ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลกระทบจากการพัฒนาระบบอัตโนมัติในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดการลดพนักงานโรงงานลงไปเป็นจำนวนมาก แต่ความท้าทายในยุคต่อไปไม่ได้จำกัดอยู่แค่พนักงานโรงงานแล้ว เพราะมันได้คืบคลานมาสู่กลุ่มคนทำงานที่มีการศึกษาดี เงินเดือนสูงด้วย เห็นได้จากผลการศึกษาล่าสุดจาก Brookings Institution ชี้ว่า ในอนาคตอันใกล้ AI อาจเข้ามาแย่งงานของกลุ่ม White Collar ที่ตำแหน่งงานเหล่านี้ส่วนใหญ่มักครอบครองโดย “ผู้ชาย” กันแล้ว
โดยนักวิจัยจาก Brookings Institution ได้มีการศึกษาสิทธิบัตรเกี่ยวกับ AI และนำมาวางเทียบกับตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ AI จะสามารถก้าวขึ้นมาทำงานนั้นแทนได้
ผลก็คือ นักวิจัยพบว่า AI สามารถส่งผลกระทบต่องานในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาของ AI ที่รวดเร็วมาก เนื่องก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยของ Michael Webb จากมหาวิทยาลัย Standford ทำในลักษณะเดียวกันและพบว่า AI สามารถแทนที่งานได้ราว 740 ประเภทจาก 769 ประเภทเท่านั้น
งานวิจัยนี้ยังพบอีกด้วยว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีมีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่โดย AI มากกว่าคนที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลายถึง 5 เท่า และหากเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทก็ไม่ได้ต่างกันนักโอกาสเสี่ยงจะถูกแทนที่งานนั้นสูงกว่าคนจบมัธยมปลาย 4 เท่าเช่นกัน
อย่างไรก็ดี อาชีพที่มีค่าจ้างไม่สูงมากนัก เช่น ผู้ช่วยทันตแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่ในครัว เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก AI มากเท่าตำแหน่งงานอื่น ๆ
นอกจากนั้น หากเทียบเป็นเพศ งานวิจัยนี้พบว่า เพศชายเป็นเพศที่ค่อนข้างเสี่ยงถูก AI เข้ามาแทนที่มากกว่าเพศหญิง เนื่องจากตำแหน่งงานที่ผู้ชายทำอยู่ทุกวันนี้มักเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ หรืองานด้านเทคนิค และมักได้รับเงินเดือนสูง รายงานชิ้นนี้ยังกล่าวด้วยว่า
ตรงกันข้ามกับผู้หญิงที่มีหน้าที่การงานเกี่ยวข้องกับการศึกษา, งานที่ปรึกษา, งานด้านเฮลท์แคร์ หรือการดูแลผู้ป่วย ตำแหน่งงานเหล่านี้พบว่าไม่ได้รับผลกระทบจาก AI เท่าไรนักเช่นกัน