ยังคงเห็นความตื่นตระหนกในช่วงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะภาพที่ถูกแชร์ต่อกันไปทั่วโซเชียลมีเดีย ถึงการเข้าไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ เพื่อกักตุนไว้ก่อนที่สถานการณ์การแพร่ระบาดจะถูกยกระดับเป็นเฟส 3 นำมาซึ่งความกังวลจากหลายๆ ฝ่ายว่าอาจจะทำให้เกิดการขาดแคลนสินค้าในอนาคตได้นั้น
ซีพีออลล์ ทั้งกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น และธุรกิจค้าส่งอย่าง แม็คโคร ต่างออกมาแสดงความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค ถึงการเตรียมความพร้อมในการตั้งรับต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีการสต๊อกสินค้าให้เพียงพอเพื่อรองรับความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความกังวลใจของผู้บริโภคที่เกรงว่าจะมีสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ
เริ่มจาก บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่แสดงความมั่นใจ ว่ามีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ ทั้งอาหารสด–อาหารแห้ง พร้อมเป็นแหล่งกระจายสู่ผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อย โชห่วย ร้านอาหาร หวังส่งต่ออาหารคุณภาพปลอดภัยในภาวะวิกฤตถึงมือลูกค้า รองรับพฤติกรรมลูกค้าที่หันมาช้อปสินค้าใกล้บ้าน และทำงานเวิร์คฟรอมโฮม
คุณศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย แม็คโคร ได้เห็นความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ของสาขาต่างๆ ทั้งเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้มีการวางแผนตั้งรับสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้อย่างเข้มข้นและรัดกุม
โดยได้ทำงานใกล้ชิดกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ทั้งการบริหารสต็อกสินค้า การเพิ่มความถี่ในการเติมสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า แม็คโครได้เตรียมสินค้าทั้งอาหารสด อาหารแห้ง หรือสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เอาไว้อย่างเพียงพอ ไม่อยากให้เกิดความตื่นตระหนกจนเกินไป
“แม็คโครเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วย ร้านอาหาร และลูกค้าทั่วไปที่เพิ่มมากขึ้น เพราะต่างพากันปรับตัวไปตามภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ออกนอกบ้าน เลือกซื้อสินค้าในร้านค้าใกล้บ้าน นักเรียนนักศึกษาก็เริ่มเรียนออนไลน์ คนทำงานก็ทะยอยทำงานที่บ้านมากขึ้น โดยแม็คโครยังคงทำหน้าที่เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าในราคาค้าส่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปกระจายสู่ผู้บริโภคครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าแม็คโครมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นเพียงพอต่อความต้องการ โดยยังคงเน้นการจำหน่ายในราคาขายส่ง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อผู้ประกอบการ และบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด -19”
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ ประกอบด้วย สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง น้ำดื่ม อุปกรณ์ทำความสะอาด ตลอดจนของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
นอกจากนี้ แม็คโครยังคงเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัยในสาขา ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก็ยังคงไว้ซึ่งมาตรการต่างๆ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสาขาให้กับลูกค้าพนักงานทุกครั้ง การสวมหน้ากากอนามัยของพนักงาน เพื่อคุมเข้มความปลอดภัยให้กับทุกคนอย่างต่อเนื่อง
ด้านธุรกิจร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น โดย คุณสุวิทย์ กิ่งแก้ว ที่ปรึกษาอาวุโสคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย กล่าวว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งมีสาขาอยู่ในทุกชุมชนทั่วประเทศ ได้เตรียมความพร้อมด้านสินค้าอุปโภค บริโภค ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร น้ำดื่ม อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวกล่องอาหารแช่แข็งและแช่เย็น (RTE) รวมถึงสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในยามวิกฤต
พร้อมทั้งได้จัดเตรียมสต๊อกสินค้าและมีการสั่งสินค้าเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญในการดูแลสุขอนามัยของพนักงานและความปลอดภัยของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านเซเว่นฯอย่างเข้มข้น เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอทุก 3 ชั่วโมง ในจุดที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น เคาน์เตอร์แคชเชียร์ เครื่อง POS จุดบริการเครื่องดื่ม/อาหารอุ่นร้อน
รวมถึงอุปกรณ์ใส่อาหาร ใส่สินค้า อุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับอาหารที่ทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน รวมทั้งพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งร้าน ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า ประตูตู้แช่แข็ง ตู้เก็บอุปกรณ์เตรียมการจำหน่าย ราวบันได ประตูห้องน้ำ ทุกครั้งหลังใช้งาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) อย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพนักงานและลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้คณะแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ ทุกภาคส่วน และประชาชนทุกคนร่วมฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน