HomePR Newsซมโปะ ประกันภัยตั้งเป้าเป็นประกันภัยการเดินทางอันดับ 1 ของเอเชียภายใน 3 ปี [PR]

ซมโปะ ประกันภัยตั้งเป้าเป็นประกันภัยการเดินทางอันดับ 1 ของเอเชียภายใน 3 ปี [PR]

แชร์ :

ผศ.ชญณา ศิริภิรมย์

ซมโปะ ประกันภัย เปิดแผนรุกตลาดประกันภัยปี 2020 ตั้งเป้าเป็นประกันภัยการเดินทางอันดับ 1 ของเอเชียภายใน 3 ปี พร้อมรุกหนักตลาดประกันภัย ด้วยการดัน 3 โปรดักส์ใหม่ลุยรายย่อย ทั้งประกันภัยเดินทางรายปี ประกันสุขภาพ และประกันรถกระบะเจาะกลุ่มผู้ซื้อรถมาใช้งานจริงและ SME

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ผศ.ชญณา ศิริภิรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซมโปะ ประกันภัย ประเทศไทย ได้มีการปรับกลยุทธ์และโครงสร้างของบริษัทเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้องค์กร และขับเคลื่อนให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจประกันภัย โดยในปี 2020 นี้ ซมโปะ ประเทศไทย ต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ของบริษัทและการบริการในฐานะ Theme Park for Security, Health and Wellbeing คือ เป็นศูนย์รวมทุกความสุขของความมั่นคง สุขภาพดี และความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้า ด้วยปรัชญาการให้บริการแบบ Customer Centric ที่ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าในทุกรายละเอียดตามแนวทาง “ดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น” โดยมีเป้าหมายพัฒนาแบรนด์ร่วมกับ Sompo Holding Asia สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ให้ก้าวขึ้นเป็นประกันภัยการเดินทางอันดับ 1 ในเอเชียภายในปี 2023 นี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ อีก 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ประกันกระบะใจใจ ประกันสุขภาพเต็มเต็ม และ ประกันภัยการเดินทางรายปี Global Diplomat ที่เจาะกลุ่มคนเดินทางบ่อย เริ่มจากช่วงต้นปี มีการเปิดตัวโปรแกรมประกันการเดินทาง SOMPO GO JAPAN by Travel Joy เนื่องจากการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในกลุ่มลูกค้าคนไทยเติบโตมากขึ้นทุกปี มีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นตลอดทั้งปีกว่า 1.13 ล้านคนต่อปี ซึ่งทางซมโปะจะบุกตลาดนี้ในช่วงปีหลังให้มากขึ้น โดยเน้นไปยังกลุ่มคนทำงาน และคนรุ่นใหม่ที่ชอบท่องเที่ยวด้วยตัวเอง คาดว่าปีหน้าจะมีคนไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกเป็น 1.5 ล้านคน พร้อมชูจุดเด่นพิเศษไม่เหมือนใครสำหรับประกันการเดินทาง เช่น การคุ้มครองตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้านไปจนถึง 24 ชั่วโมงหลังเดินทางกลับประเทศ บริการนักแปลภาษาทางการแพทย์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือต้องเข้าโรงพยาบาลที่ประเทศญี่ปุ่น สามารถเข้ารับการรักษาและออกจากโรงพยาบาลได้เลยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเอง (Cashless) ทั้งการรับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD)

ผศ.ชญณา ยังระบุต่อถึงกลยุทธ์ทางการตลาดและทิศทางขององค์กรในปี 2020 ว่า ซมโปะ ประเทศไทย เน้นการเลือก segment ที่ไม่ใช่ Red Ocean โดยเล็งเห็นว่า MEGA Trend ของปีหน้า คือ เรื่องของสุขภาพในระดับมหภาคของตลาดรายย่อย ดังนั้น นอกจากจะชูเรื่องประกันการเดินทางแล้ว ซมโปะยังมุ่งนำเสนอประกันอุบัติเหตุและสุขภาพส่วนบุคคล (Personal Accident & Health) เข้ามา พร้อมตั้งเป้าลงสนามประกันสุขภาพ ด้วย ประกันสุขภาพ เฮทธ์ เต็มเต็ม (Health Tem Tem) ผลิตภัณฑ์เรือธงชิ้นที่ 2 ที่คุ้มค่าในเรื่องดูแลรักษาตัวเมื่อเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาล และยังนำเบี้ยประกันไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ถึง 15,000 บาท

ส่วนการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มตลาดต่างจังหวัดให้มากขึ้น ก็มีประกันรถกระบะใจใจ เป็นสินค้าเรือธงชิ้นที่ 3 เหมาะกับกลุ่มคนขับรถกระบะเพื่อใช้ทำมาหาเลี้ยงชีพ เช่น พ่อค้า แม่ค้า, เจ้าของธุรกิจสวนผลไม้ สวนยาง ฯลฯ โดยเน้นให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม ในส่วนของเงินชดเชยรายได้รายวัน กรณีรถยนต์เกิดอุบัติเหตุและทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล และยังได้รับเงินชดเชยค่าเดินทางระหว่างรถยนต์เข้าอู่ซ่อมจากอุบัติเหตุการชน รวมทั้งมีบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ ในกรณีที่รถเสียฉุกเฉินด้วย

ซีอีโอ ซมโปะ ประเทศไทย ยังกล่าวทิ้งท้ายถึงการพัฒนาแบรนด์ในยุค Digital Transformation ว่า บริษัทฯ ได้ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมและตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อมอบประสบการณ์การซื้อประกันทางออนไลน์ที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการใช้ระบบ Robotic Process ภายในองค์กร การต่ออายุกรมธรรม์ รวมถึงการใช้ AI ในการจัดการกับระบบ Marketing Automation เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณา ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ไม่ลืมให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้เปิดกว้างทางความคิด (growth mindset) เพื่อสามารถรองรับระบบการทำงานและเทคโนโลยีใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้อย่างมีคุณภาพ และที่สำคัญที่สุด คือ การคงไว้ซึ่งปรัชญาการดูแลคนไทยด้วยหัวใจญี่ปุ่น เพื่อความสุขในทุกรายละเอียดการใช้ชีวิตของทุกคน


แชร์ :