ขึ้นชื่อว่าเงินช่วยเหลือไม่ควรมีอุปสรรคในการเบิกจ่าย อย่างไรก็ดี กระทั่งประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา การแจก “เงินช่วยเหลือ” ผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19 ก็ไม่อาจส่งถึงมือผู้รับได้โดยง่าย เพราะมีรายงานว่า ทางกระทรวงการคลังของสหรัฐมีคำสั่งให้พิมพ์ชื่อประธานาธิบดี “โดนัลด์ เจ.ทรัมป์” ลงบนเช็คก่อน ถึงจะจัดส่งได้ ซึ่งอาจทำให้การจัดส่งเช็คต้องล่าช้าไปอีกระยะหนึ่ง
โดยหลังจากมีการตัดสินใจเรื่องการพิมพ์ชื่อ ก็พบว่า ใน Google มีการเสิร์ชเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งคำถามหนีไม่พ้นเรื่องของเวลา อย่างเช่น “when will stimulus checks arrive?” หรือวิธีการในการได้เช็ค “how do you get the stimulus check?” รวมถึงมีประชาชนจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีทำให้พวกเขาต้องได้รับเงินช่วยเหลือล่าช้าไปด้วย
ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีของประวัติศาสตร์อเมริกาที่มีชื่อของประธานาธิบดีปรากฏอยู่บนเช็คที่จ่ายเงินให้ประชาชน และทำให้สื่อตะวันตกจำนวนหนึ่งมองว่า นี่เป็นการกระทำที่หวังผลทางการเมือง เนื่องจากสหรัฐอเมริกากำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปลายปีนี้
The Washington Post รายงานด้วยว่า โดยกฎหมายแล้ว ประธานาธิบดีไม่ใช่ผู้ลงนามที่ได้รับอนุญาตสำหรับการเบิกจ่ายดังกล่าว เพราะสิทธิในการลงนามในเช็คที่ออกโดยกระทรวงการคลังนั้นเป็นของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความลำเอียงมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
แต่สำหรับสาเหตุที่มีชื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ปรากฏบนเช็คดังกล่าวนั้น The Washington Post ได้อ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ Steven Mnuchin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะที่ดูแล IRS (The Internal Revenue Service) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลการจ่ายเงินครั้งนี้ เกี่ยวกับกระบวนการให้มีชื่อของเขาปรากฏอยู่บนเช็คที่จะมอบให้กับชาวอเมริกันนั่นเอง
โดยเช็คดังกล่าวจะถูกจัดส่งให้ชาวอเมริกันผ่านทางไปรษณีย์ เนื่องจากคนที่ได้รับเช็คเหล่านี้เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และมีจำนวนมากที่ไม่มีบัญชีธนาคาร
ส่วนอีกประเด็นที่อาจนำไปสู่ความล่าช้าในการส่งเช็คให้ถึงมือประชาชนนั้น มีรายงานว่ามาจากฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของ IRS ที่ต้องปรับปรุงโปรแกรมใหม่เพื่อให้การปรินท์เช็คมีชื่อของประธานาธิบดีอยู่บนนั้นด้วย และต้องทดสอบโปรแกรมก่อนว่าสามารถพิมพ์ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งทีมงานดังกล่าว ปัจจุบันได้แยกย้ายกันทำงานอยู่ที่บ้าน (Work From Home) ไปแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ก่อนดราม่าจะเกิดขึ้น ทางโฆษกกระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าการจัดส่งเช็คช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบครั้งนี้จะไม่ดีเลย์อย่างแน่นอน และคาดว่าเช็คชุดแรกจะสามารถจัดส่งได้ภายในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน
โดยการแจกเงินช่วยเหลือครั้งนี้มีชาวอเมริกันราว 150 ล้านคนที่จะได้รับ แบ่งออกเป็นคนโสดที่มีเงินได้ 75,000 เหรียญสหรัฐต่อปีจะได้รับเงินช่วยเหลือ 1,200 เหรียญสหรัฐ คู่แต่งงานที่มีเงินได้ 150,000 เหรียญสหรัฐต่อปีจะได้รับเงินช่วยเหลือ 2,400 เหรียญสหรัฐ และครอบครัวที่มีลูกจะได้รับเงินเพิ่มอีกคนละ 500 เหรียญสหรัฐต่อเด็กหนึ่งคน