ตอกย้ำว่า Content is King ตัวจริงต้องยกให้ละครพีเรียด “บุพเพสันนิวาส” ของค่ายบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ที่ “ช่อง 3” ขอหยิบมารีรันลง “จอทีวี” เป็นรอบที่ 3 คราวนี้ให้ดูแบบ Non Stop ช่วงไพรม์ไทม์ละคร 2 ทุ่ม ยาวทั้งสัปดาห์ส่งท้ายปี 16 วันรวด!
ละครฮิต บุพเพสันนิวาส 15 ตอนจบ เริ่มออนแอร์ทาง “ช่อง 3” ในช่วงไพรม์ไทม์ เวลา 20.20-22.50 น. ครั้งแรก และตอนแรกวันที่ 21 ก.พ.2561 และตอนจบ วันที่ 11 เม.ย.2561 โกยเรตติ้งถล่มทลาย ทั่วประเทศสูงสุด 18.6 หรือมีคนดูเฉลี่ย 12.2 ล้านคน และเรตติ้งเฉลี่ยทุกตอนอยู่ที่ 13.2 หรือคนดูเฉลี่ย 8.8 ล้านคนต่อตอน กลายเป็นละครที่กวาดเรตติ้งสูงสุดในยุคทีวีดิจิทัลนับตั้งแต่ปี 2557 เก็บรายได้โฆษณาไปเต็มๆ นาทีละ 450,000 บาท
แม้ลาจอไปแล้ว “ออเจ้าและพี่หมื่น” ยังคงมีกระแสแรง ทำให้ช่อง 3 ตัดสินใจนำ ละครดัง “บุพเพสันนิวาส” มาออกอากาศซ้ำ (รีรัน) ต่อทันทีในเดือน พ.ค.2561 ช่วงละครค่ำ เวลา 18.45-19.45 น.เวอร์ชั่น Director Cut เป็นการรีรันหลังละครเพิ่งลาจอไปเพียง 1 เดือน การมารีรันช่วงละครค่ำยังทำเรตติ้งได้ดี เก็บเงินโฆษณาได้อีกเต็มๆ นาทีละ 360,000 บาท แบบไม่มีต้นทุนผลิต
นอกจากจอทีวีแล้ว กระแสออเจ้า ยังได้รับความนิยมรับชมทางสื่อออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศ มีการชมออนไลน์กว่า 20 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ผ่านแพลตฟอร์มเน็ตฟลิกซ์ ช่อง 3 ยังขายลิขสิทธิ์ละคร “บุพเพสันนิวาส” ไปออกอากาศในอีกหลายประเทศ
ช่อง 3 รีรัน “ออเจ้า” ดูเต็มๆ 16 วันรวด
ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปีนี้ “ช่อง 3” หันมาใช้กลยุทธ์ออนแอร์คอนเทนต์แบบมาราธอนเช่นเดียวกับช่องโมโนและช่อง One บ้าง โดยนำละครอมตะ “บุพเพสันนิวาส” มารีรันลงจอเป็นรอบที่ 3 ช่วงละครไพรม์ไทม์ 2 ทุ่ม คราวนี้ให้ดูกันตลอดสัปดาห์ต่อเนื่องแบบ Non Stop 16 วันรวด จันทร์-ศุกร์ เวลา 20.20 – 22.35 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15-22.30 น. เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 25 ธ.ค.2562 ถึงวันที่ 9 ม.ค.2563
โดยเป็นการออกอากาศแทนละคร 3 เรื่อง ที่จะทยอยอวสานในเดือนธ.ค.นี้ เมื่อเรื่องใดมาถึงตอนจบ “บุพเพสันนิวาส” ก็จะเข้าไปออนแอร์แทน สำหรับละครที่ออกอากาศอยู่ จันทร์-อังคาร เรื่องดาวหลงฟ้า, พุธ-พฤหัส เรื่อง ละคร Tee ใครทีมันส์ และศุกร์-อาทิตย์ เรื่องเขาวานให้หนูเป็นสายลับ ถือเป็นการรีรันเพื่อรอละครเรื่องใหม่ มาลงจอ หลังจบช่วงเทศกาลวันหยุดยาวไปแล้ว
กลยุทธ์ “ลดต้นทุน” รีรันคอนเทนต์วันหยุดยาว
ปรากฏการณ์ “ทีวี” นำคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็น “ซีรีส์” มาออนแอร์มาราธอน หรือ “ละคร” มารีรัน ในช่วงวันหยุดยาว ทั้งช่วงสงกรานต์และส่งท้ายปี มีให้เห็นมากขึ้น
ประเด็นนี้ ภวัต เรืองเดชวรชัย ผู้อำนวยการธุรกิจ-สายงานการวางแผน และกลยุทธ์สื่อโฆษณา บริษัท มีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI อธิบายว่า ปกติช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปี เป็นที่รู้กันของวงการทีวีว่าผู้ชมจะลดลง เพราะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ เม็ดเงินโฆษณาช่วงครึ่งเดือนหลัง ธ.ค. ถึงต้นเดือน ม.ค. จึงเบาบางกว่าปกติ จากจำนวนผู้ชมที่อยู่หน้าจอลดลง ทำให้ “สื่อทีวี” มักจัดโปรโมชั่นในส่วนลดโฆษณาแบบจัดหนัก เรียกว่า ลด 50% หรือ ซื้อ 1 แถม 1 เพื่อเรียกลูกค้าโฆษณาในช่วงนี้
อีกวิธีที่ทีวีนำมาใช้หากเม็ดเงินโฆษณาในตลาดช่วงส่งท้ายปีไม่มีจริงๆ ซึ่งก็ชัดเจนว่าปีนี้ธุรกิจโฆษณาไม่ดีนัก จากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว สื่อทีวีหลายช่องจึงเลือกใช้วิธี “ลดต้นทุน” ด้วยการนำคอนเทนต์ โดยเฉพาะ “ละคร” ที่เคยได้รับความนิยมมารีรัน
ปีนี้ “ช่อง 3” เลือกละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่เคยได้รับความนิยมสูงในช่วงที่ออกอากาศครั้งแรกปี 2561 มารีรันทางจอทีวีเป็นรอบที่ 3 ต้องถือว่าบุพเพสันนิวาส เป็นละครที่ฉายซ้ำได้เรื่อยๆ และยังเรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ ก็คงรีรันไม่ได้บ่อยเท่าเรื่องนี้
การนำคอนเทนต์มารีรันในช่วงวันหยุดยาววัตถุประสงค์หลักก็เพื่อลดต้นทุน หากนำละครใหม่มาออกอากาศ ซึ่งมีต้นทุนสูงตอนละ 1-2 ล้านบาท หากขายโฆษณาไม่ได้น้อย ซึ่งปกติช่วงวันหยุดยาวสินค้าไม่ลงโฆษณาอยู่แล้ว นั่นเท่ากับว่าจะเสี่ยงกับการขาดทุนสูง ทีวีช่องต่างๆ โดยเฉพาะช่องที่เน้นละคร จึงเลือกที่จะเก็บคอนเทนต์ใหม่ ไว้ออกอากาศหลังหมดช่วงวันหยุดยาวไปแล้ว
แน่นอนว่าช่วงส่งท้ายปีวันหยุดยาว ปกติทีวีมักจัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดโฆษณามากกว่าปกติ ยิ่งนำคอนเทนต์มารีรัน ก็จะให้ส่วนลดหรือของแถมมากกว่าปกติ และต้องยอมรับว่าปีนี้ธุรกิจโฆษณาอยู่ในภาวะซบเซา และคงต้องไปรอลุ้นฟื้นตัวในปีหน้า