เป็นอีกหนึ่งการเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกครั้งของ Grab ที่ล่าสุดลงไปจับมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง เพื่อขยายบริการเรียกรถออนไลน์ในประเทศเหล่านั้นเพิ่มขึ้น
โดยผู้ที่มีการจับมือกับ Grab นั้นประกอบด้วย JapanTaxi ผู้ให้บริการแท็กซี่ของญี่ปุ่น และ Careem ผู้ให้บริการในตะวันออกกลาง ซึ่งดีลนี้จะทำให้ Grab สามารถเข้าถึงรถของ JapanTaxi ได้ถึง 70,000 คัน ขณะที่ Careem ก็มีรถในสังกัดมากถึง 1 ล้านคัน (ปัจจุบัน Careem ถูก Uber ยื่นขอซื้อกิจการอยู่ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 นี้)
โดยข้อตกลงนี้ทำให้ผู้ใช้งาน Grab สามารถเรียกรถในเมืองอย่าง กรุงโตเกียว, เกียวโต, นาโกย่า, ซัปโปโร, โอกินาวา (ญี่ปุ่น), ดูไบ -โดฮา (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), อิสตันบูล (ตุรกี), กรุงไคโร (อียิปต์), กรุงริยาด (ซาอุดิอาระเบีย), คูเวต, กรุงลาฮอร์ (ปากีสถาน), กรุงมัสกัต (โอมาน) และกรุงอัมมาน (จอร์แดน) ได้แล้ว
Grab บอกว่า การเรียกรถในเมืองเหล่านี้ สามารถจ่ายได้ด้วย GrabPay ซึ่งจะได้แต้มรีวอร์ดมาสะสม รวมถึงสามารถเลือกใช้ภาษาในแอปได้ตามที่เรากำหนดด้วย
ทำไมต้องร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอื่น ๆ
สำหรับที่มาของดีลนี้ อาจต้องย้อนไปเมื่อกลางปี 2019 เมื่อ Grab ตัดสินใจลงทุนเป็นเงิน 8 ล้านเหรียญสหรัฐในสตาร์ทอัพของอังกฤษชื่อ Splyt ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งาน Grab ที่เคยกระจุกตัวอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเรียกรถในภูมิภาคอื่น ๆ ได้ด้วย ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวที่มาจากอังกฤษ ก็สามารถใช้ Grab ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยเหตุที่ Grab มองการณ์ไกลไปถึงจุดนี้เนื่องจากมีดาต้าตัวหนึ่งจากบริษัทวิจัยชื่อ GlobalData ที่ชี้ว่า ในปี 2022 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นจะมีตัวเลขแตะ 155 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้ทำให้ Grab หันไปพัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว, รีวิวร้านอาหาร, หรือแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจมากขึ้น นอกจากนั้น ยังเคยมีการจับมือกับ Booking.com เพื่อให้สามารถจองรถ Grab จาก Booking.com ได้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งในส่วนของประเทศไทย คู่แข่งอย่าง GET ก็เคยประกาศว่า การเรียกรถข้ามประเทศนี้เป็นแผนขั้นต่อไปของบริษัทไม่ต่างกัน
ทว่า ความสามารถพิเศษในการจองรถจากผู้ใช้งานข้ามประเทศนี้ยังไม่ได้เปิดใช้ทั่วไป มีเพียงผู้ใช้บริการในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์เท่านั้นที่สามารถทำได้ ส่วนผู้ใช้บริการในมาเลเซีย Grab บอกว่าจะสามารถใช้งานได้ในต้นปี 2020 ขณะที่ผู้บริโภคชาวไทย ต้องรอต่อไปก่อนจ้า