การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า Covid-19 ซึ่งย่อมาจาก coronavirus disease starting in 2019 โดยเกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น ก่อนจะลุกลามขยายตัวจนกลายเป็นความกังวลใหญ่ของประเทศจีน รวมท้ังในหลายๆ ประเทศทั่วโลกในเวลานี้ สร้างเอฟเฟ็กต์ต่อความเชื่อมั่นในหลายๆ ด้านของผู้คนทั่วโลก ทั้งการเติบโตของภาคเศรษฐกิจโดยรวมของโลก จากการหยุดชะงักในหลากหลายอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมไปถึงความกังวลต่อปัญหาด้านสุขภาพและความปลอดภัยของประชากรทั่วโลก
โดยเฉพาะในประเทศจีน กับความหวังที่จะผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจผ่านช่วงที่มีจับจ่ายคึกคักที่สุดช่วงหนึ่งอย่างตรุษจีน ซึงในปีนี้ตรงกับช่วงที่กำลังเกิดความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 นี้ ทำให้ความหวังที่ต้องการกระตุ้นการจับจ่ายในช่วงสัปดาห์ทองระหว่างตรุษจีนต้องสะดุดลง ทั้งที่ในปี 2019 ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่การจับจ่ายซื้อสินค้าและร้านอาหารในช่วงเวลานี้ทำยอดขายได้ทะลุเกิน 1 ล้านล้านหยวนได้เป็นคร้ังแรก และคาดว่าตัวเลขการบริโภคในปีนี้จะสามารถเติบโตได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
แต่การมาของ Covid-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศจีน รวมทั้งในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งจากผลกระทบในฐานะประเทศคู่ค้าของจีน รวมทั้งความเชื่อมั่นและเปราะบางจากปัจจัยภายในของแต่ละประเทศเอง โดยเฉพาะในประเทศจีนที่เห็นผลกระทบได้อย่างชัดเจน จากการที่ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยนอกบ้านน้อยลง กลายเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปสู่หลายๆ ธุรกิจ ทั้งค้าปลีก ร้านอาหาร บริการ บันเทิง ท่องเที่ยว และคมนาคมขนส่งต่างๆ ประกอบกับเมื่อมาเกิดขึ้นในช่วง High Season อย่างช่วงเทศกาลตรุษจีน ความเสียหายก็ยิ่งทวีคูณมากกว่าช่วงปกติ
อย่างไรก็ตาม ทุกเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ แม้จะเกิดผลกระทบจนหลายๆ ธุรกิจบอบช้ำกันไปพอสมควร แต่เมื่อพิจารณาอีกด้านหนึ่งจะพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็นำมาซึ่งการปรับตัวต่อรูปแบบการบริโภคของชาวจีน และอาจกลายเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ที่สามารถปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจจะเป็นการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหม่ที่ส่งผลในระยะยาวต่อจากนี้ไป โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ชิงต่าว ให้ข้อมูลถึงแนวโน้มและผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการปรับตัวเพื่อรับมือต่อการระบาดของไวรัส Covid-19 ในจีนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ไว้ดังต่อไปนี้
1. เกิดรูปแบบใหม่ในการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ามาชดเชยหรือช่วยแก้ปัญหาการบริโภคที่หายไป เพราะหากเปรียบกับปี 2003 ช่วงที่เกิดการระบาดของโรคซาร์ส ก็เกิดเศรษฐกิจใหม่ที่เข้ามามีบทบาท กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการค้าออนไลน์ที่ขยายตัวจนเพิ่มสัดส่วนมาถึง 20% ในตลาดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค และเป็นหนทางลดผลกระทบในช่วงที่ประชาชนไม่สามารถออกจากบ้านได้ แต่สามารถสั่งซื้อสินค้าแบบเดลิเวอรี่ หรือช้อปปิ้งผ่านออนไลน์แพลตฟอร์ม รวมทั้งการใช้บริการความบันเทิงในรูปแบบออนไลน์ เพื่อรับชมภาพยนตร์ใหม่ๆ ละคร มิวสิควิดีโอ ทำให้การบริโภคคอนเทนต์ผ่านอินเตอร์เน็ตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สิงที่เกิดขึ้นยังมีความเห็นจากผู้บริโภคชาวจีนส่วนใหญ่ ที่มองว่าเป็นโอกาสในการยกระดับกระบวนการในการฆ่าเชื้อและควบคุมโรคระบาด ขณะที่ผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในบ้านของชาวจีนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะคนจีนส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็สามารถเลือกซื้อสินค้าอาหารสด รวมทั้งการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำหลายแห่งของจีนได้ เพราะยังมีบริการเดลิเวอรี่ แม้ว่าอาจจะมีข้อจำกัดของระยะเวลาในการส่งที่อาจจะยาวนานเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
2. ผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นกับการบริโภคเป็นเพียงระยะสั้น ตามข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชาวจีนส่วนใหญ่ ที่มองว่าผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจท่องเที่ยวนั้นจะเกิดขึ้นเพียงแค่ในระยะสั้นๆ เพราะ Covid-19 เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ขณะที่ปริมาณความต้องการของผู้บริโภคคั่งค้างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงตรุษจีน เพราะไม่สามารถออกเดินทางท่องเที่ยว หรือบริโภคต่างๆ ได้ตามปกติ และหากสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง ทุกอย่างจะค่อยๆ ฟื้นตัว ทำให้แนวโน้มการบริโภคของจีนในระยะยาวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับช่วงโรคซาร์สที่การระบาดในครั้งนั้นก็ได้ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของจีนเป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถฟื้นกลับมาเติบโตต่อได้อย่างรวดเร็ว ภายหลังจากที่สถานการณ์ผ่านพ้นไป และทำให้การบริโภคในปีต่อมา หรือปี 2004 เพิ่มสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสื้อผ้า รองเท้า สิ่งทอ กีฬา สินค้าบันเทิง และอุปกรณ์สำนักงานที่สามารถเติบโตได้มากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดเสียอีก
3. การยื่นมือเข้ามาของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อช่วยภาคธุรกิจการบริการต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดครั้งนี้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SME ต่างๆ อาทิ ร้านอาหาร ธุรกิจขนส่ง ท่องเที่ยว ค้าปลีก รวมไปถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบไปด้วยโดยเฉพาะเรื่องทางด้านการเงิน ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องพิจารณามาตราการเพื่อเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อส่ิงที่เกิดขึ้น ด้วยการออกนโยบายเพื่อให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจต่างๆ หรือเพิ่มแนวทางสนับสนุนธุรกิจช่องทางใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบด้านการบริโภคที่เกิดจากการระบาดในครั้งนี้
สคต. ชิงต่าว ยังแนะนำผู้ประกอบการไทย ที่มีจีนเป็นตลาดหลัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ส่งออกสินค้าได้ลดลง ทั้งจากการที่ทางการจีนควบคุมการเข้าออกของประชากรในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามควรติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาตลาดรวมทั้งพฤติกรรมต่างๆ ในการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคชาวจีน เพื่อกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการกลับไปทำตลาด หลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคเริ่มคลี่คลายลง รวมทั้งการการมองหาตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในภูมิภาคอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับการดำเนินธุรกิจในอนาคต
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand