L’Oreal แบรนด์เครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ออกมาประกาศแล้วว่าจะยุติการใช้คำประเภท “ขาวกระจ่างใส” (Whitening, Fairness, Lightening) ในการโฆษณาสรรพคุณของสินค้า
โดยที่มาของการประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากแบรนด์เผชิญดราม่าอย่างหนักต่อกรณีการเหยียดเชื้อชาติ เนื่องจากบริษัทตัดสินใจร่วมแสดงจุดยืนในการประท้วง #BlackLivesMatter เพื่อยืนอยู่ข้างคนผิวดำที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ต่างจาก Johnson & Johnson และ Unilever ก็ออกมาประกาศในลักษณะเดียวกัน
แต่สิ่งที่ทำให้ L’Oreal โดนมากกว่าสองแบรนด์ข้างต้นอาจเป็นเพราะการโพสต์ของบริษัทต่อกรณี #BlackLivesMatter ว่า “Speaking out is worth it.” เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน ด้วยตัวหนังสือสีขาวบนพื้นดำ บน Instagram
โพสต์ดังกล่าวได้ถูก Munroe Bergdorf อดีตนางแบบของ L’Oreal ออกมาโต้กลับอย่างเผ็ดร้อน เนื่องจากเธอเองเคยออกมาพูดถึงกรณีการเหยียดเชื้อชาติและสีผิวในลักษณะเดียวกันมาแล้วตั้งแต่ปี 2017 (และเธอได้ลบโพสต์นั้นไปแล้ว) แต่สิ่งที่ L’Oreal ทำในขณะนั้นคือปลดเธอออกจากการเป็นนางแบบอย่างไม่ใยดี และบอกว่าแนวคิดของ Munroe นั้นไม่คู่ควรกับคุณค่าที่บริษัทยึดถือ
https://www.instagram.com/p/CA5ThI8ggfO/
Munroe ชี้ด้วยว่า การแสดงจุดยืนเพื่อคนผิวดำของ L’Oreal นั้นไม่ได้ทำอย่างจริงใจ แต่เป็นการเกาะกระแสมากกว่า
อย่างไรก็ดี ประธานบริษัท L’Oreal อย่าง Delphine Viguier ได้มีการออกมาขอโทษต่อ Munroe ที่บริษัททำผิดพลาดไปในสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว และยังได้ว่าจ้าง Munroe กลับมาอีกครั้ง โดยเธอจะได้รับตำแหน่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาในบอร์ดด้านความหลากหลาย ของบริษัทที่อังกฤษด้วย