บทสรุปสุดท้ายของคดีไร่ส้ม ขายโฆษณาเกินเวลา รายการคุยคุ้ยข่าว อสมท วันนี้ (21 ม.ค.) ศาลฎีกา พิพากษา “จำคุก” 6 ปี 24 เดือน นักเล่าข่าวเบอร์หนึ่ง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา”
คดี “ไร่ส้ม อสมท และสรยุทธ” เป็นอีกมหากาพย์ที่ยืดเยื้อมาเกือบ 10 ปี นับจากปี 2555 ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดด้วยมติเอกฉันท์ “ส่งฟ้อง” ปม “ไร่ส้ม” ของนักเล่าข่าวชื่อดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ขายโฆษณาเกินเวลารายการ “คุยคุ้ยข่าว” ทาง อสมท มูลค่า 138 ล้านบาท อัยการสูงสุด ส่ง“ฟ้องคดี” เดือน ม.ค.2558 ต่อมาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษา “มีความผิด” กำหนดโทษ “จำคุก” 13 ปี 4 เดือน
วันนี้ (21 ม.ค.) ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา คดีไร่ส้มและ “สรยุทธ” โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
– ประเด็นที่ศาลพิจารณาฎีกา คดีไร่ส้ม คือ การสั่งจ่ายเช็ค 6 ใบ จำนวน 739,770 บาท ให้กับ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ชนาภา บุญโต) ซึ่งมีหน้าที่ลงใบคิวเวลาโฆษณา อสมท และไม่ได้แจ้งค่าโฆษณาส่วนเกินของไร่ส้ม
– ไร่ส้ม ต่อสู้คดีว่า ไม่ใช่ค่าตอบแทน แต่เป็นค่าประสานงาน จ่ายเป็นรายครั้งในอัตราร้อยละ 2 ของค่าโฆษณาเกินเวลา จึงมีการได้ตรวจสอบโฆษณาทุกตัวย้อนหลังจากผู้สั่งซื้อโฆษณาทั้งหมด รับฟังได้ว่าการจ่ายเช็คทั้ง 6 ใบ เป็นเงินค่าประสานงาน ไม่ใช่ค่าตอบแทน ข้อมูลฎีกาไร่ส้มจึงฟังขึ้นบางส่วน
– กรณีนางพิชชาภา ไม่รายงานค่าโฆษณาเกินเวลาให้ อสมท ทราบ ทำให้ ไร่ส้ม ไม่ได้จ่ายเงินค่าโฆษณาเกินเวลา จึงมีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ทำให้ อสมท องค์กรรัฐเสียหายขาดรายได้ ส่วน “สรยุทธ” และไร่ส้ม มีความผิดฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด
– ศาลฎีกาเห็นว่าคำฎีกาของจำเลย ฟังขึ้นบางส่วน จึงพิพากษาแก้ไขอัตราโทษจำคุก นางพิชชาภา กระทงละ 3 ปี รวม 6 กระทง จำคุก 18 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1/3 เหลือจำคุก 12 ปี ส่วน “สรยุทธ” และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงาน ไร่ส้ม จำคุกกระทงละ 2 ปี รวม 6 กระทง รวมจำคุกคนละ 12 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1/3 จำคุกคนละ 6 ปี 24 เดือน (เดิม ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ กำหนดโทษ นางพิชชาภา 20 ปี ส่วน “สรยุทธ” และ น.ส.มณฑา คนละ 13 ปี 4 เดือน)
– ส่วนฎีกาของ “สรยุทธ” ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษนั้น โดยอ้างว่าไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน อีกทั้งเคยประกอบคุณงามความดีนั้น ศาลเห็นว่า “สรยุทธ” เป็นสื่อมวลชนอาวุโส แต่กลับกระทำผิดกฎหมาย ทั้งที่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้วงการสื่อมวลชน จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ ทำให้ต้องเข้าเรือนจำทันที
ย้อนดูปรากฏการณ์ “สรยุทธ” ในวงการสื่อ
1. เริ่มเส้นทางนักข่าว
มาดูเส้นทาง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” นักเล่าข่าวเบอร์หนึ่งของวงการสื่อไทย หลังจบการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ “สรยุทธ” เริ่มต้นชีวิตทำงานอาชีพ “นักข่าว” ที่หนังสือพิมพ์ The Nation ในปี 2531 สายข่าวการเมือง ตำแหน่งสุดท้ายก่อนออกจากเครือเนชั่น คือ รองบรรณาธิการบริหาร
2. เล่าข่าวหน้าจอ 7 วัน
ปี 2546 “สรยุทธ” เริ่มเส้นทาง “นักเล่าข่าว” ทางช่อง 3 รายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” จันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-8.00 น. ,รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ จันทร์-ศุกร์ (ช่วงเจาะข่าวเด่น) เวลา 17.25-17.45 น. และรายการ เรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-13.00 น. (เริ่ม 5 ม.ค.2550)
เดือน ก.พ.2548 ถึง ก.ค.2549 จัดรายการ “คุยคุ้ยข่าว” จันทร์-ศุกร์ เวลา 21.30-22.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-13.00 น. ทางช่อง 9 อสมท
นับตั้งแต่เริ่มทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ สร้างแบรนด์ “ครอบครัวข่าว” ให้กับช่อง 3 ถึงวันประกาศยุติบทบาท เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2559 หลังจาก “สรยุทธ” จัดรายการสดทางทีวีทุกวันมากว่า 10 ปี
3. สร้างปรากฎการณ์ เรตติ้งข่าวเช้า ช่อง 3
รายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ที่ดำเนินกรายการโดยนักเล่าข่าวดัง “สรยุทธ” สร้างเรตติ้งข่าวเช้าให้ ช่อง 3 เป็นกอบเป็นกำ จนต้องขยายเวลาเพิ่มขึ้น จากวันละ 2 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง และ 3.30 ชั่วโมง โฆษณาเข้าแน่นทุกเบรก โฆษณาขยับขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดที่ 2.2 แสนบาทต่อนาที,เรื่องเด่นเย็นนี้ ราคา 2.2 แสนบาทต่อนาที ส่วนเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ราคานาทีละ 2.9 แสนบาท
กระแสความนิยมรายการเล่าข่าว ที่ “สรยุทธ” เป็นคนจุดกระแส ทำให้ “ทีวี” ช่องต่างๆ แห่ทำรายการประเภทนี้ จนเกลื่อนจอทีวี
4. “สรยุทธ” เอฟเฟกต์ ฉุดรายได้ ช่อง 3
หลังจากศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 คดีไร่ส้ม กระทำความผิดขายโฆษณาเกินเวลา และ “สรยุทธ” เป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับโทษ จำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา จากนั้นในวันที่ 3 มี.ค.2559 “สรยุทธ” ตัดสินใจประกาศ “ยุติ” บทบาทผู้ดำเนินรายการข่าวทางช่อง 3 ทุกรายการ
ส่งผลให้เกิด “สรยุทธ เอฟเฟกต์” กับช่อง 3 ทันที เมื่อไม่มีแม่เหล็ก เรตติ้งข่าวเช้าก็ ค่อยๆ ร่วงลง จนต้องลดเวลาออกอากาศ กระทบกับรายได้โฆษณารายการข่าวลดลง บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน เคยประเมินรายได้โฆษณาจาก 3 รายการข่าวที่จัดโดย “สรยุทธ” คือ เรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่า เสาร์-อาทิตย์ ทำรายได้ให้ช่อง 3 ปีละ 2,900 ล้านบาท
5. กรรมกรข่าวสู่นักเล่าข่าวพันล้าน
นับตั้งแต่รั้งตำแหน่ง “เจ้าพ่อเล่าข่าว” เบอร์หนึ่ง “สรยุทธ” กลายเป็น “นักข่าว” คนดัง ทำงานหลากหลายในแวดวงสื่อ รวมทั้งงานเขียนหนังสือกับผลงาน “กรรมกรข่าว” เล่มแรก ปี 2547 ที่บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์งานข่าวในแต่ละช่วงชีวิต พ็อกเก็ตบุ๊ต “กรรมกรข่าว” ออกมาทั้งหมด 3 เล่ม เป็นหนังสือติดอันดับขายดี ด้วยชื่อเสียงของผู้เขียนเอง
การเป็นนักเล่าข่าวเบอร์หนึ่ง ที่รายการได้รับความนิยมมากว่า 10 ปี ทำให้กรรมกรข่าว สามารถสร้างรายได้หลัก “พันล้านบาท” หลายเรื่องราวของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ได้สร้างปรากฎการณ์สะเทือนวงการสื่อตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และวันนี้ก็เช่นกัน กับบทสรุปสุดท้ายของคดีไร่ส้ม และโทษจำคุกทันที 6 ปี 24 เดือน
FYI : การนับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา 1 เดือน เท่ากับ 30 วัน ตามกฎหมาย 12 เดือน คือ 360 วัน (หากนับรวม 12 เดือนเป็น 1 ปี จะต้องรับโทษเพิ่มขึ้นอีกปีละ 5-6 วัน) ส่วน 1 ปีปฏิทิน 12 เดือน มี 365-366 วัน