บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการคอนเทนต์และสื่อด้านธุรกิจ ไอที และไอซีทีครบวงจร และผู้จัดงานแสดงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี COMMART ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ คร่ำหวอดในด้านการผลิตคอนเทนต์มานานกว่า 30 ปี เดินหน้าปรับกลยุทธ์สู้ศึกยุคดิสรัปชั่นอย่างเต็มกำลัง เน้นกลยุทธ์ “Audience Centric” หรือการให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ผนวกกับการสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ น่าเชื่อถือ ปรับลุคใหม่ ให้ทันสมัย เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ และกลุ่มเฉพาะเจาะจง เชื่อมโยงผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออนไลน์ออฟไลน์ โดยมีผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง มากประสบการณ์นำทีมบริหารงาน
คุณบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปี 2020 แม้ว่าจะเป็นปีที่ถูกประเมินว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะขยายตัวน้อย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสื่อที่มีโจทย์ที่ท้าทายมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ARIP มีรากฐานการเติบโตมาจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตคอนเทนต์ด้านไอที และธุรกิจ จนต่อยอดมาถึงงานแสดงนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Commart ที่เข้าสู่ปีที่ 21 แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่เอื้ออำนวยให้บริษัทในอุตสาหกรรมสื่อเติบโตได้ดีเหมือนในอดีต ARIP เราจึงมีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคดิสรัปชั่น ด้วยกลยุทธ์ดังนี้
1.Rebrand และ Reposition IT Media ที่ประกอบด้วย in.th และ CommartThailand.com โดยสื่อออนไลน์ TechHub.in.th ถูกเปลี่ยนชื่อจาก ARIPFAN เพื่อให้เข้าใจง่าย และปรับ Position ของสื่อ ให้ทำหน้าที่อย่างชัดเจนขึ้น เป็นช่องทางหลักสำหรับกลุ่มผู้ใช้ และผู้ที่ต้องการหาความรู้ในด้านการใช้งาน เสนอสิ่งที่เป็นคู่มือ ทิป เทคนิค วิธีการแก้ปัญหาในการใช้งานต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถใช้งานสินค้าไอที ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ลงโฆษณาที่ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าเพื่อสร้าง Brand Loyalty ให้เกิดการซื้อซ้ำหรือเกิดความเชื่อมั่นในการใช้สินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนสื่อออนไลน์ CommartThailand.com จะนำเสนอความรู้ในการเลือกซื้อสินค้าไอที (Buyer Guide), รีวิว และ ทดสอบ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือแกดเจ็ต (Gadget) ใหม่ ๆ หรือรวมไปถึงซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถเลือกซื้อสินค้าไอที ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน โดยจุดแข็งของ Commart คือ ผู้ติดตามเป็นผู้ที่มองหาสินค้า และต้องการเปรียบเทียบเพื่อตัดสินใจตั้งแต่คุณสมบัติไปจนถึงราคา ซึ่งทำให้สื่อ Commart สามารถเปิดโอกาสในการขายคอนเทนต์ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ลงโฆษณาที่ต้องการเพิ่มยอดขายสินค้า
2.Commart 2020 เน้นการสร้างประสบการณ์ O2O (Online to Offline) ผลสำรวจจากผู้เข้าร่วมงาน Commart Work ที่ผ่านมาพบว่า 70% ของผู้ที่มาในงานต้องการมาเพื่อซื้อสินค้า และ 64% ของผู้ที่ซื้อสินค้าในงาน ตัดสินใจซื้อเพราะโปรโมชั่น ของแถม ราคาที่ถูกกว่า เพราะต่อรองเพิ่มได้ มีโปรลับที่หาไม่ได้ในการซื้อออนไลน์ ส่วน 36% ที่เหลือมาซื้อในงานเพราะมีร้านค้ามาออกมากมาย มาที่เดียวไม่เพียงแต่ซื้อของได้ครบทุกแบรนด์ แต่ยังสามารถเปรียบเทียบราคาได้หลายร้านในที่เดียว เพราะบรรยากาศของการเลือกซื้อสินค้าจากผู้คนรอบๆ ข้าง เป็นเสน่ห์ของงาน Commart ที่ร้านค้าในออนไลน์ ไม่อาจให้ได้ รวมถึงการได้เจอสินค้าที่ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อแต่มาเดินแล้วหยิบติดมาด้วยแบบงง ๆ นี่คือการกระตุ้นยอดขายในอุตสาหกรรมไอทีได้อย่างดี ดังนั้นในปี 2020 งาน Commart ในฐานะงาน ICT EXPO & Trading อันดับ1 ของประเทศไทย จะเน้นการสร้างประสบการณ์ O2O (Online to Offline) โดยใช้สื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย (Social Media) ของ Commart ในการแนะนำเทคโนโลยีที่กำลังจะก้าวกระโดดจากการมาถึงของ 5G ที่ทำให้สินค้า iOT พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น พร้อมกิจกรรมมากมายที่ทำให้ผู้ติดตามได้รับความรู้สึกของผู้ชนะแบบเดียวกับการหาคูปองลดราคาในการซื้อของออนไลน์ แต่สามารถเจอประสบการณ์เดียวกันนี้ได้เมื่อมาเดินในงาน Commart โดยข้อดีเรื่องการได้เห็น ได้จับ ได้ลองสินค้าตัวจริง จ่ายเงินแล้วได้ของเลยยังคงอยู่
3.ขยายฐานผู้ติดตาม Business Content ที่ Blend Technology เข้ามาไว้ด้วยกัน โดย Business+ สื่อด้านธุรกิจของ ARIP จะมีการปรับ คอนเทนต์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี ในการทรานฟอร์ม ธุรกิจ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับประสบการณ์อันล้ำค่าของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน โดย Business+ จะเป็นสื่อกลางในการเชื่อมประสบการณ์กับวิธีคิดสมัยใหม่ให้กับผู้ติดตาม ในรูปแบบที่หลากหลาย
4.ต่อยอดจุดแข็งด้าน คอนเทนต์ ด้วยธุรกิจ Digital Agency นอกจากทำ คอนเทนต์ ให้เข้มแข็ง ใน Owned Media แล้ว ARIP ยังใช้จุดแข็งด้าน Content Marketing เพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ ในการทำตลาดออนไลน์ โดยพัฒนาแผนการตลาดออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ตาม KPI ของลูกค้าที่เสนอไว้ ในทุก ๆ State ของ Customer Decision Journey ไม่ว่าจะเป็น Awareness, Lead Generation ไปจนถึงการปิดการขาย
5.“Wisimo” แพล็ตฟอร์มออนไลน์ สำหรับพัฒนาบุคลากรในองค์กรที่ต้องการเตรียมความพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต จากความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่จะเป็นเรื่อง AI, Robot, AR, VR ไปจนถึง 5G ที่กำลังจะมาทำให้เครื่องจักร หรือ คอมพิวเตอร์สามารถทำงานทดแทนคนเราได้หลายอาชีพ เรื่องนี้ทำให้เราใช้ชีวิตได้ดีขึ้น แต่กับองค์กรต่างๆ กลับนำมาซึ่งโจทย์ใหม่ๆ ที่ต้องปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องคน ทำให้เกิดคำศัพท์ใหม่ๆ อย่าง Upskill, Reskill หรือ Lifelong learning เพื่อพัฒนาคนในองค์กรให้พร้อมรับกับการ้ปลี่ยนแปลง ดังนั้น Wisimo จึงเป็นแพล็ตฟอร์ม ที่ พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบด้วยระบบบริหารการเรียนรู้ (Learning Management System) และระบบบริหารองค์ความรู้ (Knowledge Management System) เป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะให้กับฝ่ายพัฒนาบุคลากรและผู้บริหารรุ่นใหม่เพราะนอกจากระบบบริหารแล้ว Wisimo ยังมาพร้อมกับระบบวิเคราะห์บุคลากรเพื่อรองรับสมรรถนะสำหรับอนาคต (Future Skill Competency Assessment) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับอนาคต โดยสามารถบอกได้ว่าบุคลากรแต่ละคนต้องพัฒนาสรรถนะใดหากต้องการให้สามารถทำงานได้ดีในอนาคต (Gap Analysis) นอกจากแพล็ตฟอร์ม แล้ว ARIP ยังพัฒนาคอนเทนต์เพื่อการเรียนรู้ในรูปแบบ VDO Motion Graphic และละคร พร้อมทั้งระบบ Gamification เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสนุกไปกับการเรียนรู้
จากกลยุทธ์ดังกล่าว เราเชื่อมั่นว่า เออาร์ไอพี จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสื่อด้านธุรกิจ ไอที และไอซีที ชั้นนำของประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวัน รวมถึงภาคธุรกิจ โดยให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง นำเสนอด้วยคอนเทนต์ที่มีประโยชน์และถูกต้องน่าเชื่อถือ ผ่านแพลตฟอร์มและโซลูชั่นต่าง ๆ ที่เรามี เพื่อตอบสนองทุกความต้องการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ทั้งนี้บริษัทฯ จึงได้เปลี่ยนโลโก้ ARIP โดยปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย เพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่อายุน้อยลง และใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็ก เพื่อให้ดูทันสมัย และเข้าถึงง่าย” คุณบุญเลิศ กล่าว