HomeCOVID-19วัคซีนมีชีวิต พาไปส่องซุปเปอร์แอป “อสม. ออนไลน์” AIS หนุน นักรบเสื้อเทา ปิดประตูโควิด-19 ระบาดรอบสอง

วัคซีนมีชีวิต พาไปส่องซุปเปอร์แอป “อสม. ออนไลน์” AIS หนุน นักรบเสื้อเทา ปิดประตูโควิด-19 ระบาดรอบสอง

แชร์ :

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้ เริ่มส่งสัญญาณในทางบวกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำสิบมาตลอด และบางวันตัวเลขผู้ป่วยใหม่เป็น “ศูนย์” ราย แต่อย่างไรก็ตาม การไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ก็ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยจะ ปลอดภัย และ ประสบความสำเร็จ ในการรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างถาวร

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ส่วนหนึ่งเพราะปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนรักษาโรค จึงทำให้พรุ่งนี้เราอาจพบผู้ติดเชื้อใหม่ได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับสถานการณ์ในหลายประเทศ อย่างจีน หรือเกาหลีใต้ ที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อรอบใหม่ และโดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะ 2 ซึ่งหากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อาจจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นระลอก 2 ได้ ด้วยเหตุนี้ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส จึงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชั่น อสม.ออนไลน์ ให้รองรับการคัดกรองโรคโควิด-19 เพื่อให้นักรบเสื้อเทาได้ใช้เป็นเครื่องมือติดตามผู้ป่วยที่เป็นโรคโควิด-19 ได้แบบเรียลไทม์และสามารถนำผู้ติดเชื้อมารักษาได้อย่างทันท่วงที

เทคโนโลยีดิจิทัล เครื่องมือเสริมทัพ อสม. ยุคดิจิทัล

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เราคงคุ้นเคยกับนักรบชุดขาว หรือบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ที่เป็นด่านหน้าในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 กันอย่างหนักหน่วง ส่วน “นักรบเสื้อเทา” หลายคนอาจไม่คุ้นหูมากนัก โดยเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ที่เข้ามาช่วยดูแลสุขภาพคนในชุมชน อสม.จึงเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะในยามที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤติโรคระบาด เพราะ อสม. จะเป็นเสมือนนักรบภาคสนามที่ช่วยค้นหาและคัดกรองมีความเสี่ยงไปจนถึงผู้ติดเชื้อในชุมชนเพื่อส่งต่อให้ด่านหน้าได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีต่อไป

โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เอไอเอส ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัล ได้เล็งเห็นความสำคัญของ อสม. จึงริเริ่มแนวคิด Digital For Thais ในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมขีดความสามารถในการทำงานของ อสม.ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในปี 2558 จึงพัฒนาแอปพลิเคชัน “อสม.ออนไลน์” เพื่อให้ อสม.ได้นำไปใช้ในการดูแลสุขภาพของคนในชุมชนแบบเชิงรุก ซึ่งจะช่วยทำให้ อสม.สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้สะดวก รวดเร็ว และทันท่วงที

โดยเฉพาะหากเกิดเหตุด่วนเหตุร้ายหรือโรคระบาดขึ้น จะช่วยให้สามารถจัดการและป้องกันสถานการณ์ได้ทัน เพราะ อสม.ออนไลน์ จะมีฟังก์ชันการรายงานข้อมูลผ่านแอปฯ ได้ทันที โดยไม่ต้องกรอกใบรายงานใส่กระดาษเหมือนในอดีตอีกต่อไป จึงสามารถส่งรายงานสุขภาพของคนในชุมชนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต. สามารถเห็นภาพรวมสุขภาพ รวมถึงการกระจายของโรคได้อย่างละเอียด ส่งผลให้สามารถนำไปใช้ในการวางแผนป้องกันได้อย่างทันท่วงที

ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ “คัดกรองและติดตามโรคโควิด-19”

จากความสำเร็จดังกล่าว ในปีนี้ เอไอเอสจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ อสม.ออนไลน์ ขึ้นไปอีกขั้น เพิ่อเสริมขีดความสามารถของอสม.นักรบเสื้อเทาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากขึ้น

“แม้ตอนนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรควิด-19 จะเริ่มดีขึ้น จากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หลังภาครัฐมีมาตรการคลายล็อกดาวน์ผ่อนปรนให้หลายธุรกิจกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ แต่ขณะเดียวกันอาจเป็นการเพิ่มโอกาสความเสี่ยงที่จะเพิ่มปริมาณผู้ติดเชื้อระลอก 2 ได้ การเฝ้าระวัง ตรวจสอบอย่างใกล้ชิด จึงเป็นโจทย์สำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น”

คุณสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าว และเป็นที่มาของการผนึก กระทรวงสาธารณสุข ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมการทำงานของกลุ่มนักรบเสื้อเทา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 1 ล้าน 5 หมื่นราย ให้สามารถเฝ้าระวังและสกัดไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดรอบที่ 2 อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่บนแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ ให้รองรับการ “คัดกรองและติดตามโรคโควิด-19” เพื่อให้ อสม.ใช้เป็นเครื่องมือเฝ้าระวังความเสี่ยง คัดกรอง และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชน ด้วยรูปแบบรายงานดิจิทัล ที่จะช่วยให้ อสม.บันทึกข้อมูลได้ง่าย สะดวก รวดเร็วในการติดตามผล และเรียลไทม์ทางมือถือ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต. สาธารณสุขอำเภอ และสาธารณสุขจังหวัด สามารถติดตามข้อมูลรายละเอียดการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ, สมาชิกในบ้านที่อาจมีความเสี่ยง รวมถึงการติดตามกลุ่มเฝ้าระวัง 14 วัน ในแต่ละครัวเรือนที่ได้อย่างเป็นระบบและทันต่อเหตุการณ์

นอกจากนี้ ยังมอบ “ซิมฮีโร่” ให้แก่สมาชิก อสม. ทั่วประเทศในการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนแอปฯ อสม. ออนไลน์ ได้ฟรี โดยไม่จำกัดความเร็วที่ความเร็ว 1 Mbps  และเล่นเน็ตไม่รั่วที่ความเร็ว 128 kbps โทรทุกเครือข่ายวินาทีละ 2 สตางค์ ตลอด 24 ชั่วโมง 1 ปี พร้อมกับมอบประกันภัยให้นักรบเสื้อเทา ที่มีอายุระหว่าง 16 – 85 ปี ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการปฏิบัติงาน โดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ซึ่งจะคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี 50,000 บาท และรับความคุ้มครองชดเชยรายวัน 400 บาท/วัน สูงสุดไม่เกิน 15 วัน เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยในจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

“นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนมีนาคม เราได้ติดตั้งเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาลที่รับตรวจโควิด-19 กว่า 161 โรงพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมกับตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Labs และพัฒนาหุ่นยนต์ผู้ช่วยแพทย์ทำหน้าที่ ให้กับโรงพยาบาล 22 แห่ง ซึ่งสามารถช่วยแบ่งเบาภารกิจของทีมแพทย์ พยาบาลได้อย่างดี ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ได้แย่ลง เราคิดว่าฟีเจอร์ที่มีอยู่เพียงพอสำหรับการทำงานแล้ว แต่หากสถานการณ์กลับมาแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น มีแผนจะนำ AI เข้ามาช่วยสนับสนุนทีมแพทย์ในการตรวจรักษาผู้ป่วย จึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็นที่เกิดขึ้นในขณะนั้น”

คุณสมชัย บอกถึงแผนอนาคตกับการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชั่นเข้าไปเสริมทัพป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมกับย้ำด้วยว่า “เป้าหมายของ อสม.ออนไลน์ ครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งเป้าในเชิงการขาย แต่ตั้งเป้าหมายด้านการใช้งานของอสม.เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันแอปพลิเคชัน อสม.ออนไลน์ มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 410,000 ราย โดยมียอดการใช้งานประจำประมาณ 340,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีแรกที่มีผู้ใช้งานเพียง 200 รายเท่านั้น”

จึงนับเป็นการนำต่อยอดนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยีดิจิทัลโซลูชั่นที่มีอยู่มาพัฒนาเป็นฟีเจอร์ดีๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่นักรบเสื้อเทาได้อย่างสะดวกรวดเร็วสอดรับกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าหากเราสามารถตรวจสอบและเข้าถึงผู้ป่วยที่เป็นโควิด-19 ได้เร็วมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้เราป้องกันและผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

 


แชร์ :

You may also like