โออิชิเปิดกลยุทธ์ เดินหน้าธุรกิจปี 2563 ขับเคลื่อน3 กลุ่มธุรกิจหลักคือ ธุรกิจเครื่องดื่ม, ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงพร้อมทาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนทั้งในประเทศและในภูมิภาค มุ่งขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค “ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินธุรกิจถูก Disrupt จากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ผู้บริโภคให้ความสำคัญด้านสุขภาพ ความสะดวกสบาย ความพรีเมี่ยม ทั้งยังตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นความท้าทายของ โออิชิ กรุ๊ป ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะต้องก้าวตามให้ทัน พร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค” นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยถึงวิสัยทัศน์ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของโออิชิ
มุ่งสู่เป้าหมายด้วยกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
“ในปี 2562 ที่ผ่านมา โออิชิ กรุ๊ป สามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าพอใจ ทั้งการเติบโตด้านยอดขาย และกำไร กุญแจสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จคือการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้า การพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค การขยายช่องทางจำหน่ายที่เข้าถึงลูกค้าอย่างกว้างขวาง การเพิ่มปริมาณส่งออก รวมไปถึงการบริหารที่มีทั้งประสิทธิภาพและประสิทธิผล สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2563 นี้ โออิชิ กรุ๊ป ยังคงยึดปัจจัยความสำเร็จที่ผ่านมา พร้อมพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ตอบโจทย์พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค อาทิ การให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสุขอนามัยของผู้บริโภค (Health & Wellness) เรามีการพัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ด้านการตอบสนองความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค เราได้นำเทคโนโลยีดิจิตัลเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาช่องทางการสื่อสารกับลูกค้า ตลอดจนบริการต่างๆ ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โออิชิ กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability) โดยวางแนวทางให้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแสดงความความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การสร้างโรงงานผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการระบบกำจัดของเสียในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ เป็นต้น ส่วนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน โออิชิ มีโครงการช่วยเหลือสังคมด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ ‘ให้’ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาสทางสังคม โครงการน้ำดื่มสะอาด เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ชุมชน ตลอดจนการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้คนในสังคมและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้โออิชิประสบความสำเร็จมาจนทุกวันนี้ นั่นคือ บุคลากรทุกคน โออิชิจึงให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจบุคลากรทุกระดับ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ ความสามารถ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ ภายใต้วัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมการเติบโตของพนักงานอย่างไร้ขีดจำกัด สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งจากระดับองค์กรสู่ระดับประเทศ” นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กล่าวย้ำถึงแนวทางขับเคลื่อนองค์กร
“ธุรกิจเครื่องดื่ม” เดินหน้าขยายฐานผู้ดื่ม รุกพรีเมียม – เพิ่มส่งออก
ภาพรวมตลาดชาเขียวเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์สู่ความเป็นที่หนึ่งอย่างยั่งยืน “ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มเริ่มพลิกฟื้นหลังจากได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีสรรพสามิต แต่อย่างไรก็ตามการบริโภคยังไม่กลับสู่ระดับเดิมเมื่อเทียบกับปี 2560 ดังนั้นโออิชิในฐานะผู้นำตลาดยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการกระตุ้นการบริโภคด้วย 3 กลยุทธ์หลักดังนี้ (1) ขยายฐานผู้ดื่ม โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างฐานผู้บริโภคใหม่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น โดยใช้แพลตฟอร์มเกมผ่านแคมเปญ OISHI x ROV ซึ่งได้ทำให้ฐานผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในช่วงอายุ13-24 ปี เพิ่มขึ้น (2) ขยายฐานพรีเมียม ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ และผู้บริโภคที่เล็งเห็นความสำคัญของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าจากธรรมชาติพร้อมยอมจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด โออิชิ กรีนที จึงเดินหน้าขยายตลาดชาพร้อมดื่มพรีเมียม ส่งหนึ่งในที่สุดของชาเขียวระดับพรีเมียม ดีต่อสุขภาพ โออิชิ โกลด์ เกียวคุโระ ชาเขียวที่ได้รับการยกย่องจากชาวญี่ปุ่นว่าเป็นหนึ่งในชาที่หายาก และให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ทำจากยอดอ่อนใบชาแท้นำเข้าจากไร่ชารางวัลจักรพรรดิ ประเทศญี่ปุ่น (3) ขยายตลาดส่งออก จากเดิมส่งออกเพียง 13 ประเทศ ปัจจุบันสามารถขยายการส่งออกได้ถึง 33 ประเทศทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแผนการขยายตลาดมุ่งสู่ผู้นำระดับโลก ดังนี้ (3.1) สร้างความแข็งแกร่งในตลาดหลักคือกัมพูชาและลาว (3.2) สร้างความเป็นผู้นำในตลาดเกิดใหม่ (3.3) ขยายตลาดในกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (3.4) สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและขายในระดับภูมิภาค (3.5) สร้างความพร้อมของบุคคลากรในการทำงานในต่างประเทศ”
“ธุรกิจร้านอาหาร” รุกขยายสาขาแบรนด์เดิม เติมแบรนด์ใหม่ เสริมแกร่งพอร์ต
ในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร เพื่อสร้างและรักษาความเป็น “เจ้าตำรับอาหารญี่ปุ่น” (King of Japanese Food) ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยว่า “สำหรับ 4 กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ ประกอบด้วย (1) Growth Engine : สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ผ่านการดำเนินงานเชิงรุกอย่างรอบด้าน ได้แก่ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเมนูใหม่ ๆ การสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดที่เหมาะสม น่าสนใจ และการขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อเข้าถึงและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังพัฒนาช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์ (เพิ่มเติมจากการสั่งซื้อผ่านทางโทร. 1773) ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งได้แก่ โออิชิเดลิเวอรี่ดอทคอม (www.oishidelivery.com) ควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือกับผู้ให้บริการสั่งอาหารแบบออนดีมานด์บนแอปพลิเคชันชั้นนำของไทยอย่าง แกร็บฟู้ด (GrabFood) ไลน์แมน (LINE MAN) และ ฟู้ดแพนด้า (foodpanda) (2) Re-engineering Brand’s Business Model : ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่น โออิชิ ให้มีความทันสมัยตามเทรนด์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น นำเสนอรูปแบบโมเดลธุรกิจใหม่ !!! ชาบูชิ “บริการ 24 ชั่วโมง” รับวิถีคนเมือง “สังคมคนนอนดึก” (Sleepless Society) ที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น เรื่อย ๆ (3) Reinvented Customers Experience : สร้างคุณค่าตราสินค้า ผ่านสินค้าและบริการ เพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่ น่าประทับใจ แก่ผู้บริโภค และ (4) Spin-off Brands : พัฒนาและเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เสิร์มแกร่งพอร์ต ทั้งร้านอาหารและร้านขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่น ได้แก่ โฮว ยู (HOU YUU), ซากาเอะ (SAKAE) จับกลุ่มลูกค้าระดับบน และ โอโยกิ (OYOKI) ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ อร่อยเข้มข้นระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านขนมหวานแบรนด์แรกของโออิชิ โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการสาขาแรก ณ อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ (ชั้น B) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีพร้อมเดินหน้าขยายสาขาที่ 2 ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เร็ว ๆ นี้”
เทรนด์อาหารพร้อมทานปี’63 ยังแรง “ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน โออิชิ อีทโตะ” พร้อมลุย !
เทรนด์อาหารสำเร็จรูปมาแรงและโตต่อเนื่อง !!! นางสาวเมขลา เนติโพธิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหารสำเร็จรูป บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทาน โออิชิ อีทโตะ (OISHI EATO) ว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอาหารอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง พร้อมทาน ได้เข้ามามีบทบาทกับวิถีชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนในชุมชนเมืองมากขึ้น เนื่องจากสินค้าในกลุ่มนี้มีคุณภาพ มีความสะดวกในการบริโภค และมีความหลากหลายของประเภทอาหาร เราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และโอกาสทางการตลาดที่เปิดกว้าง จึงมีแผนรองรับการขยายตัวของตลาด ผ่านกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน คือ
- Brand Building & Communication : สร้างตราสินค้า โออิชิ อีทโตะ (OISHI EATO) ให้แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมสร้างภาพลักษณ์ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมทานสไตล์ญี่ปุ่น
- Innovation : พัฒนาและสร้างสรรค์สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่น ทั้งรูปแบบ รสชาติ คุณค่าทางโชนาการ และหีบห่อ/บรรจุภัณฑ์ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย
- Channel & Market Expansion : สร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายหลักอย่าง ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มฟู้ด เซอร์วิส ด้วยการซินเนอร์ยี่ระหว่างพันธมิตรกลุ่มธุรกิจในเครือไทยเบฟ รวมทั้งขยายสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้นทั้งอาเซียนและสหภาพยุโรป”
ทั้งหมดนี้ คือ แผนกลยุทธ์หลักของโออิชิ กรุ๊ป ที่จะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย VISION 2020 พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่นและสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน