ปัญหาสุขภาพฟันมักไม่มีสัญญาณเตือน รู้ตัวอีกทีก็สร้างความเจ็บปวด จนต้องหันหน้าไปหาทันตแพทย์ นั่นก็เพราะคนส่วนใหญ่ยังขาดองค์ความรู้เรื่องของการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม เกิดเป็นความเคยชินด้านพฤติกรรม ที่สร้างปัญหาต่อสุขภาพช่องปาก จนทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาทางทันตกรรมจำนวนมาก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถป้องกันปัญหานี้ได้ เพียงแค่ทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี ถูกตำแหน่ง และมีตัวช่วยที่ดีการดูแลช่องปาก
ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากพรีเมี่ยมจากสวิสฯ บุกไทย
คูราพรอกซ์ (CURAPROX) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากระดับพรีเมี่ยมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกคิดค้นและพัฒนาเมื่อ 47 ปีก่อน (ปีค.ศ.1972) โดยทันตแพทย์ชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาโรคเหงือก ได้ตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาโรคเหงือกอักเสบที่เกิดขึ้นกับนิสิตทันตแพทย์กลุ่มหนึ่ง จนพบว่า นิสิตทันตแพทย์กลุ่มนี้มีพฤติกรรมในการทำความสะอาดช่องปากที่ไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความเร่งรีบ หรือแม้แต่ความละเลย เช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ที่มักทำกิจวัตรประจำวันด้วยความคุ้นชินจนมองข้ามความใส่ใจไป
จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่ช่วยให้ผู้คนสามารถปรับพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพช่องปากได้ อย่างเช่น โรคเหงือก ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการสะสมของคราบแบคทีเรียจำนวนมากบริเวณขอบเหงือก อันเกิดจากการแปรงฟันเฉพาะบริเวณผิวหน้าฟัน ไม่ได้ทำความสะอาดในบริเวณขอบเหงือกซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากกว่า แปรงสีฟันของคูราพรอกซ์ จึงดีไซน์เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้ ด้วยด้ามจับรูปทรง 8 เหลี่ยมเพื่อให้ผู้ใช้สามารถจับแปรงสีฟันได้ถูกองศาการแปรงฟันมากขึ้น อีกทั้งยังใส่ขนแปรงจำนวนมาก เพื่อให้ได้แปรงที่แน่นละเอียด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดช่องปากได้ดียิ่งขึ้น แม้ในเวลาเร่งรีบ
ตลอดระยะ 4 ทศวรรษ บริษัท Curaden AG ได้พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากมาอย่างต่อเนื่องแบบครบวงจร โดยปัจจุบันในประเทศไทยวางจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ แปรงสีฟัน แปรงซอกฟัน และยาสีฟัน อีกทั้งยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแปรงสีฟัน ที่ช่วยสนับสนุนการรักษาของทันตแพทย์ โดยแบ่งตามประเภทของการรักษา 8 รุ่น เช่น แปรงสีฟันสำหรับผู้ติดเครื่องมือจัดฟัน แปรงสีฟันเด็กสำหรับฟันน้ำนม แปรงสีฟันเด็กสำหรับฟันชุดผสม แปรงสีฟันหลังการผ่าตัด หรือฉายรังสีเป็นต้น
สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทันตแพทย์ทั่วโลก มอบองค์ความรู้แก่ผู้บริโภค
นอกจากผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากแล้ว Curaden AG ต้องการที่จะส่งเสริมการดูแลสุขภาพช่องปากแบบเฉพาะบุคคลอย่างเหมาะสม จึงสร้างเครือข่ายระหว่างทันตแพทย์และคนไข้ พร้อมทั้งได้ขยายแนวความคิดนี้ออกไปกว่า 75 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดนำแนวคิดดังกล่าวเข้ามาใช้ เข้ามาในประเทศไทย ภายใต้การดูแลของบริษัท คูราเดน (ประเทศไทย) จำกัด
คุณเอกสิทธิ์ นนทรีย์กล่าวว่า หลังจากได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่าย CURAPROXอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อปี2017 และเริ่มทำการตลาด ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างจริงจัง จนสามารถสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายในปีที่ผ่านมาได้กว่า 300% โดยมีสัดส่วนมาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มแปรงสีฟันถึง70% ทางบริษัทแม่ “Curaden AG” จึงตัดสินใจเข้ามาร่วมทุน พร้อมแต่งตั้งบริษัท คูราเดน (ประเทศไทย) จำกัด ให้ดำเนินธุรกิจและวางกลยุทธ์ในการสร้างตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ด้วยแนวทางในการทำงานที่สอดคล้องกับการทำงานของบริษัทแม่ที่สนับสนุนองค์ความรู้ของการป้องกันก่อนการเกิดโรค บริษัทฯ จึงวางกลยุทธ์มุ่งเน้นการตลาดทางตรงเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเลือกใช้อุปกรณ์ในดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสมแก่ผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายทันตแพทย์ในไทย โดยสนับสนุนการทำงานร่วมกับทันตแพทย์และสถานพยาบาล รวมถึงหน่วยงานการศึกษาทั่วประเทศไทย มากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีแผนกระจายการสนับสนุนไปสู่จังหวัดในหัวเมืองใหญ่มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและเผยแพร่แนวความคิดของการป้องกันก่อนการเกิดโรค(Preventive Dentistry) ให้ครอบคลุมมากขึ้น
พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาช่องปากแบบรายบุคคล
ผลิตภัณฑ์ของCURAPROXที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยมี 3 กลุ่ม ได้แก่ แปรงสีฟัน แปรงซอกฟัน และยาสีฟัน โดยบริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานให้แก่ผู้บริโภคและสนับสนุนการรักษาของทันตแพทย์ได้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มแปรงสีฟัน ที่พัฒนาให้สอดคล้องกับประเภทของการรักษาทางทันตกรรม 8 รุ่น ยกตัวอย่างเช่น แปรงสีฟันสำหรับผู้ติดเครื่องมือจัดฟัน แปรงสีฟันเด็กสำหรับฟันน้ำนม แปรงสีฟันเด็กสำหรับฟันชุดผสม แปรงสีฟันหลังการผ่าตัด หรือฉายรังสี เป็นต้น โดยสินค้ามีราคาตั้งแต่ 205 -240 บาท
“แม้ว่าในการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของคูราพรอกซ์จะเป็นตลาดระดับพรีเมียม แต่เราไม่อยากให้ราคาเป็นตัวตัดสิน เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ราคาสินค้า แต่เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับ นั่นคือสุขภาพช่องปากและฟัน หลังจากที่ผู้บริโภคได้เรียนรู้วิธีการดูแลและป้องกันจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ เพื่อลดการไปพบทันตแพทย์ที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า”
ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากไทยยังเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากในประเทศไทยปัจจุบันคาดว่ามีมูลค่า 19,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปากในกลุ่มพรีเมี่ยม (ออรัลแคร์) 4,000 ล้านบาท โดยมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่อง 15% ต่อปี จากหลายปัจจัยสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และการวิจัย กระบวนการผลิต ช่องทางในการจัดจำหน่ายแบบไลฟ์สไตล์ที่มีจำนวนมากขึ้น ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ให้การตอบรับที่ดีต่อเรื่องใหม่ๆ หรือ Product Innovation และหลายแบรนด์มีการขยายสายผลิตภัณฑ์มากขึ้น
“ในด้านการแข่งขันในตลาด เราจะเห็นว่าวันนี้มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคเองก็ให้ความสนใจ ในการมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาทดลองใช้ ดังนั้นเชื่อว่าหากตลาดสุขภาพในภาพรวมยังคงเติบโตขึ้น จะส่งผลให้ตลาดออรัลแคร์เติบโตตามไปด้วย”
ต้องทลายกำแพง“การแปรงฟันเป็นเรื่องน่าเบื่อ”ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
แม้ว่าบริษัทจะไม่มีคู่แข่งโดยตรงอย่างชัดเจน แต่คุณเอกสิทธิ์ มองว่า การผลักดันแบรนด์น้องใหม่สู่กลุ่มผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องง่ายด้วยความมุ่งมั่นและความเอาจริงเอาจังในการบุกตลาดไทยของทางบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างการรับรู้ในผู้บริโภคชาวไทยให้เข้าใจและรู้ถึงปัญหาสุขภาพช่องปากให้ได้อย่างแท้จริง เพื่อเลือกตัวช่วยในการดูแลอย่างเหมาะสมและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี
“ความท้าทายวันนี้ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภครู้จักแบรนด์คูราพรอกซ์ ในการทำตลาดช่วงแรกจะโฟกัสไปที่กลุ่มคนที่สนใจสุขภาพและจริงจัง วันนี้เราจึงยังไม่เห็นคู่แข่งที่ชัดเจน แต่เราเป็นแบรนด์แรกที่พยายามสื่อสารถึงการเข้ามาช่วยให้ผู้บริโภคสามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้ถูกต้องตามหลักทันตกรรมและเป็นเรื่องง่ายขณะที่หลายแบรนด์พยายามสื่อสารว่าขนแปรงอ่อนนุ่ม ทำความสะอาดได้ล้ำลึก มันเป็นแมสเสจในเชิง General Purpose ผมเชื่อว่าเวิร์คแต่น่าจะCover ได้ประมาณ 60% แต่ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพปากที่แตกต่างกันแต่ละบุคคล ไม่มีใครพูดถึง ดังนั้นคูราพรอกซ์จะเข้ามาเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภคตั้งแต่ต้น เรามีความเข้าใจในเชิงพฤติกรรม และหากคุณจะจริงจังกับการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจะต้องทำอย่างไรบ้าง”
เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ บริษัทฯจึงวางแผนทางการตลาดในช่วง 1-3 ปีต่อจากนี้ โดยจะเน้นการสื่อสารแบรนด์ผ่านการสร้างประสบการณ์ใช้จริงแก่กลุ่มผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด “ENJOY THE DIFFERENCE BY CURAPROX”ในคอนเซ็ปต์ เลือกที่จะต่างอย่างโดดเด่น กับ CURAPROX เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสถึงคุณค่าที่แท้จริงของการใช้ผลิตภัณฑ์ในแบบที่ง่ายและสนุก เพื่อทลายกรอบความคิด ”เรื่องการแปรงฟันเป็นเรื่องน่าเบื่อ”ให้หมดไป
เปิดตัวแอปฯ สร้างเครือข่ายคนใส่ใจสุขภาพฟันในไทย
ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายคูราพรอกซ์ เป็นพันธมิตรกับ “DragCura” ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและฟัน (Oral Care) ในระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 9 สาขา ขณะเดียวกันยังเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ และล่าสุดเปิดตัวแอปพลิเคชั่น CURAPROX Thailandเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพช่องปาก พร้อมทั้งมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
“การมีแอปพลิเคชั่นจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สื่อสารกับผู้บริโภคผ่านคอนเทนต์การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากที่เรานำเสนอ เพื่อให้รู้จักเรามากขึ้น เมื่อรู้จักแล้วก็เข้ามาใช้เป็นช่องทางในการสั่งซื้อสินค้า มาหาจุดจำหน่ายที่อยู่ใกล้ตัว อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเราอยากสร้างเป็นคอมมูนิตี้ที่มีทันตแพทย์เข้ามาให้แชร์ความรู้ ให้คำปรึกษาด้านการดูแลสุขภาพปาก”
อย่างไรก็ตามอยากเห็นคนพูดเรื่องการดูแลช่องปากเหมือนคนพูดเรื่องวิ่งมาราธอน อยากเห็นทันตแพทย์ที่อยากสนับสนุนคนไข้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังการรักษา ไม่ใช่รับการรักษาแล้วแต่ไม่ได้ปรับพฤติกรรมควบคู่ไปด้วย ซึ่งเราทราบว่ามีทันตแพทย์กลุ่มนี้เยอะมาก เพียงแต่ยังไม่ได้มีโอกาสได้ทำเรื่องนี้คูราพรอกซ์จะเข้ามาสนับสนุนการทำงานและผลักดันร่วมกัน เพื่อให้เกิด community ของการป้องกันก่อนการเกิดโรค(Preventive Dentistry) ในประเทศไทยคุณเอกสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย