราพบว่าเขาวนเวียนอ่านเนื้อหาต่าง ๆ นานกว่ามาก”
ในจุดนี้คุณสิริกาญจน์ชี้ว่ามาจากความต่างของ LINE TODAY ที่มีคอนเทนต์จำนวนมากทั้งจากพาร์ทเนอร์สื่อแตะ 200 ราย และคอนเทนต์ที่ผลิตขึ้นเองอีกราว 30% ของคอนเทนต์ทั้งหมด ทำให้ผู้อ่านสามารถเลือกอ่านได้ตามความชอบ โดยหลังจากปล่อยแคมเปญคลินิคดูดวงออกไปนั้น LINE TODAY พบว่าในภาพรวม ของหมวดดูดวง ยอดเพจวิวมีการเติบโตขึ้น 180% เลยทีเดียว
Next Step ของการดูดวงต้อง Personalization
แต่การดูดวงในอนาคตจะไม่จบเพียงแค่นี้ ในอนาคต LINE TODAY ก็คาดหวังว่าจะนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในแพลตฟอร์มมากขึ้น รวมถึงหมวดคอนเทนต์ด้านการดูดวงด้วย
โดยคุณสิริกาญจน์เผยถึงแนวทางของการดูดวงที่อาจเกิดขึ้นบน LINE TODAY ว่า ต้องการใช้เทคโนโลยีมาทำให้การดูดวงตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของผู้อ่าน และ Personalize มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เป็นเรื่องที่เหมาะกับผู้ใช้งานท่านนั้นโดยเฉพาะ
“เป้าหมายของ LINE TODAY คือการสร้างการเติบโตให้กับแพลตฟอร์ม และเป็นฮับด้านคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตไทยกว่า 57 ล้านคน นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเราถึงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเห็นว่า ยังมีช่องว่างที่ LINE TODAY สามารถเติบโตได้อีกมากรออยู่ และการดูดวงก็เป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์นี้เช่นกัน” คุณสิริกาญจน์กล่าวปิดท้าย