แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะก้าวขึ้นแซงหน้าจีนแผ่นดินใหญ่กับตำแหน่งประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 มากที่สุดในโลก (ตัวเลข ณ วันที่ 27 มีนาคม 2020 คือมีผู้ติดเชื้อมากถึง 85,505 คน) แต่ดูเหมือนว่าความท้าทายที่กล่าวมานั้นอาจเป็นแค่จุดเริ่มต้น
เหตุเพราะมี ส.ส. อย่าง Carolyn Maloney และ Gerry Connolly ออกมาเผยว่า จากวิกฤติที่เกิดขึ้น อาจเป็นไปได้ว่า “กิจการไปรษณีย์” ของประเทศจะไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ต่าง ๆ ได้อีกต่อไป และอาจต้องปิดตัวลงภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งนำไปสู่การขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อมาช่วยอุ้มกิจการไปรษณีย์ดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้กิจการไปรษณีย์ของสหรัฐอเมริกาเดินมาถึงจุดนี้มาจากรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 4% ต่อปี (2007 – 2018) หรือหากเปรียบเทียบจำนวนจดหมายและพัสดุที่มีการจัดส่งในปี 2001 เทียบกับปี 2017 ก็พบว่าลดลงมากถึง 43% (ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของอเมริกันชนเองที่หันไปใช้อีเมล และเว็บไซต์ในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น)
ขณะที่ค่าใช้จ่ายของกิจการไปรษณีย์สหรัฐฯ นั้นไม่ได้น้อยเลย โดยหนึ่งในค่าใช้จ่ายสำคัญก็คือค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถส่งพัสดุที่ในแต่ละปีมีแต่จะเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีบริษัทคู่แข่งอย่าง FedEx, UPS ขึ้นมาท้าชนโดยตรง และสามารถจัดส่งพัสดุต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน และที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ ตัวเลขพนักงานของกิจการไปรษณีย์สหรัฐที่พบว่ามีการจ้างงานไว้มากกว่า 6 แสนคน
เมื่อมีผู้ใช้บริการน้อยลงก็ย่อมหมายถึงรายได้ที่น้อยลงตามไปด้วย ผลก็คือ บริษัทมีการขาดทุนอย่างหนักในปี 2012 ถึง 15,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากปี 2018 ที่ขาดทุนไปถึง 3,900 ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดทุนอีก 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019
ทั้งนี้หากนับรวมผลการขาดทุนสะสมของไปรษณีย์สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2007 – 2018 จะพบว่า มีตัวเลขขาดทุนรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 69,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ยอดหนี้สะสมพบว่ามีมากถึง 89,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสินทรัพย์นั้นมีแค่ 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น
ปิดกิจการไปรษณีย์ สะเทือนสหรัฐอเมริกาอย่างไร
อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เข้าอุ้มกิจการไปรษณีย์และปล่อยให้ปิดตัวลงภายใน 3 เดือนนับจากนี้อาจเป็นวิกฤติที่แท้จริงของประเทศ
ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น อาจต้องย้อนกลับไปดูตัวเลขการจัดส่งพัสดุเมื่อปีที่แล้ว ที่พบว่า มีการจัดส่งยา และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ผ่านไปรษณีย์มากถึง 1 พันล้านครั้ง ซึ่งเมื่อกลับมามองสถานการณ์ในปีนี้ของสหรัฐอเมริกาจะพบว่า การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ผ่านกิจการไปรษณีย์อาจมีความจำเป็นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวัน
นอกจากนั้น การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีก็ยังใช้บริการของกิจการไปรษณีย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากไวรัส Covid-19 แพร่กระจายหนักข้อกว่านี้ การจัดส่งคะแนนด้วยไปรษณีย์ก็คาดว่าจะมีความจำเป็นเพิ่มขึ้น และถ้าถึงตอนนั้นไม่มีธุรกิจดังกล่าวแล้วก็อาจทำให้ขั้นตอนในการเลือกตั้งชะงักงันได้ แถมยังมีพนักงานไปรษณีย์ที่จะต้องตกงานอีกหลายแสนคนให้รัฐต้องบริหารจัดการอีกต่างหาก
เรียกว่าเป็นช่วงเวลาวัดกึ๋นประธานาธิบดีได้เลย