ไม่ใช่แค่ในโลกจริง แต่โลกเสมือนจริงอย่าง “Animal Crossing : New Horizons” เกมสุดฮิตของ Nintendo ในช่วงกักตัว ก็มีการหั่นอัตราดอกเบี้ย โดยลดลงจาก 0.5% เหลือ 0.05% กันแล้ว
สำหรับผู้ประกาศการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ใช่ใคร หากเป็น Bank of Nook ที่ส่งจดหมายถึงผู้เล่นในเกมไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในเกมครั้งนี้ทำให้เกิดดราม่าตามมา เนื่องจากผู้เล่นบางส่วนรู้สึกว่ารายได้จากดอกเบี้ยที่ตนเองเคยมีนั้นหายไป ขณะที่ผู้เล่นอีกส่วนหนึ่งมองว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เกมสามารถทำได้ อีกทั้งยังทำให้ผู้เล่นเห็นภาพความเป็นไปของเศรษฐกิจโลก และการตัดสินใจของบรรดานักการเงินได้ดียิ่งขึ้นด้วย
นอกจากนั้น มีการมองว่า นโยบายดังกล่าวยังเป็นการแก้เกมผู้เล่นบางส่วนที่มักฝากเงินเข้ามาในบัญชีของเกมเยอะ ๆ แล้วทำการปรับแก้เวลาในตัวเครื่อง (Time Travelling) ไปยังอนาคต ซึ่งจะทำให้ธนาคารอย่าง Bank of Nook ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นจำนวนมาก และสามารถทำให้ผู้เล่นรายนั้น ๆ กลายเป็นเศรษฐีได้เลย โดยคนที่เห็นใจ Bank of Nook มองว่า การหั่นอัตราดอกเบี้ยของ Animal Crossing คือความพยายามที่จะลดพฤติกรรมดังกล่าวของผู้เล่นนั่นเอง
แม้ทาง Nintendo จะไม่มีการประกาศตัวเลขยอดขายเกม Animal Crossing ออกมา แต่สื่อต่างประเทศหลายสำนักก็ยกให้เกมดังกล่าวเป็นหนึ่งในเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้านในเวลาที่ประเทศมีนโยบายล็อกดาวน์ เหตุเพราะตัวเกมมาพร้อมบรรยากาศสบาย ๆ ไม่มีกฎ หรือเงื่อนไขอะไรมากดดัน จึงสามารถเล่นเพื่อลดความเครียดได้เป็นอย่างดี (แถมในเกมไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยด้วย)
ความฮอตฮิตในเกมดังกล่าวส่งผลอย่างมากต่อราคาเครื่องเล่น Nintendo Switch โดยปัจจุบัน ราคาขายของเครื่องเล่นดังกล่าวตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกา (Amazon, Best Buy, Target หรือ Walmart) ได้พุ่งขึ้นไปมากอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง (500 เหรียญสหรัฐบน Amazon จากราคาขายของ Nintendo ที่ตั้งไว้ราว 300 เหรียญสหรัฐ ส่วนในบ้านเรา ตามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ มีราคาขายอยู่ที่ 22,000 กว่าบาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อปลายปีที่แล้วที่ราคาอยู่ราว ๆ 9,000 – 10,000 บาทเท่านั้น)
ขณะที่บริษัทวิจัยตลาดในอังกฤษอย่าง GfK ออกมาเปิดตัวเลขว่า Nintendo Switch รุ่น Animal Crossing Limited Edition สามารถขายได้หมดภายใน 10 ชั่วโมงหลังจากเปิดตัวด้วย
โดยในปี 2020 นี้ Nintendo ตั้งเป้าจะผลิตเครื่องเล่น Nintendo Switch เอาไว้ 22 ล้านเครื่อง แต่ว่าจะทำให้เครื่องจะกลับมาเต็มชั้นวางสินค้าได้เมื่อไรนั้น ยังเป็นสิ่งที่หลายคนต้องลุ้นกันต่อไป