HomeInsightFutureTales Lab เผย 10 เทรนด์ The Next Normal ของสังคมไทย หลังวิกฤติ COVID-19

FutureTales Lab เผย 10 เทรนด์ The Next Normal ของสังคมไทย หลังวิกฤติ COVID-19

แชร์ :

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ถือได้ว่าเป็นฝันร้ายของคนทั่วทั้งโลก รวมทั้งประเทศไทย เพราะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงชนิดคาดไม่ถึงในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมถึงวิถีการดำรงชีวิตของคนในสังคมที่เปลี่ยนไปอย่างมาก จนหลายคนเริ่มจับตาถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ “ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ” (FutureTales Lab by MQDC) หรือ ศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ภายใต้บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ได้รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ผลกระทบสังคมในอนาคต โดยสรุปออกมาเป็น 10 เทรนด์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังวิกฤติ COVID-19 เพื่อให้ผู้ประกอบการเตรียมรับมือในทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) เปิดเผยว่า บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเทรนด์ใหม่ๆ และการคาดการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับโลกในอนาคต เพื่อให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐและเอกชนสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปต่อยอดให้เกิดการพัฒนาและออกแบบแนวนโยบาย แผนการรับมือเชิงรุก ตลอดจนการพัฒนาที่อยู่อาศัย รวมถึงผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตของคนในอนาคต บนพื้นฐานของแนวคิด ‘For All Well-Being’ หรือ การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับสรรพสิ่งบนโลกอย่างแท้จริง จึงจัดตั้งศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาแห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน ภายใต้ชื่อ “ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ” (FutureTales Lab by MQDC) พร้อมหยิบยกประเด็นผลกระทบของสังคมไทยหลังวิกฤติ COVID-19 มาวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือ Web of Impact เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งสามารถสรุปเป็น 10 เทรนด์ที่สังคมไทยควรจะตั้งรับ ทั้งในแง่พฤติกรรมการใช้ชีวิต การอยู่อาศัย การใช้เทคโนโลยี การเดินทาง และการดูแลสุขภาพ ตลอดจนแนวโน้มของนโยบายภาพใหญ่ของรัฐบาล ดังนี้

1.Social Structure

โครงสร้างทางสังคมใหม่ๆ ที่จะมีการออกกฎหมายที่ใช้ร่วมกันทั่วโลก เป็นกฎหมายเดียวกันที่ช่วยในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงการเข้ามาของเทคโนโลยี IOT Infrastructure และระบบต่างๆ ทำให้คนเข้ามาสนใจมากยิ่งขึ้น อีกประเด็นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างของสังคมใหม่ก็คือ ผู้คนจะให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่มากยิ่งขึ้น โดยจะยอมให้ข้อมูลส่วนตัว (privacy) เพื่อที่จะปกป้องสุขภาพ และทรัพย์สินของตัวเองและครอบครัวมากยิ่งขึ้น

Digital City of Manhattan

2.Resilience & Agile by Force

แม้ว่าในอนาคตหลังวิกฤติ COVID-19 ความเชื่อมั่นและความเชื่อใจในระดับบุคคลจะลดน้อยลง แต่ความร่วมมือระหว่างองค์กรและอุตสาหกรรมจะมีมากขึ้น ซึ่งภาครัฐจะใช้เวลาปรับตัวมากที่สุดและจะถูกปรับเปลี่ยนมากขึ้น เช่น กฎหมายพื้นฐาน การประชุมอย่างถูกกฎหมายผ่านทางออนไลน์ เป็นต้น วิกฤติครั้งนี้อาจเป็นการล้างไพ่ทางเศรษฐกิจในทางบวก คือรัฐและองค์กรธุรกิจสามารถใช้โอกาสนี้ในการจัดการเรียนผ่านออนไลน์ฟรี ให้กับแรงงาน หรือการกำหนดระเบียบการทำงานที่ลดการใช้ทรัพยากรได้มากขึ้น

  1. Global Emotional Crisis & Touchless Society คือ

วิกฤติทางอารมณ์ของคนเมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบากในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้แบบเดิมๆ นำไปสู่การสูญเสียสมดุลทางความคิดและอารมณ์ อาทิ เด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมา จากเดิมมีวิธีการทักทายแบบจับมือหรือกอด แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทำให้ไม่สามารถทำได้ ทำให้การปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพมีระยะห่างกันออกไปเรื่อยๆ ส่งผลในเรื่องของอารมณ์ในแง่ของความใส่ใจ และความห่วงใยในอนาคต อย่างวัยทำงานที่นิยม Co – Working Space ก็อาจจะมีปรับพื้นที่ในรูปแบบ Sharing Space With Boundary หรือ มีการแบ่งแยกพื้นที่ของตัวเองมากขึ้น และการออกแบบพื้นที่บริการแบบไม่ต้องสัมผัส แต่ใช้ voice recognition หรือ AR แทน

Businesspeople wearing masks in the office and working on bigger distance for safety during COVID-19 pandemic

  1. Public Space / Indoor Technology with Health Factor

 จากความไม่เชื่อมั่นและความวิตกกังวลในเรื่องความไม่ปลอดภัยในเวลาที่ต้องออกไปยังพื้นที่สาธารณะต่างๆ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ อาทิ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ต้องมีการวางแผนรับมือ และสร้างเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การวางระบบฆ่าเชื้อสำคัญเหมือนการวางระบบแอร์ น้ำ ไฟ มีการกำหนดมาตรฐานระบบ clean air quality ในอาคาร

Central fountain of Sony Center surrounded by the restaurants, cafes and office buildings of Potsdamer Platz. Roof illuminated by purple colorful lights at night/dusk. Berlin. Germany.

  1. Prioritizing Space Over Convenience

วิถีความคิดของผู้บริโภคในแง่การซื้อที่อยู่อาศัยจะเปลี่ยนไป เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างจะรวมตัวกันอยู่ในกลางเมือง โดยยึดเอาแนวเส้นการเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้าเป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการทำงานในอนาคต สามารถทำงานที่บ้านได้ อาจจะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่ทำงานทุกวัน จึงอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมือง หรือ อาศัยในคอนโดมิเนียมขนาดเล็กกลางใจเมืองต่อไป แต่อาจปรับเปลี่ยนเป็นบ้านนอกเมือง แต่มีพื้นที่มากขึ้น มีสวน  การปรับเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศ (vacation home) มาใช้อาศัยประจำแทน

HDR shot of a modern living room

  1. Everything At Home หรือที่เรียกว่า เศรษฐกิจติดบ้าน

จากสถานการณ์โรคระบาด ทำให้วิถีชีวิตของคนเปลี่ยนไป เริ่มเคยชินกับการอาศัยอยู่ในบ้าน ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆ ภายในที่พักอาศัยของตนเอง ส่งผลต่อความต้องการที่พักอาศัยที่อาจจะเปลี่ยนไป จากเดิมที่สามารถอาศัยในพื้นที่ที่มีขนาดเล็กได้ แต่ขณะนี้อาจจะไม่เพียงพอ และต้องการมีพื้นที่ที่สามารถทำอะไรได้หลายหลากมากยิ่งขึ้น อย่าง คอนโดมิเนียม ก็ต้องมีพื้นที่สำหรับการทำอาหาร พื้นที่ทำงานและออกกำลังกายได้ในขณะเดียวกัน

Full length portrait of attractive young financial manager sitting on cozy bed in lotus position and preparing annual accounts with help of laptop, interior of modern studio apartment on background

  1. Proactive Healthcare Platform

จากเหตุการณ์โรคระบาด COVID-19 ทำให้แพลทฟอร์มการดูแลสุขภาพและการป้องกันความเจ็บป่วยนั้นมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น โครงสร้างพื้นฐานของเมือง อาคาร บ้านจะต้องมีบริการและแพลตฟอร์มสุขภาพและสุขภาพจิตเป็นบริการพื้นฐาน

Doctor is using the tablet to send the data to the virtual reality glasses showing the health diagnosis as the patient is wearing and analyzing together at home.

  1. Last mile & next hour logistic

ด้วยพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลง จะทำให้ระบบการขนส่งระยะสั้นแบบ 1 กิโลเมตร และการจัดส่งแบบรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง จะเป็นที่ต้องการ และความสำคัญมากยิ่งขึ้น

  1. Wearable Device – Prioritizing Health & Safety Over Privacy

การเติบโตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ ซึ่งผู้บริโภคจะยอมให้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อแลกกับความปลอดภัยที่มีมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เจาะลึกถึงข้อมูลมากยิ่งขึ้น สามารถดูได้ว่า ณ วันนี้ สถานที่ที่เราอยู่ ณ ตรงนี้ มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะเป็นประเด็นในเรื่องของความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว

Unrecognizable businessman activates conceptual HUD holograms on smartwatch with text COVID-19. Man in jacket with holographic technology on wristwatch on background of brick wall

  1. Super Food & Food Supply Chain Transparency To Personal Food Supply

โดยส่วนใหญ่ผู้บริโภคจะรับประทานอาหารเพื่อความอร่อย และเป็นการเข้าสังคมรูปแบบหนึ่ง แต่หลังจากนี้ ผู้บริโภคจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ต้องการความมั่นใจมากขึ้นว่าสินค้าที่จะนำมาปรุงอาหารต้องมีมาตรฐาน ปลอดภัย และมีความสะอาด รวมถึงผู้บริโภคบางส่วนเองเริ่มมีการทำฟาร์มขนาดเล็กในเมืองมากยิ่งขึ้น

 

ทั้งหมดนี้ก็คือ 10 เทรนด์สังคมในอนาคตที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปหลังพ้นภาวะวิกฤติ COVID-19 ซึ่ง
“ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ” เชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมทุกภาคส่วน ในการเตรียมรับมือและพร้อมที่จะปรับตัวกับ The Next Normal หรือ ความปกติในรูปแบบใหม่ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังพ้นวิกฤติครั้งนี้


แชร์ :

You may also like