หากจะจองห้องพักของ Airbnb ในยุคนี้ พ.ศ. นี้ ต้องเป็นคนดีให้มาก ๆ เสียแล้ว เหตุที่กล่าวเช่นนี้เพราะมีรายงานว่า ทางแพลตฟอร์มที่พักออนไลน์ชื่อดัง ได้นำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมบนโลกออนไลน์ของว่าที่ผู้เช่าห้องแล้วว่าเป็นคนอย่างไร ซึ่ง AI นี้จะประเมินว่าสมควรหรือไม่ที่จะให้แขกคนดังกล่าวเข้าพักด้วย
โดย AI ดังกล่าวได้รับการพัฒนาขึ้นจากเหตุการณ์ดราม่าหลาย ๆ ครั้งบนแพลตฟอร์มของ Airbnb กับการที่ผู้เช่าเข้าพักแล้วทำให้ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย และเป็นผลงานการพัฒนาของบริษัท Trooly สตาร์ทอัพที่ Airbnb ซื้อกิจการมาเมื่อ 2017
หน้าที่ของ AI ดังกล่าวคือการเข้ามาตรวจสอบข้อมูลบนโลกออนไลน์ของ “ผู้ที่ต้องการเช่าห้องพัก” อย่างละเอียดยิบ และหากพบว่า มีพฤติกรรมเช่น สร้างแอคเคาน์โซเชียลมีเดียปลอม, มีภาพหรือคลิปวิดีโอที่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด – เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, มีการโพสต์ข้อความกล่าวร้ายผู้อื่น (Hate Speech), เคยปรากฏชื่อในข่าวอาชญากรรม หรือทำงานที่เกี่ยวกับการขายบริการทางเพศ ระบบของ Airbnb จะตั้งค่าคนเหล่านั้นไว้เป็นลูกค้าที่ไม่น่ารักทันที
ส่วนพฤติกรรมบนโลกจริงก็หนีไม่พ้นเช่นกัน เพราะ AI ของ Airbnb ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลการจ้างงาน ประวัติการศึกษา ฯลฯ ของผู้จองได้ และสามารถนำมาคำนวณร่วมด้วย
แต่ไม่ใช่ว่าผลลัพธ์ไม่ดีแล้วจะจองไม่ได้เสียทีเดียว เพราะเมื่อ AI ได้ศึกษาข้อมูลแล้ว มันจะทำการวิเคราะห์และจับคู่ผู้เช่ากับผู้ให้เช่าที่มันคิดว่าน่าจะไปด้วยกันได้ให้มาเจอกัน ดังนั้น เป็นไปได้ว่า คนที่มีพฤติกรรมไม่น่ารักก็อาจจะเจอเจ้าของบ้านพักที่ไม่ค่อยน่ารักได้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี ในมุมการแก้ปัญหาของแพลตฟอร์ม การนำ AI มาใช้ในลักษณะนี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกว้าว แต่ในมุมของ Data Privacy ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวทางของ Airbnb นี้ค่อนข้างละเมิดความเป็นส่วนตัวกันพอสมควรทีเดียว