HomeBrand Move !!โควิดตัวเร่ง แกรมมี่เปลี่ยนเกม Virtual คอนเสิร์ต จับมือ VLIVE จัดมิวสิคเฟสติวัล ขายบัตรไม่อั้น

โควิดตัวเร่ง แกรมมี่เปลี่ยนเกม Virtual คอนเสิร์ต จับมือ VLIVE จัดมิวสิคเฟสติวัล ขายบัตรไม่อั้น

แชร์ :

สถานการณ์ Covid-19 ที่สร้างความไม่แน่นอนและยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ กลายเป็นปัจจัยเร่งให้ธุรกิจต้องปรับตัวหาทางรอด โดยเฉพาะ “คอนเสิร์ต-โชว์บิซ” แม้กลับมาจัดได้แล้ว แต่ยังต้องเว้นระยะห่าง กลายเป็นโจทย์ยากกับการทำงานออนกราวด์แบบเดิมในจังหวะนี้  ทางออกต้องเดินหน้าสู่น่านน้ำใหม่ แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ไปได้ไกลกว่าเดิม

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ครั้งสำคัญของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ GMM Grammy ในการปรับตัวฝ่าสถานการณ์โควิด ของกลุ่มธุรกิจโชว์บิซ ด้วยการจัด Virtual Concert ผ่านแอปพลิเคชั่น  VLIVE  สตรีมมิ่งระดับโลกจากค่าย NAVER ประเทศเกาหลีใต้ ที่เข้าถึงผู้ชมทั่วโลก กับการจัด GMM Online Festival

Virtual Concert ขยายผู้ชมใหม่

คุณภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าตลอดระยะเวลาที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างต่อเนื่องด้วยการหยุดจัดคอนเสิร์ตทุกรูปแบบ หลังจากผ่อนคลายมาตรการให้เกือบทุกธุรกิจกลับมาดำเนินการได้แล้ว แต่คอนเสิร์ตออนกราวด์ยังต้องอยูภายใต้มาตรการเว้นระยะห่าง

ในสถานการณ์ช่วงนี้แกรมมี่จึงปรับตัวด้วยการร่วมกับ แอปพลิเคชั่น VLIVE การจัด GMM Online Festival ด้วยรูปแบบ Virtual Concert  2 วัน ในวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2563  เริ่มเวลา 14.00 น. มีไลน์อัพศิลปินเบอร์ใหญ่กว่า 20 ราย  นำทีมโดย  เป๊ก ผลิตโชค, พาราด็อกซ์, เคลียร์, อะตอม, ทเว้นตี้ไฟว์เอาเออร์ส, ค็อกเทล, โลโมโซนิก, เกทสึโนวา, เดอะเยอร์ส, ไททศมิตร, มียู, เลซี่ล็อกซี่, มิลลิ, ไมยราพ, โคตรยิ้ม,บลูส์เทป, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ดส์, และ เซฟแพลนเน็ต

โปรดักชั่น 4 เวที คือ  Main Stage, Cube Stage, Green Stage และ Prop Stage บนจอ LED ที่สามารถแสดงผู้ชมได้ไม่จำกัดจำนวน ประสบการณ์เสมือนจริงด้วย AR Technology  สามารถ Interact กับผู้ชมระหว่างการถ่ายทอดสด

“เราเชื่อว่าวันนี้ธุรกิจ Showbiz  ได้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบอย่างชัดเจน ทั้งออนกราวด์และออนไลน์ ที่ให้ประสบการณ์แตกต่างกันและไม่สามารถทดแทนกันได้ การมีทั้ง 2 รูปแบบจะช่วยขยายฐานผู้ชมเพิ่มขึ้น”

บัตร 350 บาท ไม่มี Sold Out

ที่ผ่านมาการจัดคอนเสิร์ตออนกราวด์ต้องจำกัดจำนวนผู้ชมตามพื้นที่ ในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนราคาตั๋วชมถูกสุด 500 บาท มาในยุคนี้ที่นั่งแถวหลังสุดอยู่ที่ 1,200-1,500 บาท

สำหรับ GMM Online Festival จัด 2 วัน วันละ 7 ชั่วโมง ขายในราคา 600 VCoins  หรือประมาณ 350 บาท เริ่มขายบัตร 16 มิถุนายน

คุณภาวิต บอกว่าที่ตั้งราคาบัตร 350 บาท เพราะต้องการให้เกิดการเข้าถึงและจับต้องได้ (Accessibility) มากที่สุด เนื่องจากห่างหายการจัดคอนเสิร์ตไปนาน และเป็นครั้งแรกที่แกรมมี่ทำ Virtual Concert ร่วมกับแพลตฟอร์ม ระดับโลก จึงอยากสร้างประสบการณ์ให้คนดูทุกคนทุกกลุ่มสามารถรับชมได้หมด

การจัด Virtual Concert ครั้งนี้ ก็เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่สามารถ sold out ได้ นั่นแปลว่าการที่คนมาดูมากที่สุด ก็จะเป็นกำลังใจให้กับศิลปิน และเงินที่ได้หักหักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคม

หลังจากนี้การจัด ออนกราวด์คอนเสิร์ต ก็มีแนวโน้มที่จะเดินไปสู่การจัด Virtual Concert ได้ แกรมมี่ให้ความสำคัญทั้ง 2 รูปแบบ

“ในอนาคตธุรกิจทั้งสองเส้นนี้เดินหน้าไปด้วยกัน ปกติโชว์บิซเป็นเส้นธุรกิจอยู่แล้ว ครั้งนี้เป็นการทดลองขึ้นเส้นใหม่คือออนไลน์ เราอยากให้ทั้ง 2 เส้นขึ้นเป็นรูปแบบธุรกิจได้ทั้งคู่ แน่นอนว่าด้วยสถานการณ์เราเองอาจจะต้องดูว่าโควิดจะยาวนานอีกแค่ไหน แต่ความตั้งใจคือต้องการให้เดินหน้าคู่กันไป”

ตัวแทนศิลปินที่จะมาร่วมงาน GMM Online Festival ครั้งนี้ เป๊ก ผลิตโชค บอกว่าถือเป็นโอกาสที่ได้จะได้เจอกับแฟนคลับ “นุช” ทั่วโลก เป็นสิ่งที่ตื่นเต้นที่จะได้พูดคุย interact กับคนดูผ่านแพลตฟอร์มนี้ เช่นเดียวกับ โอม ค็อกเทล ที่บอกว่า Virtual Concert ถือเป็นสิ่งใหม่ ที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่เพราะโควิดเป็นตัวเร่ง ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ในการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ผ่านการใช้เทคโนโลยีและเป็นมิติใหม่ในดูมิวสิคเฟสติวัลออนไลน์ เนม เกทสึโนวา บอกว่าเป็นดิจิทัลคอนเสิร์ตครั้งแรกบนแพลตฟอร์ม VLIVE ที่มีลูกเล่น AR Technology มากกว่ารูปแบบออนกราวด์

ทำไมต้อง VLIVE

สำหรับ  VLIVE  เป็นแอป Global Star Live แพลตฟอร์มวิดีโอถ่ายทอดสดจากคนดัง โดยเฉพาะซูเปอร์สตาร์จากเกาหลี มีฟังก์ชั่นสื่อสารพูดคุยกับคนดังแบบเรียลไทม์ มียอดดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 100 ล้านครั้ง มีศิลปินดัง ค่ายบันเทิงต่างๆ เปิดช่องกว่า 1,336 Channels  เช่น BTS  มีผู้ติดตามกว่า 20 ล้านราย , EXO , Blackpink, GOT7

คุณภาวิต บอกว่าการเลือกจับมือกับ VLIVE  เพราะอยากให้ประสบการณ์ที่ดีกับผู้ชม การทำ Virtual Concert ไม่ใช่สิ่งที่แกรมมี่ถนัดและเป็นเรื่องใหม่ ปกติการจัดออนกราวด์คอนเสิร์ตที่ผ่านมา ต้องจำกัดคนดูได้หลักพันคน ซึ่งอาจจะเล็กไปสำหรับคอนเสิร์ตแรกหลังปลดล็อกที่อาจมีผู้ชมสนใจจำนวนมากและคิดถึงศิลปิน จึงร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แพลตฟอร์มระดับโลก  ที่ผ่านมา VLIVE มีการจัด Virtual Concert ทุกสัปดาห์อยู่แล้ว การจัดออนไลน์เฟสติวัลกับ VLIVE สามารถ interact ได้หลายรูปแบบ มากกว่าการทำ Virtual Concert ทั่วไป

รูปแบบของ GMM Online Festival  จึงมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคอนเสิร์ตออนกราวด์ คือ 1.ไม่จำกัดจำนวนผู้ซื้อบัตร ทำให้สามารถรองรับความต้องการของแฟนๆ ได้อย่างไม่จำกัด 2. สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกประเทศทั่วโลก 3. ใช้เทคโนโลยี AR Technology สร้างประสบการณ์ดูคอนเสิร์ตออนไลน์ 4.ผู้ชมสามารถแสดงตัวตนบนหน้าจอที่อยู่บนเวที พร้อมส่งคอมเมนต์สดๆ ระหว่างการแสดง และทักทายพูดคุยได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Virtual Meeting 5.สามารถชมแบบเสียงภาษาไทย และเลือกรับชมพร้อมคำบรรยายได้ 2 ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน 6.ซื้อบัตรจ่ายเงินผ่าน payment gateway ที่ VLIVE  มีระบบที่เตรียมไว้แล้ว

การจัด GMM Online Festival ครั้งแรกนี้ แกรมมี่จะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายสมทบทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula VRC)

“Virtual Concert ครั้งแรกนี้เราไม่ได้มองเรื่องการค้า แต่ทำเพื่อคนในอุตสาหกรรมบันเทิงและคนในสังคม คนหลายคนคิดถึงคอนเสิร์ต ที่ผ่านมาคนในอุตสาหกรรมนี้ต้องหยุดงาน ทั้งศิลปินและทีมงาน ครั้งนี้ก็เป็นอีกโอกาสที่ทำให้ศิลปินและทีมงานได้กลับมามีรายได้อีกครั้ง ที่สำคัญคือเราอยากคืนกลับสู่สังคม เพราะทุกวันนี้ความหวังของทุกคนก็คือการรอคอยวัคซีน”


แชร์ :

You may also like