การเกิดขึ้นของ “ทีวีดิจิทัล” ตั้งแต่ปี 2557 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของหลายธุรกิจร่วมทั้ง Home Shopping จากเดิมเป็น “ช่องรายการ” ทางทีวีดาวเทียม แต่ในยุคที่ผู้ชมหดหาย และ air time ทีวีดิจิทัล “เหลือ” เพียบ โฮม ช้อปปิ้ง จึงต้องขยายมาสู่แพลตฟอร์มใหม่ๆ เข้าถึงฐานผู้ชมทีวี กลุ่มใหญ่ “แม่บ้าน” วัย 35 ปีขึ้นไป แต่นั่นไม่ใช่กลุ่มเดียวในตลาด อีกกลุ่มที่เปย์หนักไม่แพ้กัน คือ Baby Boomer
แม้ตลาด โฮม ช้อปปิ้ง อยู่ในภาวะแข่งขันรุนแรง จากผู้เล่นหลายราย ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่พาเหรดเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ยุคทีวีดาวเทียม มาถึงยุคทีวีดิจิทัล ที่หลายช่องดิ้นหาทางรอด ใช้เวลาโฆษณาเหลือขาย เปลี่ยนมา “ขายของ” คนที่ปรับตัวก่อนอย่าง RS จึงไปรอดในทีวีดิจิทัล และไปเติบโตในฝั่งคอมเมิร์ซ กลายเป็น บิสสิเนส โมเดล ให้หลายช่องทีวีเดินตาม
ลูกหม้อเฮียฮ้อเปิด “แฮปปี้ ช้อปปิ้ง”
หนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาโมเดลธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง (MPC) ของอาร์เอสตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2558 และเป็น “ลูกหม้อ” ของเฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ณ อาร์เอส มากว่า 10 ปี อย่าง คุณอภิรวี พิชญเดชะ เห็นโอกาสในตลาดโฮม ช้อปปิ้ง เช่นกัน จึงออกมาก่อตั้ง “แฮปปี้ กรุ๊ป” เมื่อต้นปี 2562
คุณอภิรวี เล่าว่าประสบการณ์ทำงานที่ RS ในช่วงพัฒนาธุรกิจคอมเมิร์ซ 1781 ทำให้เห็น “ช่องว่าง” ธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง ในกลุ่มลูกค้า Baby Boomer (อายุ 55 ปีขึ้นไป) ที่กำลังเติบโตจากการก้าวสู่สังคมสูงวัย ของประเทศไทย ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เพราะอยู่ในวัยเกษียณ พร้อมจับจ่ายสินค้าและเซอร์วิสต่าง ๆ เป็นกลุ่มที่ยังดูทีวีเป็นสื่อหลัก แม้จะมีไลฟ์สไตล์ออนไลน์แล้วก็ตาม แต่หากต้องใช้เวลาดูคอนเทนต์นาน ๆ ทีวีจอใหญ่ยังตอบโจทย์ได้ดี แต่ยังไม่มี โฮม ช้อปปิ้ง ที่จับกลุ่มสูงวัยโดยตรง ส่วนใหญ่มุ่งไปที่กลุ่มแมส
ช่วงต้นปี 2562 ได้ตัดสินใจออกจาก RS มาก่อตั้ง “แฮปปี้ กรุ๊ป” เพื่อทำธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง แบรนด์ Happy Shopping มีกลุ่มเป้าหมายหลัก Baby Boomer และ Gen X เลือกเป็นพันธมิตรกับ Nation TV ซึ่งมีฐานผู้ชมกลุ่มเดียวกัน เริ่มทำตลาดครั้งแรกเดือน พ.ค.2562 ด้วยกลุ่มสินค้า Happy Life+ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและกลุ่มบิวตี้ สำหรับสูงวัยโดยเฉพาะ ตามด้วยกลุ่ม Thai Wisdom by Happy สินค้า OTOP จากการพัฒนาโปรดักท์ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจต่างๆ เริ่มที่แบรนด์ กาแฟ 4 Valleys
“ถือว่าเรามาถูกที่ ถูกเวลา ถูกกลุ่มเป้าหมายในตลาดโฮม ช้อปปิ้ง มีฐานกลุ่มสูงวัยลูกค้าประจำกว่า 1 แสนราย เป็นกลุ่มที่มียอดซื้อเฉลี่ยเกือบ 1,900 บาทต่อครั้ง ส่วนลูกค้าทั่วไปอยู่ที่ 1,400 บาท หลังเปิดตัวได้ 7 เดือน ทำรายได้ปีก่อน 185 ล้านบาท”
Nation TV ร่วมทุน 50%
แฮปปี้ ช้อปปิ้ง เริ่มต้นจากการเป็นพันธมิตรซื้อเวลาทำรายการโฮม ช้อปปิ้งกับ Nation TV เป็นรายการ 10 นาที ออกอากาศวันละ 11 ครั้ง และมีสปอตโฆษณา 2 นาที วันละ 30-40 ครั้ง “ทีวี”จึงถือเป็นช่องทางขายหลักสร้างรายได้ 90% โดยต้นปีนี้ Nation TV เห็นโอกาสเติบโตในธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง จึงเข้ามาร่วมทุนใน แฮปปี้ กรุ๊ป สัดส่วน 50%
แผนธุรกิจปีนี้เตรียมขยายฐานลูกค้า จากกลุ่มหลัก Baby Boomer และ Gen X ไปกลุ่มอื่นๆ ด้วยการ พัฒนาเว็บไซต์ Happy Shopping เพื่อขยายแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่านสื่อออนไลน์ในเครือเนชั่น ซึ่งมีแบรนด์สื่อ 10 เว็บไซต์ มียอดวิวกว่า 12 ล้านเพจวิวต่อวัน นอกจากนี้ยังมีสื่อโซเชียลที่มีผู้ติดตามจำนวนมากเป็นช่องทางการสื่อสาร วางเป้าหมาย 3 ปี ช่องทางออนไลน์สร้างรายได้สัดส่วน 50% จากปีนี้อยู่ที่ 20%
ปีที่ผ่านมาได้ขยายพันธมิตรช่องทางทีวีดิจิทัล นอกจาก Nation TV ด้วยการเข้าไปซื้อเวลาทำรายการโฮม ช้อปปิ้ง ทางช่อง ONE 31 , ไทยรัฐทีวี และ อมรินทร์ทีวี เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อขยายฐานลูกค้านอกจากกลุ่มสูงวัย ซึ่งได้รับผลตอบรับดี ปีนี้จะมองหาโอกาสทำรายการในทีวีดิจิทัล ช่องใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ดึงสินค้า FMCG ขายผ่านโฮม ช้อปปิ้ง
หลังจากเริ่มต้นธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง ด้วยสินค้าอาหารเสริมและบิวตี้ ได้ขยายสู่โปรดักท์ ด้านบริการทัวร์ Happy Experience เน้นกลุ่มสูงวัย เส้นทางท่องเที่ยวจาริกแสวงบุญ และแหล่งท่องเที่ยว Unseen ปีที่ผ่านมาจัดทริปเมียนมา เหนือจรดใต้ ปีนี้เดิมวางแผนจัดทริป ใช้ชีวิตแบบ cashless society ที่เซียงไฮ้ ให้กับผู้สูงวัยในเดือน พ.ค. แต่สถานการณ์ไวรัสโคโรนา ทำให้ต้องเลื่อนออกไปเป็นเดือน ต.ค. รวมทั้งทริป อินเดีย และญี่ปุ่น รวมทั้งจะขยายสินค้าบริการเพิ่มเติม แพ็คเกจตรวจสุขภาพ ของโรงพยาบาลต่างๆ ด้วยในปีนี้
ส่วนการทำตลาดโปรดักท์ต่างๆ นอกจากสินค้า “เฮ้าส์แบรนด์” ของแฮปปี้ ช้อปปิ้ง ที่มีกว่า 200 รายการแล้ว ยังมีสินค้าจากพันธมิตรมาจำหน่ายด้วยอีกว่า 200 รายการ เช่น แบรนด์ Benecal สินค้าในเครือสหพัฒน์ , กลุ่มบิวตี้ YURA ของคุณ มยุรา เศวตศิลา พิธีกรและนักแสดง ปีนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ในกลุ่มผู้นำ เพื่อใช้ แฮปปี้ ช้อปปิ้ง เป็นช่องทางขายสินค้าคาดว่าจะสรุปได้ในครึ่งปีแรก
“การทำตลาดของสินค้า FMCG ผ่านสื่อทีวี เดิมเป็นการโฆษณา 15-30 วินาทีแล้วจบ ไม่สามารถวัดผลได้ว่าช่วยสร้างยอดขายได้หรือไม่ แต่สปอตโฆษณา 2 นาที ของ แฮปปี้ ช้อปปิ้ง ก่อนจบจะมีช่องทางให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้า เป็นอีกรูปแบบการโฆษณาที่จะช่วยสร้างยอดขายได้ และเป็นสิ่งที่สินค้าต่างๆ กำลังเรียนรู้ที่จะใช้แพลตฟอร์มโฮม ช้อปปิ้งในรูปแบบใหม่”
ปีที่ผ่านมาตลาดโฮม ช้อปปิ้ง มีมูลค่า 14,000 ล้านบาท เติบโต 7-8% แม้ว่าขยายตัวต่ำกว่าช่วงก่อนหน้านี้ แต่ถือว่ายังเห็นตัวเลขบวก แฮปปี้กรุ๊ป ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 530 ล้านบาท เติบโต 186% เล็งตำแหน่งท็อป 6 ของตลาด และ 3 ปีจากนี้น่าจะเห็นรายได้แตะ 1,000 ล้านบาท
“เชื่อว่าโฮม ช้อปปิ้ง ที่สร้างจุดขายแตกต่าง ยังไปต่อได้”