ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ! สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ภาครัฐต้องออกมาตรการเข้มควบคุมดูแลการแพร่ระบาด กับประกาศปิดสถานที่เสี่ยง กำหนดเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4 ผู้ประกอบธุรกิจต่างปรับตัวหาทางรอดและโอกาสท่ามกลางวิกฤตินี้
ค้าปลีกเป็นอีกธุรกิจที่ต้องปรับตัวในสถานการณ์นี้ เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผู้บริหาร แฟมิลี่มาร์ท และ ท็อปส์ เดลี่ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้เปิดตัว 2 โมเดลใหม่ เพิ่มช่องทางขายสินค้าและเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายมากขึ้น ครั้งแรกกับโมเดล แฟมิลี่มาร์ทคอนเทนเนอร์ (Food Drink Container Mart) และ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ กดสะดวกทุกเวลา (Vending Machine)
คุณสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล กรุ๊ป ผู้บริหาร แฟมิลี่มาร์ท และท็อปส์เดลี่ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่าแม้ในวิกฤติยังมีโอกาสอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การดำเนินธุรกิจจะต้องมีการปรับตัว ปรับแผนการทำงาน โจทย์สำคัญ คือ จะเสริมรูปแบบการให้บริการอย่างไรเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว
โดยเห็นโอกาสการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้ารูปแบบใหม่ จึงตัดสินใจเปิดตัว “แฟมิลี่มาร์ทคอนเทนเนอร์” ร้านสะดวกซื้อในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์รายแรกในประเทศไทย มีความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า ตัดปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่ที่ยากต่อการเปิดร้านแฟมิลี่มาร์ทในรูปแบบปกติและต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง เน้นทำเลด้านหน้าศูนย์การค้า คอนโดมีเนียม มหาวิทยาลัย ชุมชน โรงงาน
แฟมิลี่มาร์ท คอนเทนเนอร์ ดีไซน์ทันสมัย แนว Graffiti & Street Art เพื่อดึงดูดสายตาลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้า ออกแบบด้านหน้าคอนเทนเนอร์ให้เป็นกระจกใสเพื่อเปิดให้เห็นสินค้าและพนักงาน การวางสินค้าเน้นขนม เครื่องดื่ม และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ด้านราคาและโปรโมชั่นต่างๆ เหมือนกับร้านแฟมิลี่มาร์ท
นำร่องเปิดให้บริการที่หน้าศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาศรีสมาน และสาขาสระบุรี ในวันที่ 10 เม.ย. 2563 และโรบินสัน สาขาบางรัก ในวันที่ 22 เม.ย. 2563 เวลาเปิดให้บริการ 07.00-21.00 น. จำกัดลูกค้าเข้าใช้บริการครั้งละ ไม่เกิน 5 คน และหลังจบสถานการณ์โควิด-19 มีแผนจะขยายเวลาเปิดให้บริการ
อีกรูปแบบการขยายช่องทางบริการลูกค้า แฟมิลี่มาร์ท และ ท็อปส์ เดลี่ ได้เปิดตัว “ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ กดสะดวกทุกเวลา” (Vending Machine) ในคอนเซปต์ “หิวมั้ย กดเลย” จำหน่ายสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับลูกค้าที่สัญจรไปมา สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในชั่วโมงเร่งรีบ การเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งปัจจุบันร้านสะดวกซื้อไม่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยแฟมิลี่มาร์ทและท็อปส์ เดลี่ ในแต่ละสาขาจะมีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 2 ตู้ ได้แก่ ตู้จำหน่ายขนมขบเคี้ยวและอาหารพร้อมทานแช่เย็น (Snack and Chilled food) และตู้จำหน่ายเครื่องดื่มเย็นฉ่ำ (Cold Beverages)
การคัดเลือกสินค้าสำหรับตู้จำหน่ายอัตโนมัติจะพิจารณาตามฐานข้อมูลลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงตามความต้องการให้มากที่สุด ในระยะแรกจะเปิดรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น สำหรับการติดตั้งตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติในระยะแรกจะวางด้านหน้าร้านแฟมิลี่มาร์ท สาขาเมืองทอง ป๊อปปูล่า 3, มหาวิทยาลัยรังสิต , ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 11,ซอยรามอินทรา 34, บางบอน 5 ซอย 8 และ ท็อปส์ เดลี่ สาขามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เริ่มเปิดให้ใช้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นับเป็นความเคลื่อนไหวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อท็อปส์ เดลี่และ แฟมิลี่มาร์ท ที่ต้องปรับตัวพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ในทุกสถานการณ์