ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจการศึกษาในไทยเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของโรงเรียนนานาชาติ ทว่าสร้างโรงเรียนอาจไม่ยาก แต่การทำให้โรงเรียนกลายเป็นที่ยอมรับในวงกว้างไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากหลักสูตรที่ต้องเข้มข้นแล้ว แนวทางการสอนทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ รวมถึงกิจกรรมเสริมทักษะต่างๆ สร้างความพร้อมในการเป็นผู้นำให้กับเด็ก เยาวชนในอนาคต ล้วนเป็นจิ๊กซอสำคัญในการผลิตนักเรียนคุณภาพ ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตท่ามกลางการแข่งขันในยุคดิจิทัล
หนึ่งใน โรงเรียนนานาชาติ ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง และพูดถึงในวงกว้างอยู่ตอนนี้ คือ เด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School – DBS) เพราะรูปแบบการเรียนการสอนของที่นี่มีหลักแนวคิดเทียบชั้นเดียวกับโรงเรียนชั้นนำในต่างประเทศ ที่เข้มข้นทั้งเรื่องของหลักสูตรในทุกระดับตั้งแต่ระดับชั้น Pre-EY จนถึง Year 9 (ระดับอนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 2)
โดยมีการนำไอทีระบบเน็ตเวิร์คที่ทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอนด้วย รวมถึงมีหลักสูตรเฉพาะในการสอบ IGCSE และ A-Level ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก พร้อมกับให้ความสำคัญกับกิจกรรมต่าง เพื่อสร้างความพร้อมทั้งทางด้าน IQ และ EQ ให้กับนักเรียนเพื่อพร้อมกับการเรียน และการแข่งขันในอนาคต
Denla British School ได้ความรู้และความสุข
“เด่นหล้า บริติช สคูล” เริ่มต้นจากแนวคิดของสองผู้บริหารสำคัญ คือ ผศ.ดร.ต่อยศ ปาลเดชพงศ์ และดร.เต็มยศ ปาลเดชพงศ์ ซึ่งทั้งคู่จบการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยชั้นนำใน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยทางด้านผศ.ดร.ต่อยศ จบปริญญาเอก สาขาการจัดการงานวิศวกรรม มหาวิทยาลัยพอร์ตแลนด์สเตต ส่วน ดร.เต็มยศ จบปริญญาเอก สาขาวิชาการจัดการเชิงปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตท” มร. มาร์ค แมคเวย์ (Mr Mark McVeigh) ครูใหญ่โรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล กล่าว พร้อมเล่าย้อนถึงที่มาของโรงเรียนนานาชาติพรีเมี่ยมนี้ว่า เมื่อทั้งคู่เรียนจบ ก็ตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการยกระดับภาคการศึกษาในประเทศไทย โดยหวังให้เด็กไทยและเด็กๆ ในอาเซียนให้มีความสามารถทัดเทียมระดับโลก รวมถึงมองเห็นเทรนด์สำคัญคือ ผู้ปกครองซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความต้องการส่งลูกหลานเรียนในโรงเรียนนานาชาติมากขึ้น เพราะต้องการปูพื้นฐานทางด้านภาษา และความรู้ ให้แก่เด็กตั้งแต่เยาว์วัยเพื่อให้พร้อมกับโลกอนาคต จึงลงทุนกว่า 1,500 ล้านบาท เปิดโรงเรียนนานาชาติเด่นหล้า บริติช (DBS) ขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ. 2560
โดยจุดแข็งสำคัญของ DBS ที่ต่างไปจากสถาบันการศึกษาอื่นๆ คือ เรื่องของหลักสูตรวิชาการที่เป็นแบบเดียวกับหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษที่ดีที่สุด รวมถึงเน้นการเสริมสร้างภาวะผู้นำให้แก่เด็กตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้พร้อมกับการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ที่สำคัญคือ รูปแบบการเรียนการสอนจะเน้นที่ตัวเด็กเป็นสำคัญ เพื่อที่เด็กนักเรียนจะได้รับทั้งความรู้และความสุขควบคู่กันไป
ทั้งนี้ DBS ผ่านมาตรฐานของการเป็นสมาชิกของสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย (International School Association of Thailand – ISAT) และ Council of International School (CIS) ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำอันดับหนึ่ง ที่ประเมินคุณภาพและรับรองมาตรฐานทางการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติทั่วโลก
4 DBS Ways ตอบโจทย์ทุกการเรียนรู้
เพื่อให้ DBS เป็นโรงเรียนนานาชาติ ที่ผลิตและสร้างคนคุณภาพ ที่เก่งทั้งด้านวิชาการ และมีความสุขพร้อมรับการการเรียน การทำงานในอนาคตได้จริง แนวทางการดำเนินงานจึงยึดหลักสำคัญ “4 DBS Pillars” หรือปรัชญาความเป็นเลิศทั้ง 4 ด้าน
1. การใช้หลักสูตรและรูปแบบการจัดการเรียนการสอนจากโรงเรียนเอกชนชั้นนำของประเทศอังกฤษ ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านวิชาการและด้านกิจกรรม มาปรับปรุงให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย รวมถึงการเสริมภาษาจีน และภาษาไทยเข้าไปในหลักสูตรเพื่อให้เข้ากับความต้องการของโลกอนาคต (Enhanced British Curriculum)
2. การส่งเสริมให้เด็กนักเรียนมีสัมฤทธิผลทางวิชาการเต็มศักยภาพ (Academic Excellence for All)
3. การพัฒนาและปลูกฝังทักษะความเป็นผู้ประกอบการ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ความกล้าหาญในการตัดสินใจและลงมือทำ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในอนาคต (Entrepreneurship and Creative Thinking)
4. การปลูกฝังให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของค่านิยมสากลและค่านิยมระดับชุมชน รวมไปถึงการรักษาวัฒนธรรมไทย (Community and Global Perspectives)
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ DBS ได้รับการยอมรับ และก้าวขึ้นมาอยู่ในแถวหน้าของวงการโรงเรียนนานาชาติ เพราะมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการ และกิจกรรม ควบคู่กับการนำโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีระบบเน็ตเวิร์คที่ทันสมัยมาใช้ในการเรียนการสอน โดยภาพลักษณ์ของ DBS มีจุดแข็งที่โดดเด่นอยู่ 5 ประการ
1. ความเป็นเลิศทั้งทางด้านวิชาการ โดยมีหลักสูตรวิชาหลักคือ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ที่เข้มข้น เช่นเดียวกับที่สอน
2. ด้านหลักสูตรการพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ทั้งทางด้านกีฬา ดนตรี ร้องเพลง การละคร ศิลปะ การเขียนโปรแกรมมิ่ง และโค้ดดิ้ง ปัจจุบันมีนักเรียนของ DBS เป็นนักกีฬาระดับชาติและนานาชาติ ในประเภทกีฬา ฟุตบอล ว่ายน้ำ ยิงธนู ดนตรี
3. การเพิ่มการเรียนการสอนอีก 1.5 ชั่วโมงทุกวัน (ระบบ Extended Day) เพื่อให้นักเรียนได้โฟกัสในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าชมรม (Club) และช่วงเวลาในการทำการบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวันต่อไป (Prep)
4. บุคลากรครูผู้สอนในระดับแนวหน้าของวงการศึกษาต่างประเทศที่เป็นเจ้าของภาษา และมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา
5. ระบบ Facility ที่ใหญ่และเพียบพร้อม ห้องเรียนแต่ละห้องให้มีพื้นที่กว้างขวางกว่าโรงเรียนนานาชาติทั่วไปถึง 50% พร้อม Facility ที่ครอบคลุมกว่า 40 จุดทั่วโรงเรียน อาทิ สนามฟุตบอลปูด้วยหญ้าระดับฟีฟ่า ลู่วิ่งมาตรฐาน สระว่ายน้ำ (น้ำเกลือ) ในร่มขนาดใหญ่ ห้องยิมนาสติก สนามเทนนิส สนามซ้อมกอล์ฟ ห้องเรียนการแสดง ห้องเรียนดนตรี ห้องซ้อมดนตรีส่วนตัว สตูดิโอคอมพิวเตอร์ ห้องเวิร์คช็อปวิทยาศาสตร์ ห้องแสดงสินค้าและนิทรรศการ เป็นต้น
ในเรื่องของการเรียนการสอน ในปีนี้ได้เพิ่มความเข้มข้นทางด้านเนื้อหาให้รอบด้านยิ่งขึ้น โดยได้มีการเปิด 5 โปรแกรมพิเศษใหม่ คือ
1. Beacon Core & Aspire, Cartesian เฟ้นหาและส่งเสริมนักเรียนที่มีความฉลาดและมีส่วนร่วมกับโรงเรียนมากที่สุด
2. Comprehensive ESL programme เป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมด้านความเป็นเลิศทางด้านภาษาอังกฤษ
3. Accelerated Reader programme โปรแกรมเร่งอ่าน มีประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อให้นักเรียนมีความก้าวหน้าในการอ่านภาษาอังกฤษ
4. โปรแกรม Y10 และ IGCSEs เป็นการวางแผนการเรียนแบบเข้มข้นเพื่อการสอบ IGCSE ที่สำคัญหลักสูตรของ DBS จะออกแบบการเรียนการสอนเพื่อเข้าถึงข้อกำหนดในการเรียนแต่ละรายวิชาเพื่อสอบ IGCSE
5. GL performance วัดความสามารถของเด็กในวิชาภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (GL Assessment) เพื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลก The Progress Test Series (PT Series) เพื่อที่จะได้ทราบจุดแข็งจุดอ่อนของนักเรียน ซึ่งจะทำให้ครู้ผู้สอนวางแผนการสอน และแนะนำได้อย่างเหมาะสม และเกิดประสิทธิ์ภาพแก่เด็กนักเรียนได้มากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาการเรียนรู้ขั้นสูงในรูปแบบการดำเนินงานขององค์การสหประชาชาติ ในหลักสูตร หลักสูตร Co-Curricular โดยการใช้โปรแกรม Model United Nations ซึ่งจะช่วยให้เด็กนักเรียนได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และกล้าเป็นผู้นำแสดงความคิดเห็นต่อกลุ่มคนจำนวนมากอีกด้วย
ในขณะที่ มร. เจมส์ ลิง (Mr James Lyng) รองคุณครูใหญ่โรงเรียนเด่นหล้า บริติช สคูล กล่าวย้ำถึงหลักในการเตรียมการสอบ IGCSE และ A-Level ว่า หลักสูตรจาก DBS เป็นการเรียนการสอนแบบ Enhanced British Curriculum มีความเข้มข้นและสากลมาก โดยที่ผ่านมา นักเรียนที่จบการศึกษาจากหลักสูตร Enhanced British Curriculum พร้อมผลการสอบ A-Level ที่ยอดเยี่ยม ส่วนใหญ่จะได้รับการยกเว้นในการเรียนปีหนึ่งของการศึกษาที่มหาวิทยาลัยในอเมริกา รวมถึงมหาวิทยาลัยทั่วโลก อย่าง สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ยุโรป และแคนาดา เพราะรากฐานการศึกษาของนักเรียนที่จบหลักสูตรนี้มีความแข็งแกร่งมากนั่นเอง ดังนั้นนักเรียนที่ตั้งเป้าหมายเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ วันนี้ DBS พร้อมแล้วที่จะช่วยสร้างความพร้อม สานฝันนั่นให้เป็นจริง
พร้อมกันนี้ “มร. เจมส์ ลิง” เปิดใจให้สัมภาษณ์ต่อว่า การเรียนการสอนตั้งพัฒนาอยู่เสมอ อย่างในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญมากต่อการเรียนรู้ และบนโลกของการทำงาน ทำการค้า วันนี้ก็เข้าสู่ยุคดิจิทัลกันหมด ดังนั้นนอกจากให้ความรู้ทางด้านวิชาการ แล้ว ในขณะเดียวกันทาง DBS ก็ต้องมุ่งปูฐานสำคัญให้แก่นักเรียนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตได้อย่างเหมาะสม
เช่น การสร้างเสริมให้นักเรียนรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบของตน และการเคารพในสิทธิของผู้อื่น ซึ่งเป็นรากฐานทางจริยธรรมที่สำคัญ และทักษะในการติดต่อสื่อสารและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม ซึ่งรวมถึงการทำงานเป็นทีม และภาวะความเป็นผู้นำ, การให้ความรู้พร้อมทั้งทักษะในการเรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ผ่านวิธีการและกระบวนการที่หลากหลาย โดยเฉพาะทักษะการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการสร้างนวัตกรรม และอีกส่วนที่สำคัญ คือทักษะด้าน IT (Computer และ IT Literacy) เด็ก ๆ ควรจะใช้โปรแกรมพื้นฐานในการสื่อสาร ค้นคว้าข้อมูล และผลิตสื่อดิจิทัลได้ และความเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม (Programming/Coding) โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องมีความรู้พื้นฐาน และมีวิธีการคิดแบบเป็นระบบ เหล่านี้เป็นต้น
การให้ความสำคัญกับหลักสูตร การเรียนการสอน และองค์ประกอบทุกด้านที่มีความเกี่ยวโยงกับการเรียนรู้ของนักเรียน ทำให้วันนี้ DBS สามารถผลิต และสร้าง นักเรียนที่มีทักษะรอบด้าน (Well-rounded)ได้รับการพัฒนาศักยภาพที่เด่นอย่างเต็มที่ และมีความสามารถในการสื่อสารทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนที่ดีเยี่ยม มีความโดดเด่นด้านวิชาการ และมีความสุข “Nurturing Global Leaders”