AIS เผยผลประกอบการ ปี 2562 กำไรสุทธิ 31,051 ล้านบาท เติบโต 4.6% จ่ายเงินปันผล 3.56 บาทต่อหุ้น
ดัน AIS Fibre พุ่ง 1 ล้านราย เติบโต 42% เหนืออุตสาหกรรม
ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ออกมาประกาศความสำเร็จ สำหรับ AIS กับผลประกอบการในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมปี 2562 กับรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 31,051ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.6% จากปีก่อน ครองส่วนแบ่งการตลาด อันดับ 1 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งด้านรายได้มากที่สุดกว่า 48% และมีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุดกว่า 45% หรืออยู่ที่ 42 ล้านราย โดยมีฐานลูกค้าเติบโตขึ้นกว่า 844,600 ราย
ด้านธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโต 42% เหนืออุตสาหกรรมด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 1 ล้านราย สร้างรายได้เติบโต 29% ทั้งนี้ เอไอเอส ยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายเงินปันผล 3.56 บาทต่อหุ้นในวันที่ 22 เมษายน 2563
คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ปี 2562 ที่ผ่านมา เป็นปีที่เอไอเอสก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่เรามุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและเทคโนโลยี รวมถึงทรัพยากรต่างๆ ให้ก้าวล้ำอยู่เสมอ ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการ ปี 2562 เอไอเอส มีรายได้รวม 183,432 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% จากปีก่อน และยังคงมีแนวโน้มของลูกค้าเติมเงินที่เปลี่ยนไปใช้บริการระบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนลูกค้าระบบรายเดือนเติบโตขึ้นจาก 20% ณ สิ้นปี 2561 มาอยู่ที่ 22% ณ สิ้นปี 2562 ขณะที่ การใช้งาน 4G ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นปี มีลูกค้าที่ใช้งาน 4G เพิ่มขึ้นเป็น 71% เทียบกับ 59% จากปีก่อน โดยลูกค้าใช้ปริมาณดาต้าเฉลี่ย 12.7 กิกะไบต์ต่อเดือน เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปีก่อน”
ส่วนในด้านเครือข่าย 4G ปัจจุบัน เอไอเอสมีสถานีฐานมากกว่า 158,000 สถานีฐาน และได้รับการจัดอันดับให้ AIS เป็นเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านที่เร็วที่สุดในไทยจาก Ookla(r) Speedtest(r) และได้มีการเสริมคุณภาพสัญญาณจากการเข้ารับการจัดสรรคลื่น 700MHz เพื่อเตรียมรองรับการขยายเครือข่ายในอนาคต
ขณะที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ยังคงเติบโตเหนืออุตสาหกรรม ตลอดทั้งปี 2562 มีลูกค้าเพิ่มขึ้น 42% หรือกว่า 307,100 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันมีลูกค้ารวมมากกว่า 1 ล้านราย และมีรายได้เติบโต 29% มาอยู่ที่ 5,722 ล้านบาท
เติบโตด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence
ทั้งนี้ เอไอเอสเผยว่า จากการทำตลาดต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ Fixed-Mobile Convergence ที่ผสานกันระหว่าง 3 บริการหลัก ทั้งอินเทอร์เน็ตมือถือ อินเทอร์เน็ตบ้าน คอนเทนต์ผ่าน AIS PLAYBOX ทางทีวี หรือผ่านแอป AIS PLAY ทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ ส่วนธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร การทำตลาด Enterprise ยังเป็นไปตามแผน ทั้งปีเติบโตใกล้เคียงคาดการณ์ จากยอดขายลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้นทั้งบริการด้านเทเลคอมและไอซีที พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อเป็นผู้ให้บริการ One Stop ICT Service แบบครบวงจร
โดยภาพรวม จากรายได้ที่เติบโตและการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เอไอเอสมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 6.3% มาอยู่ที่ 78,463 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 31,051 ล้านบาท เติบโต 4.6% เทียบกับปีก่อน โดยเอไอเอสจะจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังที่ 3.56 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 70% ของกำไรสุทธิ ในวันที่ 22 เมษายน 2563
คุณสมชัยได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ในปีที่ผ่านมา เอไอเอส ได้จัดตั้งบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัยขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการขายประกันภัยแบบออนไลน์ พร้อมโปรโมทช่องทางการชำระเงินผ่าน Rabbit LINE PAY อีกทั้ง ได้ขยายบริการเข้าสู่ตลาด eSports เพื่อสนับสนุนการเติบโตของตลาดเกม และส่งเสริมทักษะความสามารถของนักกีฬา อีสปอร์ต แสดงถึงความตั้งใจของเราที่พร้อมจะ Transform เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งในปี 2563 เอไอเอสครบรอบ 30 ปี จะเป็นอีกก้าวแห่งความสำเร็จที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและทั้งอีโคซิสเต็ม ด้วยเทคโนโลยีเครือข่ายแห่งอนาคตที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นอย่างแน่นอน”
หมายเหตุ ตัวเลขทางการเงินที่แสดงในข่าวนี้ ไม่รวมผลกระทบของมาตรฐานบัญชีไทยฉบับที่ 15*