การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมถือเป็นเป้าหมายสำคัญของประเทศไทยในขณะนี้ เพื่อก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และเพิ่มขีดสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ในฐานะองค์กรหลักในการเสริมสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติเพื่อเพิ่มคุณค่าที่ยั่งยืน และแม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่คุกคามไปทั่วโลก แต่ NIA ยังเชื่อมั่นในพลังแห่งความสร้างสรรค์ของคนไทย จึงเดินหน้าเชิญชวนให้คนไทยส่งผลงานเข้าประกวด “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2563” รางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดแห่งวงการนวัตกรรมไทย
จากพันธกิจของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ที่มุ่งส่งเสริมการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ สร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม และยกระดับทักษะและความสามารถทางนวัตกรรมของกลุ่มเป้าหมาย NIA จึงได้จัดการประกวด “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ” มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปีนี้เป็นปีที่ 16 เพื่อเป็นเวทีเชิดชูเกียรติคนไทยที่สร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นและก่อประโยชน์ต่อประเทศในหลากหลายมิติ
นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างให้เกิดความภาคภูมิใจในศักยภาพของคนไทยและเผยแพร่ต้นแบบการพัฒนานวัตกรรมด้านต่างๆ สู่สาธารณชนในวงกว้าง รวมถึงกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวด้านนวัตกรรมในทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นชาติแห่งนวัตกรรมอย่างแท้จริง
ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่น เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติถือเป็นรางวัลนวัตกรรมอันทรงเกียรติสูงสุดของวงการนวัตกรรมไทย ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติแก่คนไทยที่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีความโดดเด่นและก่อประโยชน์ต่อประเทศได้อย่างชัดเจน
“นวัตกรรมไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเท่านั้น เพราะถ้านำมาใช้ไม่ได้ก็เป็นแค่เทคโนโลยีที่อยู่บนหิ้ง แต่ต้องมี Business Model ที่เอาชนะใจคนที่ไม่เคยใช้ ชื่นชอบ และหันมาใช้ให้ได้ เพราะนี่คือหัวใจของนวัตกรรม ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์และทรัพย์สินทางปัญญาเท่านั้น”
โดยเมื่อปีที่ 2562 มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมเป็น “ONE BRANDING” ซึ่งแบ่งเป็น 5 ด้าน ครอบคลุมในทุกมิติ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ทุกขนาดองค์กร โดยองค์กรแต่ละขนาดจะแข่งกันเองพื่อไม่ให้เกิดแต้มต่อหรือเสียเปรียบกันระหว่างองค์กรขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่มีกำลังและทรัพยากรไม่เท่ากัน
โดยอาศัยช่องทางเว็บไซต์ www.award.nia.or.th เป็น ‘ONE GATEWAY’ สำหรับเผยแพร่ข้อมูลและการประชาสัมพันธ์ การรับสมัคร การประกาศผล และดูผลงานชนะเลิศปีที่ผ่านมาแบบ One Stop Service เพื่อสร้างให้เกิด ‘One STANDARD’ ของมาตราฐานการตัดสินรางวัลผ่านการพิจารณาการตัดสินจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการตัดสินรางวัลนวัตกรรมเพียงชุดเดียวเพื่อตัดสินรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติทั้ง 5 ด้าน โดยคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีผลงานที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่ปรึกษา เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา, รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ประธานอนุกรรมการ ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ, ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, หม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่ นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป, คุณจิราพร ศรีสอ้าน รองกรรมการจัดการผู้อาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น
ท้ายสุด ‘One System’ ผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับการดูแลติดตามผลและรับคำปรึกษาจาก NIA และหลังกระบวนตัดสินสิ้นสุดลง จะจัดให้พิธีมอบรางวัลในวันที่ 5 ตุลาคม ซึ่งตรงกับ “วันนวัตกรรมแห่งชาติ” และมีการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็น “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย”
ส่งเสริมนวัตกรรมทุกด้าน ครอบคลุมความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติ
ด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA ให้รายละเอียดเกี่ยวกับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติในปีนี้ ที่มีการจัดแบ่งใหม่เป็น 5 ด้าน ได้แก่
1. รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านเศรษฐกิจ เป็นผลงานนวัตกรรมที่สร้างให้เกิดคุณค่าเชิงพาณิชย์ และเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ องค์กรขนาดใหญ่ (คัดเลือกโดยวิธี Social Listening เพื่อยกย่องเชิดชูให้เป็นแบบอย่างในการดำเนินธุรกิจ) วิสาหกิจขนาดกลาง และวิสาหกิจขนาดย่อมและวิสาหกิจรายย่อย
2. รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นผลงานนวัตกรรมที่สร้างให้เกิดคุณค่าต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม แบ่งประเภทตามลักษณะขององค์กร หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และองค์กรเพื่อสังคมและชุมชน
3. รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นผลงานนวัตกรรมที่นำการออกแบบมาสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์และบริการ แบ่งประเภทตามลักษณะผลงานการออกแบบผลิตภัณฑ์ และการออกแบบบริการ
4. รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านสื่อและการสื่อสาร เป็นผลงานนวัตกรรมและบุคคลที่มีความสร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์เนื้อหาและการสื่อสารรูปแบบใหม่ แบ่งประเภทตามลักษณะผลงานผลงานนวัตกรรมสื่อและการสื่อสาร และผู้สื่อสารนวัตกรรม โดยเปิดโอกาสให้ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา
5. รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น เป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการนวัตกรรมในองค์กรอย่างโดดเด่น ตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ ระดับกระบวนการ ไปจนถึงระดับโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร โดยแบ่งประเภทตามขนาดขององค์กร ได้แก่ องค์กรขนาดใหญ่ องค์กรขนาดกลาง และองค์กรขนาดเล็ก รางวัลนี้ไม่เปิดรับสมัครแต่จะใช้ Social Listening เป็นเครื่องมือในการวัดผล
ดร.กริชผกา มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่จะส่งผลงานเข้าประกวดว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องนำเสนอตัวตนให้ได้ ว่าสิ่งที่ทำใหม่อย่างไร มีนวัตกรรมและส่งผลดีต่อประเทศชาติอย่างไร และสมควรจะได้รับรางวัลอย่างไร ขณะเดียวกันสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดคือ การพลิกธุรกิจและเปลี่ยนมุมมองเพื่อเดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะ NIA และคณะอนุกรรมการฯ ให้รางวัลกับทุกคนไม่ได้ แต่สามารถให้แง่มุม ความคิด และโอกาสที่สามารถกลับมาส่งผลงานเพื่อประกวดรางวัลนี้ได้อีกครั้ง”
โอกาสที่ได้จากรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ
นำไปสู่การต่อยอดทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
โดยรางวัลที่ผู้ชนะได้รับในปีนี้ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภท จะได้รับพระบรมรูปพระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย เงินรางวัล 100,000 บาท รางวัลที่ 2 ในแต่ละประเภท จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติ เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลที่ 3 ในแต่ละประเภท จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติ เงินรางวัล 25,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ชนะยังได้รับสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีก จากทาง NIA ด้วย เช่น ได้รับสิทธิในการพัฒนาศักยภาพทางนวัตกรรมจากการเข้ารับการอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ จาก NIA Academy และศึกษาดูงานนวัตกรรมองค์กรชั้นนำด้านนวัตกรรมในต่างประเทศ ได้รับโอกาสในการพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมโดยการสนับสนุนด้านเงินทุนจากทางสำนักงาน และได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิดชูเกียรติผ่านสื่อมวลชน ช่วยสร้าง Brand Awareness หรือ Product Awareness ขณะเดียวกันยังได้รับการการันตีด้วยตราสัญลักษณ์ของ NIA ในบรรจุภัณฑ์ ทำให้เกิด Sale Talk ที่ดี สร้างความโดดเด่น ความน่าเชื่อ และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
แม้ในวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้หลายธุรกิจต้องบาดเจ็บสาหัส แต่สำหรับ My Platform และ Local Alike องค์กรที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2562 กลับสามารถยืนหยัดและฝ่าวิกฤตได้ จากการปรับตัวบนพื้นฐานของ Business Model ที่แข็งแกร่ง และโดดเด่น
คุณศุภชัย จันทร์ใส My Platform รางวัลชนะเลิศ ด้านการออกแบบประเภทการออกแบบบริการ ปี 2562 โดยเป็นแพลตฟอร์มบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เชื่อมนิติบุคคลกับลูกบ้านเข้าด้วยกัน ให้ติดต่อสื่อสารกันง่ายขึ้น และในยุคนี้ยิ่งสอดรับกับมาตรการ Social Distancing เพราะไม่ต้องพบปะกัน ทำให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับความนิยมจากโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ มากขึ้น
สำหรับโอกาสและการต่อยอดสำคัญจากการได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ คุณศภชัยบอกว่าคือการได้สิทธิ์ติดตราสัญลักษณ์ของ NIA ในสินค้าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ขององค์รกร
ในฐานะรุ่นพี่ คุณศุภชัยให้เหตุผลถึงการตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวดรางวัลนี้ว่า แม้ไม่ได้รางวัลก็ไม่เป็นไร แต่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ประชาสัมพันธ์และบอกกล่าวผลงานให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
ขณะที่ คุณสมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้ง Local Alike รางวัลชนะเลิศ ด้านสังคมประเภทหน่วยงานภาคเอกชน ปี 2562 โดยเป็นแพลตฟอร์มกิจกรรมเพื่อสังคม นำแนวคิดแบบใหม่มาพัฒนาชุมชนเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานในกว่า 100 หมู่บ้านทั่วประเทศ และในวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างหนักหน่วงนี้ ทำให้เขาสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจใหม่ขึ้นมาที่สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค และช่วยทำให้ชุมชนเดินหน้าต่อไปได้ คือ Local Aroi ซื้อวัตถุดิบชุมชนมาทำเป็นอาหารเดลิเวอรี่ Local Alot ขายสินค้าชุมชน เช่น ผลไม้ และหน้ากากที่ตัดเย็บโดยคนในชุมชน
สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ คุณสมศักดิ์บอกว่าเนื่องจากเห็นว่าเป็นรางวัลที่จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำ ถ้าได้ก็ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็จะได้คำแนะนำของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต่าง ๆ ไปปรับปรุงธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่สนใจส่งผลงานนวัตกรรมเข้าร่วมการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2563 เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563โดยรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครผ่านทางออนไลน์ที่ www.award.nia.or.th หรือติดต่อคุณพัชรีนาถ 080-070-2999