HomeBrand Move !!ถอดกลยุทธ์ SCG 2020 พลิกตำราแก้เกม “กำไรหด”

ถอดกลยุทธ์ SCG 2020 พลิกตำราแก้เกม “กำไรหด”

แชร์ :

“อุตสาหกรรมเคมิคอลส์ แพคเกจจิ้ง ซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง” ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องเจอกับความท้าทายมากมายทั้งความไม่นอนของสภาวะเศรษฐกิจ และการดิสรัปจากเทคโนโลยีที่พัดกระหน่ำเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาถาโถมตลอดเวลา เพราะหากปรับตัวไม่ทัน อาจถูกธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อนกลืนโดยไม่รู้ตัว

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เช่นเดียวกับ SCG แม้จะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมเคมิคอลส์ แพคเกจจิ้ง ซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมายาวนาน แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา SCG มีการปรับตัวในทุกธุรกิจ แต่ก็ดูเหมือนว่าการปรับตัวนั้นอาจจะยังไม่พอที่จะต้านทานกระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เพราะเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการที่ประกาศออกมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลับเต็มไปด้วยตัวแดงอย่างน่าตกใจ ทำให้วันนี้ SCG จึงต้องพลิกตำราสู้สุดฤทธิ์ และอะไรคือกลยุทธ์ที่ SCG จะใช้สู้ศึกครั้งนี้? มาติดตามดูกัน

เหตุที่ SCG กำไรลดลง?

หากย้อนกลับไปดูผลประกอบการของ SCG ในปี 2561 พบว่า มีรายได้อยู่ที่ 478,438 ล้านบาท โดยมีกำไรลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในปี 2562 มีรายได้ 437,980 ล้านบาท กำไรลดลง 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหากแยกรายได้ตามรายธุรกิจของบริษัท SCG มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในปี 2562 อยู่ที่ 184,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน เนื่องจากการขยายตัวของยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกและจัดจำหน่าย โดยมีกำไรอยู่ที่ 5,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน

ขณะที่ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ในปี 2562 มีรายได้จากการขาย 89,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดยมีกำไรลดลง 13% จากปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษลดลง ต้นทุนทางการเงินและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น

ส่วน ธุรกิจเคมิคอลส์ ในปี 2562 มีรายได้จากการขาย 177,634 ล้านบาท ลดลง 20% จากปีก่อน เนื่องจากราคาสินค้าปรับตัวลดลง โดยมีกำไรสำหรับปี 15,480 ล้านบาท ลดลงถึง 46% จากปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้า และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง

โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้กระทบต่อผลประกอบการของ SCG นั้น คุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี บอกว่า มาจากความผันผวนของปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้า รวมถึงเงินบาทแข็งค่า และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้ SCG ต้องเร่งปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจเพื่อสู้ศึกดิสรัปชันได้อย่างทันท่วงที และสามารถรักษาการเติบโตของธุรกิจไว้ได้อย่างยั่งยืน

ลุย 2 กลยุทธ์สู้ศึกความผันผวนที่รับมือไม่ได้

โดยกลยุทธ์ที่ SCG เลือกนำมาใช้สู้ศึกความผันผวนที่ควบคุมไม่ได้ จะเน้น 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การทรานสฟอร์มธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม (Business Transformation) เพื่อเปลี่ยนบทบาทจากการเป็น “ผู้ผลิตสินค้า” เพียงอย่างเดียว มาเป็น “ผู้ส่งมอบ” โซลูชันและนวัตกรรมสินค้า-บริการ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาได้อย่างครบวงจร และสามารถสร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้สูง และ 2.การพัฒนาบุคลากร (People Transformation) ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลง ให้มีทักษะที่จำเป็น สามารถเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าทุกกลุ่มทั่วภูมิภาคได้อย่างลึกซึ้ง สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์การแข่งขัน และสามารถตอบสนองต่อความต้องการเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที

สำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จะมุ่งยกระดับวงการก่อสร้างและที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร ด้วยโซลูชันสินค้าพร้อมบริการ ผนวกกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็น Construction Solution ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ช่างและผู้รับเหมาทำงานได้ดี รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนมากขึ้นกว่าเดิม เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) ที่ช่วยวางแผนการใช้งานวัสดุและเทคนิคในการก่อสร้างผ่านโมเดลสามมิติ จึงลดการเกิดวัสดุก่อสร้างส่วนเกิน Living Solution ที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย พร้อมกับรุกธุรกิจค้าปลีก ที่เชื่อมต่อร้านค้ากับช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์ scghome.com เพื่อให้ผู้ที่ต้องการสร้างหรือปรับปรุงต่อเติมบ้าน สามารถเข้าถึงสินค้าวัสดุก่อสร้างชั้นนำได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลา พร้อมมีบริการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง พร้อมการรับประกัน ด้วยเครือข่ายจัดส่งสินค้ากว่า 840 แห่งทั่วประเทศ ทั้งยังยกระดับกระบวนการผลิตให้เข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) โดยร่วมกับเอไอเอสนำเครือข่าย 5G มาทดลองใช้ขับเคลื่อนรถยก (Forklift) ระยะไกล ก่อนมีแผนต่อยอดไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจและอุตสาหกรรมในด้านอื่นๆ พร้อมพัฒนาศักยภาพให้พนักงานได้ต่อไป

ส่วนธุรกิจแพคเกจจิ้ง จะยังเดินหน้าสร้างสรรค์โซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร เพื่อเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตและความต้องการสูง ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม อาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋อง สินค้าอุปโภค สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ พร้อมการให้โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการพิเศษที่แตกต่างกันของลูกค้าในธุรกิจต่าง ๆ เช่น โซลูชันด้านการออกแบบและการพิมพ์ โซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ โซลูชันสำหรับการจัดแสดงสินค้าและส่งเสริมการตลาด และโซลูชันสำหรับกลุ่มสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อเสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และรักษาความเป็นผู้นำตลาดบรรจุภัณฑ์ครบวงจรในภูมิภาค

ด้านธุรกิจเคมิคอลส์ จะเน้นการเพิ่มสัดส่วนสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าประเภทคงทน (Durable Products) เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน เช่น เม็ดพลาสติก PE112 สำหรับผลิตท่อทนแรงดันสูง ซึ่งผลิตจากเทคโนโลยีที่ได้ยื่นจดสิทธิบัตร สามารถทนต่อแรงดันได้มากกว่า จึงได้รับความไว้วางใจในการผลิตท่อส่งน้ำประปาลอดใต้ทะเลจาก จ.สุราษฎร์ธานี ไปยังเกาะสมุย และ HDPE เกรดพิเศษจาก SMXTM Technology ที่เอสซีจีคิดค้นขึ้น สามารถใช้กับงานหลากหลายชนิด อาทิ การปรับปรุงคุณภาพพลาสติกรีไซเคิลให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น และยังเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับนักวิจัยและสถาบันชั้นนำระดับโลก อาทิ Norner ประเทศนอร์เวย์ และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม I2P (ไอทูพี: Ideas to Products) ที่ จ.ระยอง เพื่อเร่งกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดและรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังนำระบบดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตลอดห่วงโซ่คุณค่า เช่น ระบบการคาดการณ์ราคาสินค้าที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีประสิทธิภาพ และโปรแกรมอัตโนมัติสำหรับการวางแผนกระบวนการผลิตของธุรกิจโอเลฟินส์เพื่อใช้ในการจัดอันดับแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์การปรับตัวของยักษ์ SCG ซึ่งจากนี้ต้องจับตาดูว่าการแก้เกมครั้งนี้ SCG จะสามารถรับมือกับความผันผวนที่ควบคุมไม่ได้ได้หรือไม่

 

 


แชร์ :

You may also like