ฉีกทุกกฎการทำโฆษณาแบบเดิมๆ วันนี้ “The Leo Burnett Group Thailand (Alpha245)” ส่งโฆษณา 2 ชิ้นใหม่สุดปังจาก “กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์” ที่ได้ ผู้กำกับโฆษณาฝีมือเทพอย่าง อั๋น-วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร แห่ง Factory01 มาร่วมฉีกกฏไปด้วยกัน โดยหยิบเอา insight การใช้เงินของวัยรุ่น Gen Y ในปัจจุบัน ที่มีพฤติกรรมและค่านิยมแบบสุขนิยม ใช้เงินก่อน…เก็บทีหลัง นำมาตีแผ่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องง่ายๆ แต่ฮิปสุดๆ ผ่านรูปภาพและเสียง รับกับพฤติกรรมของวัยรุ่นในปัจจุบันที่ชอบถ่ายภาพลง Instagram หรือ Pinterest เพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆของตนเอง งานนี้นอกจากไอเดียเจ๋งๆแล้ว ยังต้องอาศัยความกล้าอีกด้วย เรียกได้ว่า การร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันระหว่าง The Leo Burnett Group Thailand (Alpha245) และ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เป็นการก้าวออกจาก Comfort Zone สู่การรันวงการโฆษณาแบบใหม่อย่างแท้จริง
โดยไอเดียหลักของโฆษณาทั้ง 2 เรื่องนี้คือ การทำให้วัยรุ่นยุคปัจจุบัน หรือคน Gen Y ฉุกคิดได้ว่า เราไม่ควร “คิดสั้น” เอาความอยากมาทำให้สถานะการเงินพัง อะไรที่ไม่จำเป็นก็พักก่อน เรียกได้ว่าใครที่ได้ดูโฆษณานี้ก็ต้องอมยิ้ม แล้วพูดพร้อมกันว่า “เออ มันใช่” ตอบโจทย์โดนใจไปเต็มๆ กับคนรุ่นใหม่ที่ละเลยสุขภาพทางการเงิน
มาที่โฆษณาชิ้นแรกกับ “เต็นท์” ที่หยิบยกเรื่องราวของ คู่รักหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่แฟนสาวอยากจะซื้อเต็นท์ เลยโทรปรึกษากับแฟนหนุ่ม แต่ภาพเต็นท์ในหัวของทั้งสองคนต่างกันลิบลับ
ฝ่ายชายจึงเกลี้ยกล่อมแฟนสาวให้ตั้งสติ แต่เธอก็ตื้อไม่หยุด จนแฟนหนุ่มต้องบอกให้ฝ่ายหญิงเปิดแอป
กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์มาดู ทำให้เห็นว่าในแอปขึ้นเตือนว่า
“ใช้จ่ายใกล้เต็มวงเงินแล้วนะ” สติมาปัญญาเกิดทันที เลยต้องทำเนียนแกล้งงอนแฟนหนุ่มสักหน่อย และวางสายไป
ชิ้นที่สองเป็นเรื่องราวของความสนิทสนมระหว่างคนสองเจเนอเรชันอย่าง อาโบ๊ท หลานชายคนโต และ อาม่า ความน่ารักอยู่ที่ไดอะล็อกระหว่างคนสองเจน ที่วันดีคืนดีอาโบ๊ทโทรมาหาอาม่าว่า “โบ๊ทจะซื้อกล้องฟิล์ม” อาม่างงทำไมต้องซื้อกล้อง โทรศัพท์ก็ถ่ายรูปได้ หลังจากโบ๊ทบรรยายสรรพคุณทุกอย่างเสร็จสรรพ เพื่อบอกว่า “ของมันต้องมี” พร้อมบอกราคากล้อง อาม่าตกใจจนลมจะจับ และคิดได้ว่าหลานชายตัวแสบเริ่มควบคุมการใช้เงินไม่ได้แล้ว จึงหลอกให้อาโบ๊ทสอนวิธีใช้แอปกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์สักหน่อย และเมื่ออาโบ๊ทเปิดแอปขึ้นมา ก็เจอการแจ้งเตือนว่า…
“ยอดใช้จ่ายเดือนนี้สูงแล้ว ระวังด้วยนะ”
อาม่า: เปิดละนะ…ลื้อเห็นอะไร?
โบ๊ท: เห็นว่าอดซื้ออะดิ
อาม่า: เออ ฉลาดเหมือนอั๊ว
โบ๊ทคิดได้ทันที ยอดเงินไม่พอก็อดไป…
งานนี้ต้องขอบคุณ “กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์” ที่มาช่วยดึงสติให้ทั้ง แฟนสาว และ อาโบ๊ท ไม่ใช้เงินจนเกินตัว สะท้อนให้เห็นว่า… ไม่ว่าจะแฟนหนุ่มและแฟนสาว หรือ อาม่าและโบ๊ท ก็อาจมองสิ่งเดียวกันเป็นคนละแบบได้ คนหนึ่งมองสั้นๆคิดว่าต้องมี อีกคนมองยาวๆ เห็นว่าไม่จำเป็น
รู้ว่าอยากได้มาก… แต่อยากให้มีเครดิตดีมากกว่า และกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์นี่แหละที่จะมาเป็นตัวช่วยดูแลเครดิตทางการเงินให้ทุกคนเอง เพราะกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ เชื่อว่า “ถ้าคุณมีเครดิตดีทางการเงินที่ดี คุณก็จะพร้อมคว้าสิ่งดีๆ ที่รอคุณอยู่อีกมากมายในอนาคตได้” มองกันไปยาวๆ กับอนาคตข้างหน้า ถ้าไม่มีอาม่าหรือไม่มีแฟนให้ปรึกษาเรื่องการเงิน บอกกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ได้ เพราะกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์คือ จุดเริ่มต้น คนมีเครดิต