ลาลามูฟ LALAMOVE บริการรับ–ส่งสินค้าตามความต้องการ (on-demand delivery service) ตลอด 24 ชั่วโมง ออกกลยุทธ์เชิงป้องกัน ตั้งรับความเสี่ยงที่อาจเกิดจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ออกนโยบาย Deliver Care หรือแคมเปญส่งมอบ ความห่วงใย มุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างคนขับร่วม ผู้บริโภค และ ผู้ประกอบการ ในฐานะออนไลน์แพลทฟอร์มที่เป็น ตัวกลางอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสิ่งของจำเป็น ด้วยการบริการที่ถูกหลักสุขลักษณะ เพื่อความสะอาดและ ปลอดภัยของทั้งพนักงานขับรถและผู้บริโภค
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก ลาลามูฟประกาศภารกิจสำคัญครั้งใหม่ที่มุ่งมั่นจะช่วยเหลือและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เริ่มต้นจากกิจกรรมเพื่อสังคมภายใต้แนวคิด Deliver Care หรือ ส่งมอบความห่วงใย ที่ทางลาลามูฟทั่วโลกแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยร่วมมือกับหน่วยงานจากภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และผู้ประกอบการกว่า 30 หน่วยงานทั่วโลก ส่งมอบความห่วงใยโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ และ สิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิต ได้แก่ หน้ากากอนามัยกว่า 125,000 ชิ้น อาหารและเครื่องดื่ม 20,000 กล่อง เจลแอลกอฮอลล์ 52,000 ขวด และ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรค เช่น ถุงมืออนามัย และ หน้ากากป้องกันใบหน้า (Face Shield) กว่า 21,000 ชิ้น
ร่วมมือร่วมใจ…พ้นภัย โควิด-19
สำหรับประเทศไทย นายรวีโชติ เศรษฐี กรรมการผู้จัดการ ลาลามูฟ ประเทศไทย เผยว่า “การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้คนรอบด้าน อีกทั้งยังจำกัดการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภค และปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น ยา หรืออุปกรณ์อนามัยป้องกันเชื้อโรค โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนกักตัวอยูบ้าน และสถานที่สาธารณะต่างๆ ปิดชั่วคราว ลาลามูฟขอเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าและบริการ ตลอดจนอุปกรณ์สำนักงาน หรือ บริการช่วยซื้อสินค้า และนำส่งไปยังที่หมายภายในวันเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้าของเราดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด แม้อยู่ในพื้นที่จำกัด”
นอกจากนี้ ลาลามูฟ ประเทศไทยยังเดินหน้าส่งมอบความห่วงใย ร่วมสู้ภัยโควิด-19 โดยให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและภาคเอกชน ขนส่งอาหาร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ มากกว่า 2,000 กล่อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 60 คน ระยะทางขนส่งรวม 550 กม. หรือเทียบเท่ากับระยะทางจากกรุงเทพ – เชียงใหม่ อีกทั้ง มอบโอกาสการสร้างงานและรายได้ให้แก่ผู้ว่างงาน ลดการเคลื่อนย้ายตัวของประชากรกรุงเทพฯ สู่ภูมิภาคต่างๆ เพื่อลดการกระจายเชื้อสู่ภูมิภาคอื่นๆ โดยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ลาลามูฟมีจำนวนคนขับเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ เพื่อหาเลี้ยงชีพในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย
มาตรการป้องกันและระเบียบการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัย
ลาลามูฟ ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับคนขับ ผู้บริโภค และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ให้ได้รับบริการตามมาตรฐานที่สะอาดและปลอดภัย โดยเฉพาะกลุ่มคนขับ ซึ่งถือเป็นฮีโร่แนวหน้าในการจัดส่งสินค้าและบริการ จึงสื่อสารถึงแนวทางการปฏิบัติที่จำเป็นแก่คนขับ ตามแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และ กระทรวงสาธารณสุข โดยขอความร่วมมือจากคนขับให้รักษาความสะอาดส่วนบุคคล ทำความสะอาดยานพาหนะและกล่องบรรจุสินค้า ตลอดจน มาตรการส่งสินค้าแบบไร้การสัมผัส (Contactless) โดยเว้นระยะ 2 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกัน นอกจากนี้ ยังแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้กับคนขับจำนวนกว่า 50,000 ชุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนขับและผู้บริโภค
ก้าวสู่ยุคใหม่ของ New Normal
หลังพ้นวิกฤตการณ์ ลาลามูฟ คาดว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมผู้บริโภคและวิธีการดำเนินธุรกิจ นายรวีโชติ เศรษฐี กล่าวเสริมว่า “ผู้คนปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตสู่ความปกติใหม่ ผู้บริโภคตระหนักถึงสุขภาพอนามัยมากขึ้น การเว้นระยะห่างทางสังคม และการใส่หน้ากากอนามัยจะกลายเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น หากแม้วิกฤตโควิด-19 จะจบไป แต่มาตรการส่งสินค้าแบบไร้การสัมผัส (Contactless) จะกลายเป็นระเบียบการปฏิบัติของลาลามูฟ นอกจากนี้ เราคาดว่าผู้บริโภคจะคุ้นเคยกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ธุรกิจที่ต้องอาศัยพื้นที่หน้าร้าน อาจต้องเสริมช่องทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ซึ่งทางลาลามูฟ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการ อำนวยความสะดวกทางด้านโลจิสติกส์ โดยมุ่งเน้นไปที่ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคก้าวเข้าสู่ New Normal ได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ ลาลามูฟพร้อมจะสู้และก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกับทุกคน ตลอดวิกฤตการณ์ครั้งนี้”