การเป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็มีความท้าทายอยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยหนึ่งในความท้าทายที่ Facebook ต้องเผชิญเรื่อยมาก็คือ ประเด็นที่ว่า Facebook จะถูกโค่นได้หรือไม่ จากใคร และเมื่อไร
เห็นได้จากการศึกษาโดยบริษัท Activate พบว่า ในระยะหลัง ผู้ใช้บริการ Facebook บางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการใช้งานแพลตฟอร์มลดลงอย่างเห็นได้ชัด จาก 14 ชั่วโมงต่อเดือนเมื่อปี 2017 ลดเหลือ 9 ชั่วโมงต่อเดือนในปี 2019 หรือเท่ากับหายไปถึง 26% ซึ่งนั่นจะกระทบต่อเม็ดเงินโฆษณาแน่นอน ถ้าหาก Facebook ไม่มีผู้ใช้งานจำนวน 2,000 ล้านคนเป็นตัวประกัน
ขอบคุณภาพจาก activate
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการสำรวจจาก eMarketer ก็พบว่า ผู้ใช้ในกลุ่มอายุ 12 – 34 ปีนั้นเริ่มตีตัวออกห่างจาก Facebook มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยแพลตฟอร์มที่พวกเขาหนีไปเล่นแทนได้แก่ Instagram, Snapchat และ TikTok รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบเฉพาะกลุ่ม ที่พัฒนาขึ้นมาตอบโจทย์คนที่รักและสนใจบางเรื่องอย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างโซเชียลมีเดียสำหรับกลุ่มนิช เช่น Product Hunt สำหรับกลุ่มเทคโนโลยี, MyAnimeList สำหรับคนรักอนิเมะ และมังกะ, BakeSpace สำหรับคนรักการทำอาหารและขนม, Untappd สำหรับคนรักเบียร์, Mathoverflow สำหรับคนรักคณิตศาสตร์, PurseForum สำหรับคนรักแฟชั่น, High There สำหรับคนรักกัญชา, Wattpad สำหรับคนรักการอ่าน
การสำรวจของ Activate ยังพบว่า อเมริกันชนในปัจจุบันเล่นโซเชียลมีเดียราว 5.8 แพลตฟอร์มต่อคน และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 แพลตฟอร์มต่อคนภายในปี 2023 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มนี้เองที่จะกลายเป็นความท้าทายของ Facebook ในอนาคต
โดย Michael Wolf ผู้ก่อตั้ง Activate เผยว่า จากเทรนด์ดังกล่าว การโค่นอาณาจักรของ Facebook จึงอาจเกิดขึ้นได้เร็ว ๆ นี้ แต่ไม่ได้มาจากผู้ท้าชิงรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ (เช่น TikTok) ตรงกันข้าม มันจะเกิดภาวะที่ผู้ใช้งานหันไปใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียรายเล็ก ๆ ที่ให้ประสบการณ์เฉพาะกลุ่มแทนมากกว่าการเล่น Facebook ที่ให้ประสบการณ์แบบทั่วไป ซึ่ง Wolf ชี้ว่า นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมในระยะหลัง Facebook มีการโปรโมตบริการอย่าง Groups ที่ให้ประสบการณ์เฉพาะกลุ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง