เข้าสู่ฤดูหนาวและเทศกาลเฉลิมฉลองเป็นความเคยชินของผู้บริโภคคนไทยที่จะพบกับกิจกรรม “ลานเบียร์” ตามลานหน้าห้างสรรพสินค้า แต่ปีนี้จะเป็นปีแรกในรอบ 10-20 ปีที่ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิล์ด จะถูกนำไปจัดกิจกรรมอื่น ปิดฉากมนต์ขลังลานเบียร์ ซึ่งในแต่ละปีจะมีเม็ดเงินสะพัดในกิจกรรมนี้หลักร้อยล้าน
ทำไม “ลานเบียร์” หายไป
นอกเหนือจากปัญหาด้านกฎหมายที่ยังคงค้างคาอยู่หลายส่วน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ แวะเวียนมาตรวจสอบบ่อยครั้ง แต่ประเด็นสำคัญที่สุดที่ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ในฐานะเจ้าของสถานที่ในการจัดลานเบียร์ โดยเฉพาะในแลนด์มาร์กสำคัญอย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ข้อมูลคือ การปรับคอนเซ็ปต์ในการครีเอทอีเวนท์ให้มีความหลากหลายและสอดคล้องกับ “ไลฟ์สไตล์” ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
“ลานเบียร์อาจไม่แมตช์กับไลฟสไตล์คนเมืองมากนัก ทุกวันนี้คนไม่ได้กินเบียร์ที่ลานเบียร์แล้ว โลกเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วเปลี่ยนเร็วมาก เราไม่สามารถทำอะไรเดิมๆ ได้ แต่จำเป็นต้องปรับให้ทันผู้บริโภคเพื่อให้เรายังเป็นที่ที่ผู้บริโภคเลือกจะมาอยู่เสมอ”
ทั้งนี้ ปีนี้นับเป็นปีแรกในรอบ 10-20 ปี ที่ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ปกติแต่ว่าไม่มีการจัดลานเบียร์ โดยทางเซ็นทรัลมองว่า แม้จะไม่มี “ลานเบียร์” โดยเฉพาะในพื้นที่แลนด์มาร์กก็ไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบ เพราะลานเบียร์ไม่ใช่เพียงแค่ช้อยส์เดียวที่ผู้บริโภครอคอย และพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่มักมองหาสถานที่ใหม่ๆ ไม่ได้ยึดติดอยู่แค่รูปแบบเดิมๆ ประกอบกับบริเวณโดยรอบก็มีทางเลือกมากมาย เช่น CTW ก็มี Groove เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่ตอบสนองผู้บริโภคในย่านนั้นได้เป็นอย่างดี มีร้านดังที่แจ้งเกิดจากบริเวณดังกล่าว เช่น ชงเจริญ ที่ตอนนี้ฮิตติดตลาด ต่อคิวตั้งแต่ช่วงเย็น
อีกทั้งเป็นที่สังเกตได้ว่าในช่วง 2-3 ปีหลัง “ลานเบียร์” เองก็มีคนน้อยลง ที่เห็นว่าคึกคักมีเฉพาะในช่วง “วันหยุด” หรือ วันที่มีวงดังมาเล่นเท่านั้น จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ต้องนำเอา วงหรือนักร้องระดับแม่เหล็กมาดึงลูกค้า จนลิสต์รายชื่อศิลปินแทบจะเป็นคอนเสิร์ตขนาดย่อมเลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทางห้างฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ก็น่าจะรับรู้ถึงจำนวนทราฟฟิกเป็นอย่างดี
3 พันกว่าตารางเมตร ที่ไร้ลานเบียร์
สำหรับพื้นที่กว่า 3 พันตารางเมตร บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญระดับประเทศ ก็สามารถครีเอทอีเวน์ต่างๆ ที่สามารถดึงคนเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำในเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คอนเสิร์ต อาหาร แฟชั่น หรือวาไรตี้ต่างๆ ที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันได้มากขึ้น ประกอบกับพื้นที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นับเป็นหนึ่งใน Strategic Area ที่เป็นหนึ่งใน Destination ระดับโลกที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในหลากหลายรูปแบบมากกว่าการปักธงว่าต้องทำเฉพาะลานเบียร์เท่านั้น
ที่สำคัญนอกจากการได้คอนเทนต์ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับลูกค้าได้แล้ว ในแง่ของการสร้างรายได้ ทางเจ้าของพื้นที่ยังประเมินว่า ทางเดินใหม่ของทางซีพีเอ็นนี้ยังสามารถสร้างรายได้รีเทิร์นกลับมาได้มากกว่าการนำไปทำลานเบียร์แบบปีที่ผ่านมาๆ อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การยกเลิกพื้นที่ลานเบียร์ท่ีอยู่หน้าศูนย์การค้าของทางซีพีเอ็นนั้น ไม่ได้ทำการยกเลิกในทุกศูนย์ แต่เลือกในบางพื้นที่ที่ค่อนข้างอ่อนไหว เช่น หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือบางศูนย์ทางภาคใต้ในบางพื้นที่เท่านั้น ส่วนในสาขาอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการเช่นเดิม แต่สำหรับเซ็นทรัลเวิล์ด แนวโน้มนับจากนี้ “ลานเบียร์” คงไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
ก็นับว่าเป็นความท้าทายของผู้ประกอบแบรนด์เบียร์เจ้าใหญ่ทั้ง 3 รายในตลาด ที่จะต้องปรับตัว สร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ เข้ามาทดแทนในช่วงเทศกาลซึ่งเป็นฤดูกาลขายหลักของอุตสาหกรรม “แอลกอฮอล์”