HomeFinancialเปิดแผนกลยุทธ์ ‘เคทีซี’ ปี 2563 ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา และ ยากกว่าที่เคย

เปิดแผนกลยุทธ์ ‘เคทีซี’ ปี 2563 ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา และ ยากกว่าที่เคย

แชร์ :

เพราะทุกวันนี้โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี “คน” และ “ธุรกิจ” จึงต้องปรับตัวและหมุนตามให้ทัน มิฉะนั้นแล้วจะต้องถูกดีดออกจากโลกใบนี้อย่างแน่นอน   KTC หรือ บัตรกรุงไทยฯ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ถูกท้าทายอย่างหนักหน่วงในปัจจุบัน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ปี 2563 ไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา และ ยากกว่าที่เคย

ระเฑียร ศรีมงคล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC อธิบายว่า  สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศของปีหน้ายังไม่สามารถประเมินอะไรได้เลย  และยังเชื่อว่าสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกายังไม่จบ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเนื่องอีกปี รวมไปถึงประเทศไทย

แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะดูเป็นเชิงลบ แต่ KTC กลับพลิกมุมในการดำเนินธุรกิจ ในปี 2563 อย่างรัดกุมมากขึ้น และเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน  ด้วยความแท้จริง (Authenticity)   เพราะการได้ลูกค้าสินเชื่อไม่มีคุณภาพเข้ามา จะส่งผลกระทบต่อกิจการได้ ดังนั้นจึงเข้มงวดในการอนุมัติบัตรและการให้สินเชื่อมากขึ้น  พร้อมกับการหาช่องทางการเติบโตใหม่ๆ จึงตั้งเป้าหมายเป็นแพลตฟอร์มด้านการเงินที่อยู่คู่กับผู้บริโภคคนไทย ด้วยการเป็น แพลตฟอร์มการเงิน และ แฟลตฟอร์มสินเชื่อรายย่อย ที่มุ่งเน้น 3 จุดแข็งหลักคือ ปลอดภัย รวดเร็ว และสร้างประสบการณ์ที่ดี เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิกและคนไทย รองรับการขยายธุรกิจใหม่เข้าไปในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันและธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพิ่มเติมจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่มีอยู่ ซึ่งจะทำให้เคทีซีสามารถนำเสนอสินเชื่อให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายและครบวงจร

“เห็นความไม่แน่นนอนในปีหน้าค่อนข้างเยอะ และประเมินอะไรมากไม่ได้  เชื่อมั่นว่าธุรกิจทั้งบัตรเครดิตที่เราเป็นผู้นำ จะเติบโตไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมแน่นอน เราจะบรรลุตามเป้าหมายได้ แต่อาจจะไม่ง่ายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา  ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อบุคคล (บัตรกดเงินสด) มี Player มีการแข่งขันมาเยอะมากทั้ง Bank  และ Non-Bank  ที่เดิมเติบโตปกติ 15-18% สบายๆ  ก็ไม่ง่ายอีกต่อไป”

แต่ถึงอย่างไร KTC ก็เตรียมพร้อมโอกาสการเติบโตในช่องทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น นาโนไฟแนนซ์  พิโกไฟแนนซ์ และโดยฉพาะ สินเชื่อพี่เบิ้ม  สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ และ สินเชื่อเงินสด ที่เพิ่งคลอดออกมาได้ไม่นานนัก และคาดว่าจะช่วงสร้าง New S-Curve ใหม่ให้กับ KTC ในเร็วๆนี้

 

วิเคราะห์ดาต้า มัดใจผู้ใช้บัตรเครดิต

พิทยา  วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร – ธุรกิจบัตรเครดิต  เสริมว่า “ถึงแม้ว่าในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัว แต่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีสามารถเติบโตได้ถึง 10% หรือประมาณ 150,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปี 2019 จะสามารถรักษาสัดส่วนการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยรวม  ได้ที่ประมาณ 10% ซึ่งหล่นลงมาจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15%

สำหรับปี 2020 แนวคิดการทำตลาดบัตรเครดิตเคทีซีที่กำหนดไว้คือ “Everyone, everyday, and everywhere” ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้บัตรเคทีซีเป็นบัตรที่สมาชิกเลือกใช้ทุกวันและทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือการใช้จ่ายที่ร้านค้าในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม โดยนอกจากการมุ่งเน้นความคุ้มค่าผ่านคะแนน KTC FOREVER แล้ว เคทีซีจะให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิก ทั้งสร้างความมั่นใจ ความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้บัตร รวมถึงการสร้างความพึงพอใจให้กับสมาชิก โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลในการเรียนรู้พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เพื่อนำเสนอสิ่งที่สมาชิกบัตรชื่นชอบ รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยควบคู่ไปกับความรู้และประสบการณ์ของทีมการตลาดเพื่อสรรสร้างสิ่งที่แตกต่าง ทั้งนี้ เคทีซีจะยังคงให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายพันธมิตรร้านค้าให้ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ของสมาชิกมากที่สุด อีกทั้งจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการสื่อสารมากขึ้น เพื่อให้สมาชิกบัตรได้รับทราบข้อมูลที่ตรงใจ มีประโยชน์ และไม่พลาดโปรโมชั่นดีๆ จากเคทีซี”

ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อบุคคล  จะมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า  แนะนำการใช้วงเงินอย่างมีวัตถุประสงค์แสดงถึงการวางแผนเพื่อความก้าวหน้าในชีวิต และวินัยทางการเงินที่ดี โดยตั้งเป้าเพิ่มปริมาณลูกค้าและพันธมิตรในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการศึกษาให้มากขึ้น  ผ่านกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ (Financial Literacy) และบทความที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบของสื่อที่เข้าใจง่าย รวมทั้งต่อยอดการจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปแบ่งปันความรู้เพื่อประกอบอาชีพพร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อนำไปสร้างรายได้ในอนาคต

 

ถูกคน ถูกโปรดักซ์ ถูกเวลา

กลยุทธ์การขยายฐานสมาชิกในปี 2020 ผู้บริหาร KTC อธิบายว่า  น่าจะเป็นความท้าทายและสร้างโอกาสที่ดีให้กับเคทีซี ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น จะทำให้เราสามารถนำเสนอทางเลือกของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายย่อยได้อย่างครอบคลุม เพื่อนำเสนอสินค้าได้ถูกต้องกับความต้องการของลูกค้า

โดยตั้งเป้าหมายสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ 350,000 ใบ และบัตรกดเงินสด   “เคทีซี พราว” 210,000 ใบ รวมทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “สินเชื่อเคทีซีพี่เบิ้ม” ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และสินเชื่อเงินสด สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของเคทีซีจะยังเป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป โดยจะมุ่งเน้นช่องทางการรับสมัครผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสมาชิกทุกรายที่สนใจสมัครผลิตภัณฑ์เคทีซี ส่วนช่องทางหลักในการสรรหาสมาชิกสินเชื่อผ่านธนาคารกรุงไทย และผู้แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินเคทีซีอิสระ (Outsource Sales) จะเน้นการเพิ่มจำนวนและศักยภาพตัวแทนขายให้สูงขึ้น ซึ่งเคทีซีให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรทางการขายที่มีคุณภาพมาโดยตลอด เพื่อให้มั่นใจได้ว่านอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องชัดเจนแล้ว จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสมาชิกต่อไป

 “สำหรับกลยุทธ์การขยายพันธมิตรร้านค้าในปี 2020 จะมุ่งนำเสนอบริการรับชำระที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของร้านค้าในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท โดยจะให้ความสำคัญกับตลาดการผ่อนชำระ “KTC FLEXI” ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐาน ปิยศักดิ์ เตชะเสน  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า อธิบาย

 

ยึดหลัก Agile ทำงานคล่องตัว ตอบโจทย์ทุกรูปแบบ

เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายขององค์กร “พนักงาน” เป็นกลไกสำคัญซึ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อทันต่อการแข่งขันและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า  KTC ปรับตัวครั้งใหญ่สู่การเป็น “องค์กรคล่องตัว” (Agile Organism) หรือองค์กรที่มีชีวิต เพื่อให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจให้ตรงและเท่าทันกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า เริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนแนวคิดการทำงานแบบเดิมๆ ที่เหมือนเครื่องจักร ไปสู่การทำงานแบบใหม่ที่มีโครงสร้างองค์กรชัดเจน ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ผ่าน 5 องค์ประกอบหลักคือ กลยุทธ์ (Strategy) สร้างโอกาสและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสมาชิกเคทีซีและสังคมไทย  โครงสร้าง (Structure) กำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคลากรให้ชัดเจน สนับสนุนให้บุคลากรในทีมดูแลงานและแก้ปัญหาได้เอง สร้างผลงานที่ดี  กระบวนการ (Process) คิดวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในการทำงาน สร้างวงจรแห่งการเรียนรู้และสนับสนุนให้เกิดการตัดสินใจ ลดความเสี่ยงและสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น  คน (People) ยึดโยงคนที่มีความสามารถโดดเด่นเข้าด้วยกัน ส่งเสริมให้บุคลากรเกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเป็นเจ้าขององค์กร ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี (Technology) เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานที่ต้องผนวกเข้ากับทุกมิติขององค์กร


แชร์ :

You may also like