เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับ Nintendo ที่แม้จะได้ครอบครองเกมสุดฮิตอย่าง Animal Crossing : New Horizons ที่ดังจนหยุดไม่อยู่ และเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch ที่ได้รับความนิยมจนสินค้าขาดตลาดในหลายประเทศทั่วโลก แต่กลับคาดการณ์ว่า ในปีการเงิน 2021 นี้บริษัทอาจไม่สามารถทำกำไรให้ได้มากเท่ากับปีที่แล้ว
โดยทางบริษัทได้มีการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ในปี 2021 ว่า กำไรจากการดำเนินงานอาจลดลง 15% เนื่องจากการระบาดของไวรัส Covid-19 กระทบต่อกำลังการผลิตเครื่องเล่นเกมจนไม่สามารถตอบรับความต้องการของตลาดได้ และทำให้บริษัทตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะสามารถจำหน่ายเครื่องเล่นเกมในปีนี้ได้ราว 19 ล้านเครื่องเท่านั้น
มีสองอาวุธลับ แต่อาจเติบโตลดลง
ตัวเลขคาดการณ์ 19 ล้านเครื่องนี้เองที่ทำให้ Nintendo ถูกนักวิเคราะห์นำไปเปรียบเทียบกับผลประกอบการในปีก่อนหน้า (ปิดงบการเงินไปเมื่อ 31 มีนาคม 2020) ที่บริษัทได้รับอานิสงส์จาก Animal Crossing : New Horizons และ Nintendo Switch จนสามารถทำยอดขายรวมของ Nintendo Switch ไปได้ถึง 21 ล้านเครื่อง
โดยยอดขายส่วนใหญ่เกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้าย (มกราคม – มีนาคม 2020) ที่มีการเปิดตัวเกม Animal Crossing : New Horizons ซึ่งพบว่า Nintendo สามารถทำยอดขายเครื่อง Switch ได้ถึง 13.4 ล้านเครื่อง
ด้านประธานของ Nintendo อย่าง Shuntaro Furukawa ได้ออกมาชี้แจงว่า ตัวเลขยอดขาย 19 ล้านเครื่องนั้น เป็นการประเมินโดยอิงจากข้อเท็จจริงที่ว่า ผลกระทบจากไวรัส Covid-19 น่าจะผ่านพ้นไปในช่วงซัมเมอร์ของปีนี้ แต่ถ้าหากการปิดเมือง หรือการแพร่ระบาดของไวรัสยังคงดำเนินต่อไป ก็อาจกระทบต่อผลประกอบการ Nintendo มากกว่านี้ได้เช่นกัน ซึ่งตัวเลขคาดการณ์นี้มีผลโดยตรงให้มูลค่าหุ้นของ Nintendo ลดลง 5.6% ด้วย
โดยที่ผ่านมา ความฮอตฮิตของเกม Animal Crossing : New Horizons ได้ทำให้ตัวเครื่อง Nintendo Switch ขาดตลาดในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกา ขณะที่ราคาขายเครื่องบนตลาดออนไลน์ก็พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัว เช่น ในประเทศไทย จากเดิมที่เคยขายราคาประมาณ 10,000 บาทก็พุ่งไปที่ 22,000 บาท หรือในสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทตั้งราคาไว้ราว 300 เหรียญสหรัฐก็พุ่งขึ้นไปถึง 500 เหรียญสหรัฐ
ไม่เพียงเท่านั้น ความฮอตฮิตของสองอาวุธลับดังกล่าวยังทำให้มูลค่าหุ้นของ Nintendo พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ลงไปแตะจุดต่ำสุดในช่วงกลางเดือนมีนาคมด้วย โดยปัจจุบัน ราคาหุ้นของ Nintendo ทะลุ 47,000 เยนไปแล้ว จากที่เคยหล่นลงไปต่ำกว่า 36,000 เยนเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ความท้าทายของ Nintendo ที่มีสองอาวุธสำคัญหลังจากนี้จึงอาจเป็นเรื่องการบริหาร “วิกฤติในโอกาส” นี้อย่างไร เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้ต่อไปนั่นเอง