“สูตรสำเร็จ” ทางการตลาด บ้างเป็นกลยุทธ์เก่านำมาใช้ใหม่ไม่ได้ แต่บางกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จล้นหลาม โดนใจผู้บริโภค ทำไมแบรนด์จะไม่เลือกหยิบมาเป็น “อาวุธลับ” มัดใจกลุ่มเป้าหมาย
อากาศที่ร้อนระอุ! ในปี 2563 เพื่อเป็นการดับร้อนและมอบความสุขให้ผู้บริโภค แบรนด์น้ำอัดลมระดับโลก “โคคา-โคล่า” จึงปล่อยแคมเปญ “ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…” จุด จุด จุด ที่เว้นไว้คงจะเป็นใครไม่ได้ หากไม่ใช่ คนที่ใช่-คนที่รัก-คนที่รู้สึกดีๆ แล้ว “พิมพ์ชื่อ” ลงบนผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มน้ำอัดลม “โค้ก” ให้โค้กเป็น “สื่อกลาง” บอกความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกัน
ส่วนแคมเปญ “ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…” ครั้งนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้น “คุณมัณฑนา หล่อไกรเลิศ” ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมจะไขความลับให้
“โคคา-โคล่า ยึดถือความต้องการของผู้บริโภคเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ ซึ่งผลความสำเร็จดังกล่าวถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความไว้วางใจที่ผู้บริโภคมอบให้แก่แบรนด์อย่างต่อเนื่อง”
สำหรับภาพ “ความสำเร็จ” ของโค้กในปี 2562 ที่ผ่านมา คือการครองความเป็น “ผู้นำ” ตลาดน้ำอัดลมอย่างแข็งแรง และไม่ใช่แค่โค้ก แต่รวมถึง “แฟนต้า” และ “สไปร์ท” ด้วย ซึ่งรายงานดัชนีค้าปลีกของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาท เป็นเซ็กเม้นต์ที่มีการเติบโตถึง 11.7% โดยผลิตภัณฑ์โคล่ามีการเติบโตสูงถึง 12.9% คิดเป็นมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านบาท ที่สำคัญ แบรนด์โค้กเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด “อันดับ 1” อยู่ที่ 35.7%[1]
ขณะเดียวกันโคคา-โคล่า ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์น้ำอัดลมที่ผู้บริโภคชื่นชอบมากที่สุด จากผลสำรวจ Thailand’s Most Admired Brands ประจำปี 2563 ในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งนับเป็นการได้รับรางวัลนี้เป็นปีที่ 19 [2]ถือเป็นการยืนหยัดครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เพื่อสานต่อความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดน้ำอัดลมต่อเนื่องในปี 2563 นี้ โคคา-โคล่า จึงเดินหน้าเขย่าตลาด ด้วยการนำแคมเปญระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ ‘โค้ก’ มาเสิร์ฟกลุ่มเป้าหมายชาวไทย
สำหรับ “ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…” ถือเป็นกลับมาชวนผู้บริโภคชาวไทยส่งผลิตภัณฑ์โค้กสานความสัมพันธ์ทั้งในหมู่เพื่อน ครอบครัว และคนรักตลอดหน้าร้อน หลังจากปี 2556 โค้กสร้างปรากฎการณ์เป็นสื่อกลางที่พูดแทนใจผู้บริโภค จนได้รับการตอบรับจากอย่างล้นหลาม
“ฤดูร้อนถือเป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับคนไทย ถือเป็นโอกาสในการใช้ช่วงเวลาดีๆ และส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน ‘โค้ก’เชื่อว่าแคมเปญ ร้อนนี้ ส่งโค้กให้… จะโดนใจกลุ่มเป้าหมายอย่างดี”
เมื่อยุคดิจิทัลมีอิทธิพลในชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค แคมเปญดังกล่าวจึงถูกออกแบบให้เข้ากับ “ดิจิทัล” มากขึ้น โดยแบรนด์ได้เชิญชวนผู้บริโภคส่งกระป๋องผลิตภัณฑ์ ‘โค้ก’ ที่ออกแบบมาเพื่อส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้มากกว่าที่เคย ด้วยชื่อเล่นยอดฮิตและข้อความบอกความรู้สึกที่ทันสมัยโดนใจ “กว่า 400 แบบ” ซึ่งนับว่าหลากหลายมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
ขณะที่กิจกรรมการตลาดยังมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคได้สร้างสรรค์กระป๋อง ‘โค้ก’ ส่งต่อความรู้สึกในแบบของตัวเองหรือมีความ Personalize ได้มากยิ่งขึ้น
กิจกรรมไฮไลท์ เช่น การฉลอง Share A Coke Day ซึ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างประสบการณ์ทำให้ผู้บริโภค “วัยรุ่น” คนรุ่นใหม่ ได้ส่งโค้กให้กันง่ายและสนุกมากขึ้น โดยโค้กส่งเพลง #ชื่อเราอยู่ไหน ผลงานของศิลปินฮิปฮอปชื่อดังขวัญใจวัยรุ่นอย่าง UrboyTJ ประกอบภาพยนตร์โฆษณา ให้วัยรุ่นได้ลองส่ง ‘โค้ก’ ให้กันผ่านวิดีโอ และยังร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Tiktok จัด #ShareACokeChallenge ในวัน Share A Coke Day เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการออกแบบข้อความที่อยากแชร์ในช่วงฤดูร้อนให้กับคนที่รัก ยังสามารถสั่งซื้อ เซ็ต e-commerce limited edition ที่มาพร้อมเครื่องดื่ม ‘โค้ก’ จำนวน 3 กระป๋อง ในชื่อและข้อความแบบของคุณได้ ในเคสรูปตู้เย็น ‘โค้ก’ สไตล์ Retro สีแดงสุดน่ารักได้ทาง Lazada, JD ,Tops Online และ Shopee ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม
อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากพลาดแคมเปญดีๆ ผู้บริโภคสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของแคมเปญ ‘ร้อนนี้ ส่งโค้กให้…’ ได้ที่ https://www.facebook.com/cocacolaTH
ข้อมูลอ้างอิง :
[1] การคำนวณข้อมูลตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมซึ่งรวมผลิตภัณฑ์ประเภทมิกเซอร์ ของโคคา-โคล่า ส่วนหนึ่งอ้างอิงจากข้อมูลดัชนีค้าปลีกรายเดือน ที่รายงานโดย Nielsen สำหรับตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลม ในช่วงเวลา 12 เดือน สิ้นสุด ณ เดือนธันวาคม พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นข้อมูลของตลาดในประเทศไทยคลอบคลุมถึงซุปเปอร์มาร์เกต ไฮเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายของชำแบบดั้งเดิม และร้านอาหาร/ภัตตาคาร ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Nielsen (Copyright © 2020, Nielsen)
[2] ผลการสำรวจ Thailand’s Most Admired Brands ประจำปี 2563 โดยนิตยสารแบรนด์เอจ (BrandAge)