เปิดแผน HOOQ ผู้ให้บริการวิดีโอออนดีมานด์ในการสู้ศึกคอนเทนต์รับปี 2020 เผยมีการจับมือค่ายหนัง บริษัทโปรดักชั่น ผลิตออริจินัลซีรีส์ 6 เรื่องสำหรับผู้ชมชาวไทย หลังพบข้อมูลว่าผู้ใช้งาน 50% นิยมดูหนังไทยเป็นอันดับหนึ่ง
โดยคุณปิยนุช มีมุข กรรมการผู้บริหาร HOOQ ประเทศไทย กล่าวถึงลูกค้าของ HOOQ ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันแบ่งเป็นกลุ่มหลักได้ 4 กลุ่มคือ เด็กวัยรุ่น (GenZ), คนเริ่มทำงาน (GenY/Millennials), GenX และกลุ่มครอบครัว (Family with Kids) ขณะที่ Business Model ของบริษัทนั้นจากเดิมที่เติบโตมาจากการสมัครสมาชิกรายเดือนเป็นหลัก ในปี 2020 จะมีการขยายฐานไปสู่กลุ่มผู้ชมที่ต้องการรับชมคอนเทนต์ฟรี หลังพบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความยินดีที่จะดูโฆษณา
โดยพันธมิตรของ HOOQ ในด้านคอนเทนต์รีรันได้แก่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และไทยรัฐทีวี ที่จะนำรายการดังมาให้ดูย้อนหลัง ยกตัวอย่างเช่น ละครใหม่ของช่อง 3 ที่ฉายตั้งแต่ช่วงธันวาคมนี้จะมาอยู่บน HOOQ ภายใน 2 วันหลังออนแอร์บนช่อง เป็นต้น
คุณปิยนุช มีมุข
เพิ่มพาร์ทเนอร์
นอกจากนั้น เดิมที่ HOOQ เคยจับมือเป็นพันธมิตรกับ AIS Mobile, AIS Fiber ปัจจุบันก็ยังมี dtac เพิ่มเข้ามา รวมถึงพันธมิตรใหม่สุดฮอตอย่าง Grab ด้วย ส่วนสาเหตุที่ดึง Grab นั้น คุณปิยนุชเผยว่า มาจากสภาพการจราจรของกรุงเทพฯ ที่มีปัญหารถติดมาก จึงเปิดให้ผู้ใช้ Grab สามารถใช้ Grab Reward แลกซื้อบริการจาก HOOQ รายเดือนมูลค่า 119 บาทและได้ตั๋วเช่าหนังใหม่ที่เพิ่งออกจากโรงมา 3 เดือนมูลค่า 120 บาทฟรีไปรับชมได้ด้วย
สำหรับพาร์ทเนอร์ในส่วนของคอนเทนต์นั้น ในปี 2020 จะมีการเปิดตัวภาพยนตร์และซีรีส์จาก สหมงคลฟิล์ม, ไฟว์สตาร์, เอ็ม พิคเจอร์, จีดีเอช, ฮอลลีวูด ไทยแลนด์ และยังรวมถึงการ์ตูนอะนิเมะญี่ปุ่นจาก TIGA และ DEX รวมถึง HOOQ Original อีก 6 เรื่องได้แก่ นางนอน – The Cave, จอมขมังเวทย์ 2020 – Necromancer 2020, Someone, King of Gamers, ลองของ ซีรีส์ – Art of The Devil Series และ รักซ่อนแอบ – Love Stalker