OPPO แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Netflix ซึ่งเป็นบริการความบันเทิงสตรีมมิ่งระดับโลก เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความเพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์และรายการทีวีบน OPPO Reno3 Pro ได้ โดยจากการร่วมมือกับ Netflix ใน OPPO Find Series รุ่นล่าสุด เป็นความพยายามจากทาง OPPO ในการนำประสบการณ์ภาพที่ทันสมัยมาสู่ผู้ใช้มากขึ้น และเพื่อมอบประสบการณ์เสียงและวิดีโอความบันเทิงที่ดีที่สุด (A/V) มาสู่ผู้ใช้ ซึ่ง OPPO ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบน A/V เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ OPPO Reno3 Pro โดยการรับรอง Netflix HD ด้วยการรับชมวิดีโอระดับ HD นั้น พร้อมใช้งานผ่านแอป Netflix ที่ติดตั้งให้แล้วบน OPPO Reno3 Pro ทำให้ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนก็สามารถรับชมวิดีโอ HD ได้ง่ายๆ
การร่วมมือจากสองผู้นำ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดมาไว้บนหน้าจอ
การร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของความบันเทิงและเทคโนโลยี ที่เราหวังว่าจะทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถเข้าถึงความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมได้
ในฐานะผู้ให้บริการสตรีมมิ่งความบันเทิงชั้นนำของโลกที่มีจำนวนสมาชิกกว่า 183 ล้านคน และกว่า 190 ประเทศ Netflix จะช่วยให้สมาชิกสามารถเข้าถึงละครทีวี สารคดี และภาพยนตร์สารคดี ที่หลากหลายทั้งประเภทและภาษา
สำหรับ OPPO นั้นต้องการส่งมอบความบันเทิงด้วยอุปกรณ์ที่เสมือนเป็น “Pocket Cinema” ที่ผู้ใช้สามารถพกไปได้ทุกที่ โดยนับตั้งแต่เปิดตัว OPPO Reno Series ไปเมื่อปี 2562 OPPO ก็ได้รับความรักและการสนับสนุนจากผู้ใช้รุ่นใหม่ทั่วโลก และได้สร้างชื่อเสียงในด้าน Creativity ทั้งเรื่องดีไซน์และเทคโนโลยี ซึ่งแสดงถึงการมอบนวัตกรรมที่หลากหลายให้แก่ผู้ใช้งาน ดังนั้น ในครั้งนี้ OPPO Reno3 Pro จึงพยายามที่จะนำความบันเทิงคุณภาพสูงมาสู่มือถือ เสมือนคุณกำลังรับชมทางโทรทัศน์ให้แก่ผู้ใช้ด้วย
ดื่มด่ำประสบการณ์การรับชมพร้อมเอฟเฟกต์ A/V อันโดดเด่น
OPPO Reno3 Pro จะสามารถรองรับวิดีโอ Netflix ได้ในระดับ HD (สำหรับผู้ใช้ที่ใช้แบบสแตนดาร์ด หรือ พรีเมี่ยม) ซึ่งแอพพลิเคชั่น Netflix จะได้รับการติดตั้งอยู่แล้วบนมือถือ ทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับวิดีโอสุดพิเศษได้เลย ทุกที่ ทุกเวลาบน OPPO Reno3 Pro ซึ่งการรับชมวิดีโอคุณภาพระดับ HD จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนรับชมผ่านโรงภาพยนตร์จากมือถือของคุณ นอกจากนี้ OPPO ยังมีการอัพเกรดในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์บน OPPO Reno3 Pro อีกด้วย
สำหรับด้านหน้าจอ OPPO Reno3 Pro ได้รับการอัพเกรดหน้าจอ Super AMOLED Screen ด้วยวัสดุ E3 luminescent ที่สามารถมอบค่าความสว่างที่สูงกว่า E1 และ E2 ได้ โดยไม่ว่าคุณจะอยู่ใต้แสงที่จ้าขนาดไหน คุณก็จะสามารถมองเห็นตัวหนังสือหรือภาพบนหน้าจอได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ Super AMOLED Screen ยังสามารถรองรับขอบเขตสี DCI-P3 ที่มีความยอดเยี่ยมในด้านสีของหน้าจอได้ และทำให้การใช้พลังงานของหน้าจอ E3 ลดลง เพื่อลดประสบการณ์ที่ไม่ดีที่เกิดจากหน้าจอ AMOLED ที่มีอายุมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้หน้าจอสามารถใช้งานได้นานขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีโหมดป้องกันแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายอย่างมากต่อดวงตา โดย OPPO Reno3 Pro ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland Full Care Display Certification ทำให้มั่นใจถึงการป้องกันสายตาของผู้ใช้ได้ในระดับโลก
ในด้านซอฟต์แวร์ OPPO Reno3 Pro มีซอฟต์แวร์ที่ชาญฉลาด เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับชมวิดีโอ Netflix ได้เป็นระยะเวลานาน ด้วยการปรับทั้งการใช้พลังงานและการควบคุมอุณหภูมิของ OPPO Reno3 Pro ให้สามารถรับชมวิดีโอได้นานถึง 14 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาประสบการณ์การรับชมที่ยอดเยี่ยม สำหรับด้านเอฟเฟกต์เสียง OPPO Reno3 Pro รองรับ Dolby Atmos® ซึ่งไม่เพียงแต่ปรับปรุง A/V ทั่วไปเท่านั้น แต่ยังให้เอฟเฟกต์เสียงสเตอริโอได้แบบเรียลไทม์ในวิดีโอที่รับรองระบบเสียง Dolby Atmos อีกด้วย ดังนั้น การพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งหมดนี้ จะทำให้ OPPO Reno3 Pro เป็นเสมือนโรงภาพยนตร์ที่มีความโดดเด่นพร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงและภาพได้ นอกจากนี้ OPPO Reno3 Pro ยังเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อเครือข่าย เพื่อให้สามารถดาวน์โหลดวิดีโอได้เร็วขึ้นและลดระยะเวลาการรอคอย
ฟีเจอร์ด้านความบันเทิงที่ตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น
จาก Insight ของวัยรุ่นในปัจจุบันและอุปนิสัยในด้านความบันเทิง ทำให้ OPPO ไม่ได้พัฒนาเพียงดีไซน์ที่เป็นนวัตกรรมและภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาความสามารถอื่นเพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วย เช่น การถ่ายภาพ การซูม การถ่ายวิดีโอได้แบบไม่สั่นไหว และ VOOC Flash Charge เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
และเพื่อเป็นการมอบประสบการ์ที่เหนือกว่า OPPO ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ที่หลากหลายใน OPPO Reno3 Pro จากความต้องการถ่ายวิดีโอในระยะเวลาสั้นที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ จึงเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่ OPPO Reno3 Pro ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับการถ่ายวิดีโอในระยะเวลาสั้นๆ ที่สุด ด้วยเทคโนโลยีที่ OPPO พัฒนาด้วยตนเองอย่าง OSIE Ultra Clear Visual Effect ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพของภาพวิดีโอ โดยเมื่อเปิดใช้งาน วิดีโอจะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในด้านความสว่างและความอิ่มตัวของสี ทำให้ภาพที่ได้มีสีสันสดใสกว่า โดยในปัจจุบัน OPPO Reno3 Pro จะมาพร้อมกับฟีเจอร์นี้ เพื่อมอบประสบการณ์วิดีโอสั้นที่มีคุณภาพสูงให้แก่ผู้ใช้ ให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินและรู้สึกผ่อนคลายในวันที่วุ่นวายได้ นอกจากนี้ OPPO Reno3 Pro ยังรองรับหูฟังในระดับ Hi-Res เพื่อมอบประสบการณ์ทางดนตรีที่ดียิ่งขึ้นในความละเอียดที่สูงขึ้นอีกด้วย
การวางจำหน่าย
OPPO Reno3 Pro มาพร้อมกับ RAM 8GB และ ROM ที่มากถึง 256GB พร้อม 4 กล้องหลังคมชัดสูงสุด 64MP และกล้องหน้าคู่รุ่นแรกที่มีความคมชัดที่สุดในโลก โดยคมชัดถึง 44MP พร้อมโหมด Dual Lens Bokeh อีกทั้งยังมีหน้าจอแบบ Super AMOLED โดยวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป ในราคา 18,990 บาท พร้อมรองรับ Netflix ในระดับ HD ได้ตั้งแต่ วันนี้ เป็นต้นไป
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/oppothai/