เมื่อเอ่ยถึง “โปรโมชั่น” คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง “การลดราคา เพื่อสร้างยอดในแต่ละห้วงเวลา” แต่ลึกๆ แล้วบทบาทของการทำ “โปรโมชั่น” ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงแค่ดึงคนเข้ามาซื้อสินค้า หรือ Drive ให้เกิด Traffic จาก online ไปสู่หน้าร้าน โดยหวังเพิ่มยอดขายในช่วงจัดแคมเปญเท่านั้น จริงๆ แล้ว การตั้ง “โปรโมชั่น” สามารถกลายเป็น “Shopping movement” ที่ใครๆ ก็รอคอยและกลายเป็นที่จดจำ จนผู้บริโภคจำชื่อโปรโมชั่นแทนภาพความเป็นแบรนด์ ซึ่งอุบัติการณ์นี้มีนัยยะสำคัญที่ใครๆ อาจจะคาดไม่ถึง หลายแบรนด์อยากสร้าง “โปรโมชั่น” ให้กลายมาเป็นเครื่องมือสร้าง “แบรนด์” และผลลัพธ์ทางอ้อมที่เกิดขึ้น คือ การกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้สินค้าที่ร่วมรายการแบบที่นักช้อปมารู้ตัวอีกทีก็มีของที่ร่วมรายการใส่เต็มตะกร้าเพื่อรอจ่ายเงินแล้ว ซึ่งจากไอเดีย “โปรโมชั่นสร้างแบรนด์ดิ้ง” ส่งให้ “ชิ้นที่สอง 1 บาท” แคมเปญซิกเนเจอร์ของวัตสัน เป็นโปรโมชั่นแคมเปญที่น่าจับตามอง เพราะนอกจากจะสร้างแรงกระเพื่อมด้วย #ชิ้นที่สอง1บาท บนโลกโซเชียลแล้ว ยังสามารถสร้าง Traffic ที่หนาแน่นสู่หน้าร้านตั้งแต่วันแรกที่แคมเปญปล่อยออกมา
“ชิ้นที่สอง 1 บาท” จับจุดความสนุกของการช้อป สู่โปรเด็ดในดวงใจลูกค้า
เพราะวัตสันรับฟังทุกความเห็น และให้ความสำคัญกับทุกคอมเมนต์ จากดาต้าที่วัตสันเชื่อมต่อกับลูกค้าอยู่เสมอ ผ่านช่องทาง โซเชียล มีเดีย ได้แก่ Facebook, Twitter , IG และ Line ซึ่งมีผู้ติดตามรวมกันกว่า 9 ล้านราย วัตสันจึงเห็นความเคลื่อนไหวและรับรู้ถึงความรู้สึกของลูกค้าว่าติดตามหรือชื่นชอบสินค้าลักษณะแบบไหน ซึ่งการปล่อยแคมเปญ “ชิ้นที่สอง 1 บาท” วัตสันหยิบเอาดาต้าเหล่านั้นมาพัฒนาโปรโมชั่นให้มีเอกลักษณ์ จับมาเป็นกิมมิคเพื่อการสื่อสาร โดยสินค้าที่นำมาจัดโปรโมชั่นชิ้นที่สอง 1 บาท ในครั้งนี้ วัตสันเน้นสินค้าที่หลากหลาย ครบทุก ประเภททั้ง Skin Care, Hair Care, Cosmetic และ Wellness เพื่อตอบโจทย์และเชื่อมต่อความรู้สึกกับลูกค้าระหว่างช้อปปิ้ง ทั้งทางหน้าร้าน จนสู่วัตสันออนไลน์
โลกออนไลน์ต้องจดจำ #ชิ้นที่สอง1บาท ที่มาพร้อมกับ icon 1 Baht สัญลักษณ์หลักประจำโปรฯ ที่ไม่เคยมีแบรนด์ในสายร้านค้าปลีก Health & Beauty ทำมาก่อน
สำหรับโลกออนไลน์ ผู้ใช้ทวิตเตอร์เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูง วัตสันจึงสร้างคอนเทนต์ออกมาอย่างสม่ำเสมอและพาตัวแบรนด์เองไปเป็นส่วนหนึ่งในบทสนทนา ผ่าน @WatsonsThailand ซึ่งการ tweet ในแต่ละครั้ง วัตสันอยากสร้าง Shopping movement ผ่านออนไลน์สู่ออฟไลน์ และออนไลน์สู่ออนไลน์ โดยปัจจุบันนี้ วัตสัน ประเทศไทย มีดาต้าที่เชื่อมต่อกับลูกค้า จาก platform โซเชียล มีเดียต่างๆ อย่างต่อเนื่องจากจุดนี้วัตสันจึงมีความแข็งแกร่งในการสื่อสาร โดยทำให้แคมเปญเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ล่าสุด วัตสัน ได้ Co-Creation กับ Twitter platform ร่วมกันสร้างความแตกต่างบนโลก ‘ทวิตภพ’ ด้วย #ชิ้นที่สอง1บาท พร้อม Emoji icon 1 Baht สัญลักษณ์หลักประจำโปรฯ Pop up ขึ้นมา นับเป็น surprise เล็กๆ ที่ลูกค้าจะได้เจอเพิ่มความสนุก และสร้างความประทับใจจากแบรนด์สู่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์วัตสัน ซึ่งปรากฎการณ์ Emoji icon 1 Baht นี้ ยังไม่เคยมี แบรนด์ในสายร้านค้าปลีก Health & Beauty ทำมาก่อน
สินค้าไหนฮอตฮิตอินเทรนด์… วัตสันไม่พลาดหยิบมาร่วมโปรฯ
เพราะเราอยากให้ร้านวัตสันเป็นสถานที่ที่มีครบจบทุกความต้องการด้านสุขภาพและความงาม การคัดเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อมาร่วมโปรโมชั่นแคมเปญ “ชิ้นที่สอง 1 บาท” นอกจากจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีแล้ว ยังต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกระแสหรือความสนใจของลูกค้าอีกด้วย ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าให้ความสนใจและใช้จ่ายมากที่สุดในช่วงโปรโมชั่นแคมเปญ “ชิ้นที่สอง 1 บาท” 3 อันดับแรก ได้แก่ Skincare, Personal care และ Derma skincare เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
นวลพรรณ ชัยนาม Customer Director วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ตอนนี้ สำหรับธุรกิจ Health & Beauty Retail มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงและดุเดือดมาก การพูดเรื่องราคาและโปรโมชั่นในมิติเดียวอาจจะยังไม่พอในการสร้างความแตกต่าง เราจึงต้องหันมาสร้างการจดจำให้โปรโมชั่นแคมเปญมีความเชื่อมโยงกับลูกค้า ให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมกับ #ชิ้นที่สอง1บาท ซึ่งเราตั้งเป้าให้ แคมเปญ “ชิ้นที่สอง 1 บาท” เป็น ‘Shopping movement’ ที่ใครๆ ก็ต้องนึกถึง”