HomeBrand Move !!นักท่องเที่ยวจีนมาแน่ ต.ค.นี้ ไทยจุดหมายอันดับแรก วิถีใหม่หลังโควิดจ่ายหนัก “พักหรู-อยู่นาน”

นักท่องเที่ยวจีนมาแน่ ต.ค.นี้ ไทยจุดหมายอันดับแรก วิถีใหม่หลังโควิดจ่ายหนัก “พักหรู-อยู่นาน”

แชร์ :

ลูกค้าชาวจีนถือเป็นกำลังซื้อสำคัญของหลายอุตสาหกรรม แต่วิกฤติ Covid-19 ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลก จีนเป็นประเทศแรกที่ต้องเผชิญการแพร่ระบาดตั้งแต่เดือนมกราคม จนต้องประกาศ Lockdown หลังปิดเมือง 2 เดือน ได้ประกาศเข้าสู่ยุค Post Covid-19  ธุรกิจกลับมาดำเนินการกว่า 90% ผลสำรวจล่าสุด “นักท่องเที่ยวจีน” พร้อมแล้วสำหรับออกเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

V-Click Technology บริษัทในเครือ VGI ซึ่งร่วมทุนกับ i-Click ผู้นำแพลตฟอร์มการตลาดออนไลน์และเทคโนโลยีฐานข้อมูลในประเทศจีน ครอบคลุม 98% ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศจีน ได้จัดทำบทวิเคราะห์ China Post-Covid Rethink : จับตาทิศทางนักท่องเที่ยววิถีใหม่…ทำอย่างไรเพื่อมัดใจลูกค้าชาวจีน? เพื่อเตรียมพร้อมการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งที่อยู่ในประเทศจีนและเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

นักท่องเที่ยวจีนพร้อมเดินทางตุลาคมนี้

สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีน ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่แทบไม่เพิ่มขึ้นแล้ว จีนถือเป็นประเทศต้นแบบที่เผชิญวิกฤติโควิด-19 ก่อน และเป็นประเทศที่แก้ปัญหาได้เป็นประเทศแรกของโลก ก้าวสู่ยุคหลังโควิด-19 หรือ Post Covid-19 แล้ว หลังจากต้องต่อสู้การแพร่ระบาดนาน 2 เดือน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563

ด้วยมาตรการควบคุมที่เข้มข้นของรัฐบาลจีน ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2563 ภาคธุรกิจต่างๆ ในจีนกลับมาเปิดดำเนินธุรกิจแล้วทั่วประเทศกว่า 90% ทั่วประเทศ เช่น อุตสาหกรรมโรงแรมเปิด 90% เพื่อรองรับบริการท่องเที่ยวในประเทศ ธุรกิจค้าปลีกเปิด 99%

ปัจจุบันประเทศจีนถือว่าฟื้นตัวแล้วและกำลังกลับสู่ภาวะปกติ  จากข้อมูลของ Fliggy และ Ctrip  ออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์  สำรวจความพร้อมการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งของชาวจีน พบว่า 55% ของนักท่องเที่ยวที่เคยยกเลิกทริปพร้อมจะกลับมาท่องเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง และสัดส่วน 73% บอกว่าทริปท่องเที่ยวแรกหลังโควิด จะเกิดขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงวันชาติจีน (Golden Week)

ประเทศไทยจุดหมายอันดับหนึ่ง

นักท่องเที่ยวจีนบอกว่าแหล่งท่องเที่ยว 3 อันดับแรกที่จะเดินทางท่องเที่ยว คือ 1.ประเทศไทย 2.ญี่ปุ่น 3.สิงคโปร์ การที่ชาวจีนเลือกมาท่องเที่ยวในไทย เพราะดูจากความพร้อมมาตรการควบคุมดูแลการติดเชื้อโควิด-19 ที่ทำได้ดี เห็นได้จากสถิติผู้ติดเชื้อใหม่มีจำนวนไม่มาก เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการรักษาก็มีจำนวนต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

ในเดือนตุลาคมนี้ นักท่องเที่ยวน่าจะกลับมาไทยราว 55% จากช่วงปกติ 2 ปีก่อนที่เข้ามาจำนวน 1 ล้านคนในช่วงโกลเด้นวีค กลุ่มแรกที่จะเข้ามาก่อนคือนักท่องเที่ยวอิสระ หรือ FIT (Free Independent Traveler) เป็นกลุ่มที่ยังไม่มีครอบครัว หรือ ครอบครัวไม่มีลูก แม้ช่วงแรกจำนวนจะเข้ามาน้อย แต่จับจ่ายสูงโดยเฉพาะหลังโควิดเพราะทุกคนอัดอั้นมานานและต้องการใช้จ่ายเงินท่องเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย

สะท้อนได้จาการการท่องเที่ยวในจีนที่เริ่มกลับมาแล้ว เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูง พักโรงแรมหรู 5 ดาว รับประทานอาหารราคาแพง ช้อปปิ้งหนัก

นักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหลังโควิด เข้าใจและยอมรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ที่ต้องมีมาตรการดูแลการแพร่ระบาดและการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในประเทศไทย ทำให้การท่องเที่ยวและใช้เวลาแต่ละสถานที่ต้องมีเวลามากขึ้น ดังนั้นการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะใช้เวลาต่อทริปนานขึ้น และใช้จ่ายต่อทริปมากขึ้น

เดิมนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 55,000 บาทต่อคนต่อทริป ท่องเที่ยวอยู่ในไทยประมาณ 6-7 วัน  จากการสำรวจกลุ่มนี้ 41% จะอัพเกรดโรงแรมเป็น 5 ดาว และใช้จ่ายเพิ่มต่อทริปเพิ่มเป็น 60,000-70,000 บาท  ระยะเวลาขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐในการกำหนดมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ แต่จะอยู่นานขึ้นกว่าเดิม

แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย 3 อันดับแรกที่นักท่องเที่ยวจีนอยากไปหลังโควิด จากผลวิจัยกับกลุ่มของ C9 Hotelworks ชาวจีนในเมือง Tier-1 อายุของคนที่ตอบแบบสอบถามระหว่าง 20-60 ปี  บอกว่าอันดับ 1. กรุงเทพมหานคร 38% 2. ภูเก็ต 36%  3. เชียงใหม่ 35%

ในเดือนตุลาคมนี้ นักท่องเที่ยวจีนที่จะมาไทยเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม เมื่อมาท่องเที่ยวจะแชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย จะช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวมาไทยช่วงปีหน้า จากนั้นจะเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางผ่านเอเยนต์ทัวร์

วางกลยุทธ์สื่อสารจับนักท่องเที่ยวจีน

จากการสำรวจพบว่าช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเดินทางอีกครั้งมี 2 ช่วง คือ กลุ่มแรกในเดือนตุลาคม 2563 และช่วงปลายปีเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ปี 2564 ดังนั้นสินค้าและบริการต่างๆ ที่ต้องการเจาะกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีนต้องเตรียมความพร้อมสื่อสารตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนท่องเที่ยว

สำหรับกลุ่มแรกที่จะมาในเดือนตุลาคม 2563 ต้องวางแผนสื่อสารพูดคุยตั้งแต่เดือนสิงหาคม  ส่วนนักท่องเที่ยวผ่านเอเยนต์ทัวร์กลุ่มใหญ่ จะกลับมาช่วงปีใหม่ ก็ต้องเริ่มสื่อสารตั้งแต่เดือนธันวาคม

พฤติกรรมการเตรียมตัวท่องเที่ยวของชาวจีนจะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือ  Pre Travel  คือช่วงที่ยังอยู่ประเทศจีน เดิมพฤติกรรมจะเริ่มจากหาข้อมูล ดูทริปท่องเที่ยวจาก Influencer หรือ Key Opinion Leader (KOL) เริ่มอยากเที่ยว กิน ช้อป พักโรงแรมเหมือนกัน KOL ช่วงนี้จึงสามารถสร้างดีมานด์ให้อยากท่องเที่ยวได้  จากนั้นเริ่มวางแผน ค้นหาข้อมูลโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร  แหล่งช้อปปิ้ง สินค้าที่จะซื้อ เริ่มจองบริการ โดยจะหา “ส่วนลด” จากสถานที่ต่างๆ ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว

เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยเป็นช่วง  In Travel  เป็นการมาท่องเที่ยวหาประสบการณ์  พักโรงแรม ท่องเที่ยว กิน ช้อป และแชร์ภาพจากทริปท่องเที่ยวผ่านสื่อสังคมออนไลน์

สำหรับ “เครื่องมือ” ที่จะใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนหลังโควิด-19 ในแต่ละช่วงของการวางแผนทริปท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วง Pre Travel  เริ่มที่การวางแผนทริป ใช้ Baidu ทำ Search Engine Marketing หรือ SEM  ซึ่งจะทำงานเหมือน Google เพราะคนที่มาเสิร์ชหาข้อมูลมีความตั้งใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวอยู่แล้ว  แบรนด์ต้องสื่อสารผ่าน SEM

จากนั้นสร้างความมั่นใจการท่องเที่ยววิถีใหม่ ที่จะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยจากการติดเชื้อ โดยให้ KOL เล่าเรื่องราวด้วย  Tik Tok  (คนจีนเรียก Douyin) หรือ Red (เหมือนอินสตาแกรม) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักท่องเที่ยวจีน ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในการท่องเที่ยวหลังโควิด-19  ในจังหวะที่นักท่องเที่ยวเตรียมจอง (Book) บริการต่างๆ ให้สื่อสารผ่าน Moments ของ WeChat ทำโฆษณาสื่อโซเชียล และเสนอโปรโมชั่นต่างๆ

ช่วง In Travel  ที่อยู่ในประเทศไทยแล้ว สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวและแชร์ผ่านเครื่องมือ WeChat และ  Moments

เมื่อชาวจีนต้องเดินทางออกมาท่องเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งหลังโควิด ด้วยวิถีชีวิตใหม่ สัดส่วน 80-90% ต้องการเห็นแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ออกมาสื่อสารมาตรการดูแลความปลอดภัยและดูแลควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เพื่อดูว่าแบรนด์ไม่ได้นิ่งเฉยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจต่อแบรนด์มากขึ้น

วันนี้ตลาดจีนยังเป็นกลุ่มกำลังซื้อสำคัญที่จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด ทุกแบรนด์ต้องเตรียมพร้อมชิงโอกาสนี้ ในวันที่นักท่องเที่ยวจีนเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง


แชร์ :

You may also like