ภาครัฐประกาศผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ระยะ 3 เริ่มวันที่ 1 มิถุนายนนี้ เปิดให้หลายกิจการและกิจกรรมกลับมาดำเนินการได้เกือบปกติแล้วโดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า พร้อมลดเวลาเคอร์ฟิว เหลือ 23.00-3.00 น. ส่วนห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ปิด 21.00 น.
“เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ CPN ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ต 33 สาขาทั่วประเทศ ได้ออกมาตรการเพิ่มเติมรับการปลดล็อกดาวน์เฟส 3 ดังนี้
ธุรกิจร้านอาหารจัดโซนครอบครัว
- ให้ร้านค้าจัดโซนเป็น Family Zone สำหรับสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยในบ้านเดียวกันสามารถนั่งรับประทานอาหารร่วมกันได้ ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 8 คน โดยใช้หม้อ/กระทะร่วมกันได้ แต่ต้องใช้ช้อนกลางส่วนบุคคลเท่านั้น
- กรณีรับประทานอาหารจานกลางร่วมกัน ควรใช้ช้อนกลางส่วนบุคคล
- กำหนดบรรทัดฐานที่ใช้ร่วมกันทั่วประเทศ ในการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอาหาร และระหว่างบุคคลต่อบุคคลภายในโต๊ะเดียวกัน ต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หากระยะห่างน้อยกว่า 1 เมตร ต้องมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะ หรือระหว่างบุคคล (Table shield)
- เสนอให้เพิ่มเวลาให้บริการในช่วงอาหารเย็น ด้วยการขยายเวลาการปิดให้บริการถึง 21:00 น.
เปิดบริการเพิ่ม 10 ธุรกิจ
หลังจากภาครัฐ ประกาศให้กิจการและกิจกรรมระยะ 3 เปิดดำเนินการได้ CPN ได้เตรียมมาตรการเสริมสำหรับกลุ่มธุรกิจประเภท 3 เพิ่มเติม ซึ่งจะมีกิจการกลับมาเปิดปกติ 10 ประเภทธุรกิจ อาทิ
- ธุรกิจเสริมความงามที่เกี่ยวกับใบหน้า
- ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผม ให้อนุญาตทำสีผมได้
- สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส
- โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์
- สถานที่เล่นสเก็ตหรือโรลเลอร์เบรด สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน
- คาราโอเกะ ร้านเกมส์ สวนสนุก
- สวนน้ำกลางแจ้ง
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สถานประกอบการนวดแผนไทย
- โซนพระเครื่อง
- ห้องประชุมภายในศูนย์การค้า
โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล ทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศเปิดให้บริการในวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 11.00-21.00 น. วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-21.00 น. รณรงค์ให้ทุกคนมีวินัยในการใช้ชีวิตแบบ NOW Normal ด้วยการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอลล์ และสแกนเข้า-ออกจากศูนย์การค้าด้วยแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ตามนโยบายภาครัฐ
ลดเวลาเคอร์ฟิว เริ่ม 1 มิถุนายน
วันนี้ (29 พฤษภาคม) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. และ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ สรุปการผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ระยะ 3 กลุ่มกิจการที่มีความเสี่ยงปานกลางและเสี่ยงสูง รวมทั้งปรับเวลาเคอร์ฟิวใหม่ เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ดังนี้
- ลดเวลาห้ามออกจากที่พัก หรือ เคอร์ฟิวอีก 1 ชั่วโมง เป็น 23.00-3.00 น. (เดิม 23.00-4.00 น.)
- ขยายเวลาปิดห้าง-ศูนย์การค้า เป็น 21.00 น. (เดิม 20.00 น.)
- ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม จัดนิทรรศการ จัดอีเวนท์พื้นที่ไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร ปิดเวลา 21.00 น.
- เปิดโรงภาพยนตร์ จัดที่นั่งเว้นระยะห่าง นั่งคู่ได้ ใส่หน้ากาก ต่อรอบต่อโรงไม่เกิน 200 คน
- โรงมหรสพเปิดเฉพาะ ลิเก ลำตัด การแสดงพื้นบ้าน (งดแสดงดนตรี คอนเสิร์ต) เปิดสถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ลานสเก็ต โรลเลอร์เบลด
- เปิดกิจการร้านนวดแผนเพื่อสุขภาพ สปา
- ฟิตเนส ทำกิจกรรมได้ทั้งหมด แบบจำกัดผู้เล่นแบบกลุ่ม งดอบตัวและอบไอน้ำแบบรวมกลุ่ม
- สนามกีฬาเพื่อออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม เพิ่มเติม ได้แก่ ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล (ห้ามแข่งขัน ผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 10 คน ไม่นับผู้เล่น)
- สระน้ำเพื่อเล่นกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำในบึง เช่น เจ็ตสกี เครื่องเล่นบาบาน่าโบ๊ท (ห้ามแข่งขัน จำกัดผู้เล่น)
- ร้านตัดผม เพิ่มบริการทำสีผม ใช้เวลาภายใน 2 ชั่วโมง
- เปิดโรงเรียนนอกระบบประเภทศิลปะและกีฬา เปิดสถาบันสอนลีลาศ
- เปิดศูนย์พระเครื่อง ห้ามแออัด ห้ามจัดกิจกรรม
- คลินิกเสริมความงาม สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง ให้บริการใบหน้าบางประเภท เช่น สักคิ้ว ผู้ใช้บริการต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา
- เปิดได้ สวนสัตว์ หรือสถานที่จัดแสดงสัตว์ แต่จำกัดผู้ชม และห้ามรวมกลุ่ม
- เดินทางข้ามจังหวัดได้ ให้ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดต่างๆ
กิจการและกิจกรรมมีความเสี่ยงสูงแพร่เชื้อยัง “ปิด” ต่อไป เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ อาบอบนวด สนามมวย การแข่งขันกีฬา สวนน้ำ โรงเรียนกวดวิชา