HomeBrand Move !!พลิกโฉม 30 ปีมิกซ์ยูสแรกย่านสีลม ‘ธนิยะ พลาซา’ ปรับลุคใหม่เติมไลฟ์สไตล์ช็อป

พลิกโฉม 30 ปีมิกซ์ยูสแรกย่านสีลม ‘ธนิยะ พลาซา’ ปรับลุคใหม่เติมไลฟ์สไตล์ช็อป

แชร์ :

เทรนด์อสังหาริมทรัพย์ “มิกซ์ยูส” ที่แห่ผุดช่วงหลังในทุกย่านดังของกรุงเทพฯ เรียกว่าเป็น “บิ๊ก โปรเจกต์” ระดับหมื่นล้าน แต่หากย้อนไป 30 ปีก่อน “ธนิยะ กรุ๊ป” ของตระกูลสมบุญธรรม ปักหมุดมิกซ์ยูสแห่งแรกบนทำเลทอง “สีลม” ที่ได้ชื่อว่าเป็น Wall Street of Thailand  มาวันนี้ย่านดังกำลังพลิกโฉมอีกครั้งกับการเปิดตัว Dusit Central Park หัวมุมถนน กระตุ้นเจ้าถิ่น “ธนิยะ พลาซา” ประกาศรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบ 3 ทศวรรษ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทำเลทอง “สีลม” จัดอยู่ในกลุ่มท็อปราคาที่ดินแพงระยับและขยับขึ้นทุกปี  กรมธนารักษ์ประเมินราคาปี 2563 เฉลี่ย 7.5 แสนบาทถึง 1 ล้านบาทต่อตารางวา ถนนสีลม ที่ได้ชื่อว่าเป็น Wall Street of Thailand  เพราะเต็มไปด้วยสำนักงานใหญ่ของบริษัทไทยและต่างประเทศ ครองตำแหน่ง CBD ย่านแรกๆ ของกรุงเทพฯ มีธุรกิจหลากหลายปักหมุดในย่านนี้ ก่อนจะขยายสู่ย่าน CBD อื่นๆ

รีโนเวท “ธนิยะ พลาซา” รอบ 3 ทศวรรษ 

ตระกูลสมบุญธรรม ผู้บุกเบิกธุรกิจ “ธนิยะ กรุ๊ป” ยุคแรกเกิดจาก นายแพทย์ประเสริฐ สมบุญธรรม และแพทย์หญิงญดา สมบุญธรรม เป็นนักสะสมที่ดิน เห็นว่าถนนสีลมน่าจะมีความเจริญจึงซื้อที่ดินผืนใหญ่เก็บไว้ และส่งต่อมาถึงรุ่นลูก (รุ่น 2) จึงพัฒนาที่ดินสีลม เป็นอาคารมิกซ์ยูส “ธนิยะ พลาซา” ทั้งอาคารสำนักงาน 29 ชั้น และอาคารพื้นที่รีเทล 4 ชั้น 2 อาคารเชื่อมต่อกัน เปิดใช้ครั้งแรกปี 2533  เรียกว่าเป็นมิกซ์ยูสแรกในย่านนี้

ปัจจุบัน “ธนิยะ กรุ๊ป” อยู่ภายใต้การบริหารของรุ่น 2 และ รุ่น 3 เตรียมพลิกโฉมพื้นที่โซนรีเทลใหม่ ในรอบ 30 ปี  รีโนเวท “ธนิยะ พลาซา” เป็น “ไลฟ์สไตล์มอลล์” ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท

คุณสุนันทา สมบุญธรรม ประธานกรรมการบริหาร  ธนิยะ กรุ๊ป เล่าว่าตลอด 30 ปี ตึกธนิยะ พลาซ่า  ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้คนที่อยู่บนถนนสีลม สร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนถนนสีลม วันนี้ถึงเวลา “ปรับลุค” แต่งตัวใหม่เติมสีสัน ตอบความต้องการของผู้คนที่แวะเวียนอยู่บนถนนสีลม ทั้งคนทำงาน นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว คนรักกีฬากอล์ฟ และคนรุ่นใหม่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น

พื้นที่รีเทล “ธนิยะ พลาซา” ที่เริ่มในปี 2533 เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี และมีการเช่าช่วงต่อกันมาถึงปัจจุบัน ไฮไลต์ของธนิยะ พลาซา ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น คือ ร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟมีพื้นที่ 80% ของค้าปลีกทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็น Golf Center” ขนาดใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เพราะ ธนิยะ เกิดขึ้นมาในช่วงที่ “สนามกอล์ฟ” ในประเทศไทยบูม เป็นยุคที่คนไทยมีไลฟ์สไตล์เล่นกีฬากอล์ฟ  ร้านจำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟ ที่อยู่ในทำเลสีลม จึงได้รับการตอบรับดีจากกลุ่มกำลังซื้อสูง

ส่วนพื้นที่อีก 20% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เพื่อรองรับนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เช่าสำนักงานอยู่ในละแวกนี้ และคนทั่วไปที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น เพราะเดิมที่ตั้งของธนิยะ พลาซา มีชื่อเรียกว่า “ตำบลสถานทูตญี่ปุ่น” เป็นแหล่งที่คนญี่ปุ่นรู้จักดี รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น ร้านขายอุปกรณ์กล้องฟิล์มที่หาได้ยาก ร้านไวน์

เติมไลฟ์สไตล์ช็อป ‘กอล์ฟ-ร้านอาหารญี่ปุ่น’ยังอยู่

ปี 2563 เป็นจังหวะที่พื้นที่รีเทล “จบสัญญาเช่า” ทั้งหมดพร้อมกัน “ธนิยะ พลาซา” จึงรีโนเวทครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี ด้วยแนวคิด “ไลฟ์สไตล์มอลล์” นายแพทย์ทัศนวัต สมบุญธรรม กรรมการบริหาร ธนิยะ กรุ๊ป กล่าวว่าพื้นที่รีเทลทั้ง 2 อาคารจะหมดสัญญาในวันที่ 31 มี.ค. 2563  จากนั้นวันที่ 1 เม.ย. จะเริ่มรีโนเวทที่ละอาคารโดยยังคงเปิดบริการปกติ

เริ่มจากอาคาร A (Atrium) หรือ ตึกสูงบนถนนธนิยะ ก่อนโดยจะย้ายร้านค้าไปอยู่พื้นที่ชั่วคราว อาคาร B (BTS) หรือ ตึกหน้าติดบีทีเอสบนถนนสีลม  อาคาร A จะใช้เวลาปรับปรุง 8-9 เดือน แล้วเสร็จปลายปีนี้ จากนั้นจะรีโนเวทอาคาร B บนถนนสีลมต่อ ใช้เวลา 6 เดือน ทั้ง 2 อาคารปรับโฉมแล้วเสร็จกลางปี 2564

หลังปรับโฉม “ธนิยะ พลาซา” มีพื้นที่รีเทล  12,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากเดิม 20%  จากเดิมมี 100 ร้านค้า จะเพิ่มเป็น 200 ร้านค้า พื้นที่ 15-700 ตารางเมตร แบ่งเป็น อาคาร A  8,500 ตร.ม และ อาคาร B พื้นที่  3,500 ตารางเมตร มีสะพานเดินเชื่อมถึงกัน

การรีโนเวทครั้งนี้ ยังคงเอกลักษณ์ร้านดังของ ธนิยะ พลาซา ไว้เหมือนเดิม คือ โซน  Golf Center เพื่อเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์กอล์ฟและสปอร์ตครบวงจร มีห้องทดสอบอุปกรณ์กอล์ฟ (Golf Simulator) อุปกรณ์กอล์ฟแบรนด์ดัง รวมทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์ นิช มาร์เก็ต มีสูตรเฉพาะเจาะจง และเปิดแห่งแรกกับธนิยะ

ส่วนที่เพิ่มเข้ามาเป็น Lifestyle Shop  แหล่งรวมร้านค้าและบริการตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล อาทิ คลินิกเสริมความงามและทันตกรรม  บิวตี้สโตร์  เป็นต้น รวมทั้งโซน Food Hub ร้านอาหารแบรนด์ดัง ในส่วนอาคาร B ติดบีทีเอสศาลาแดง วางแผนเปิด Flagship Store ของแบรนด์ดังกลุ่มไลฟ์สไตล์, เทคโนโลยี และธุรกิจบริการ

ปัจจุบันมีกลุ่มผู้เช่ารายเดิมและกลุ่มผู้เช่าใหม่ตอบรับเปิดให้บริการแล้ว อาทิ Mizuno, Kasco, Bridgestone Golf, Titleist, Callaway, PING, Adidas เป็นต้น

ปรับสัญญาเช่าระยะสั้น 3 ปี

คุณศลิษา นภาธร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ธนิยะ กรุ๊ป (ทายาทรุ่น 3) กล่าวว่าหลังรีโนเวท สัดส่วนร้านค้ากีฬากอล์ฟ จะเหลือ 50% กลุ่มไลฟ์สไตล์  30% และร้านอาหาร 20% โดยจะปรับสัญญาเช่าพื้นที่ใหม่เหลือ 3 ปี เพื่อปรับเปลี่ยนร้านค้าให้เหมาะกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วและตอบโจทย์ลูกค้า

จากเดิมมีลูกค้าใช้บริการประมาณ 7,000 คนต่อวัน ส่วนใหญ่ 80-90%  เป็นลูกค้าอุปกรณ์กอล์ฟทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่หลังจากปรับโฉมและเพิ่มร้านค้าใหม่เข้ามา จำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000-30,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศย่านสีลม ที่จะมาใช้บริการจากร้านอาหารและกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น

นายแพทย์ทัศนวัต สมบุญธรรม

หนุน “สีลม” แลนด์มาร์คกรุงเทพฯคึกคัก 

การลุกขึ้นมาปรับโฉมในรอบ 30 ปีครั้งนี้ นายแพทย์ทัศนวัต  กล่าวว่าเป็นการปรับตัวเพื่อตั้งรับการพลิกโฉมถนนสีลม ที่จะมีบิ๊กโปรเจกต์มิกซ์ยูสเกิดขึ้นที่หัวมุมถนนอย่าง Dusit Central Park  ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการส่วนแรกปลายปี 2565  ก็ต้องยอมรับว่า  “ธนิยะ พลาซา” คงไม่สามารถแข่งขันเรื่องความใหญ่ได้ แต่ความงดงามของแต่ละโครงการมีความแตกต่างกัน

“ไม่ใช่ว่าผู้บริโภคทุกคนจะต้องไป แม็คโคร หรือบิ๊กซี ขนาดใหญ่ ทุกวัน  แต่ร้านใกล้บ้านที่มีความสะดวกในการเข้าถึงง่ายก็เป็นอีกตัวเลือก”

ธนิยะ พลาซา จะใช้จุดเด่น การเข้าถึงง่าย ตอบโจทย์คนที่อยู่ในพื้นที่ ทั้งอาคารสำนักงาน  คนที่เดินทางโดยบีทีเอส ศาลาแดง เฉลี่ย 150,000 คนต่อวัน  สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของผู้ใช้บริการ BTS มาดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการในพื้นที่รีเทล

“เราเป็น นิช มาร์เก็ต ที่คนพื้นที่ คนออฟฟิศรู้จักดี กำลังปรับลุค เข้าหาคนรุ่นใหม่ เชื่อว่าการปรับโฉมของอาคารต่างๆ ในย่านสีลม การพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ กิจกรรมถนนคนเดิน จะทำให้ย่านนี้คึกคักขึ้น ตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ”


แชร์ :

You may also like