ศบค. เปิดรายละเอียดกิจการและกิจกรรมกลุ่มเสี่ยงสูง ที่เตรียมปลดล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เปิดให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร จัดคอนเสิร์ต-อีเวนท์ได้แล้ว แต่สถานบันเทิง ผับบาร์ยังปิดต่อไป
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าการประชุม ศบค.วันนี้ (10 มิถุนายน) ได้จัดทำมาตรการฉบับร่างปลดล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ กำหนดให้กิจการและกิจกรรมกลุ่มเสี่ยงเปิดดำเนินการได้ ซึ่งอาจปรับเปลี่ยน ยกเลิก เพิ่มเติม ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์ 12 มิถุนายนนี้ รายละเอียดฉบับร่างปลดล็อกดาวน์เฟส 4 มีดังนี้
- ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ภัตตาคาร สวนอาหาร โรงแรมได้ (ไม่รวมผับบาร์ คาราโอเกะ) แต่ห้ามกิจกรรมส่งเสริมการขาย
- เปิดพื้นที่ประชุมในโรงแรม ศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า จัดเลี้ยง อีเวนท์ เปิดตัวสินค้า ประกวด แข่งขันกีฬา (ระยะนั่ง ยืนห่าง 1 เมตร) งานแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ใช้เกณฑ์ 5 ตารางเมตร/คน
- เปิดตู้เกมส์ เครื่องเล่นเกมส์ในห้าง ศูนย์การค้า แต่ห้ามร้านเกมส์นอกห้าง
- สนามกีฬากลางแจ้งทุกประเภท โรงยิม สถานที่เพื่อการออกกำลังกาย จัดแข่งขันกีฬาโดยไม่มีผู้ชม ผู้จัดกีฬาทุกประเภทต้องลงทะเบียนจัดแข่งขัน ภายใต้การควบคุมของ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)
- เปิดสวนสนุก สวนน้ำ สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำสาธารณะ (งดให้บริการเครื่องเล่นที่มีผิวสัมผัสมาก เช่น บ้านบอล)
- เปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบตัว อบสมุนไพร อบไอน้ำแบบรวม จำกัดผู้ใช้บริการใช้เกณฑ์พื้นที่ 5 ตารางเมตร/คน
- กองถ่ายภาพยนตร์และรายการทีวี ทุกแผนกไม่เกิน 150 คน ผู้เข้าชม 50 คน
- ขนส่งสาธารณะทุกประเภท รถโดยสารประจำทาง รถปรับอากาศ รถตู้ระหว่างจังหวัด รถไฟ เครื่องบิน จัดที่นั่ง 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง หรือจำกัดความจุ 70% ของพื้นที่
- เปิดโรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา หน่วยงานรัฐจัดอบรมสัมมนา
- เปิดศูนย์เด็กเล็ก สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงวัย แบบรายวัน
- ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง เข้าชมเป็นกลุ่มแบบจัดระเบียบ
ส่วนสถานบริการอาบอบนวด สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังไม่เปิด เพราะยังมีความเสี่ยงแพร่เชื้อสูง
การประชุม ศบค.วันนี้ ยังไม่มีการหารือถึงการทดลองยกเลิกเคอร์ฟิว 15 วัน สำหรับการเปิดให้ชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวด้านสุขภาพในประเทศไทยนั้น ยังเป็นเพียงข้อพิจารณาเท่านั้น อาทิ รูปแบบ Travel Bubble ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระดับน้อย หรือ อนุญาตผู้ที่มีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและไทยมีศักยภาพทางด้านการแพทย์ อย่างไรก็ตามยังต้องคำนึงถึงผลกระทบในด้านอื่นด้วย
ตามร่างผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 4 ที่มีการอนุญาตให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ แต่ยังไม่ให้เปิดบริการกิจการ ผับ/บาร์/คาราโอเกะ เนื่องจาก ผับ/บาร์/คาราโอเกะ เป็นกิจการที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง ซึ่งที่ผ่านมามีการรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสถานที่เหล่านี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ขณะที่ กิจการประเภทร้านอาหารจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยและมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต มีการใช้เวลาในกิจกรรมไม่นานนักหากเทียบกับระยะเวลาทำกิจกรรมใน ผับ/บาร์ เบื้องต้นจึงอนุญาตให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารก่อนได้