เพื่อรักษาจุดยืนขององค์กรในฐานะเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มครบวงจร (Total Beverage Company) “โคคา–โคลา” (Coco-Cola) ต้องสร้างการเติบโตของ Business Portfolio ที่ประกอบด้วย 4 กลุ่มหลักคือ
– กลุ่มเครื่องดื่มอัดลม (Sparkling Soft Drinks) ปัจจุบันทำรายได้ให้กับกลุ่มโคคา-โคลามากกว่า 50%
– กลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ และเครื่องดื่มจากพืช เช่น ธัญพืชต่างๆ
– กลุ่มน้ำดื่ม และเครื่องดื่มประเภท Hydration
– กลุ่มชา – กาแฟ
สำหรับตลาดไทย “กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลา ในประเทศไทย” ปัจจุบันในกลุ่มเครื่องดื่มอัดลม ภายใต้แบรนด์โค้ก ประกอบด้วยสูตรออริจินัล, สูตรไม่มีน้ำตาล, โค้ก ไลท์, โค้ก พลัส คอฟฟี่ และภายใต้แบรนด์แฟนต้า, สไปร์ท, ชเวปส์ และ เอแอนด์ดับบลิว รูทเบียร์
ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ มีแบรนด์มินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, มินิทเมด ไวตา คิดส์, มินิทเมด ออเรนจ์ ไฟเบอร์, มินิทเมด ฮันนี่ เลมอน
และกลุ่มน้ำดื่ม มีแบรนด์หลักคือ น้ำทิพย์ และล่าสุดเปิดตัว “น้ำแร่บอน อควา” (BonAqua) เข้ามาเสริมทัพ Brand Portfolio ในกลุ่มธุรกิจนี้
มาช้า ยังดีกว่าไม่มา! “BonAqua” เติมเต็มพอร์ตโฟลิโอกลุ่มน้ำดื่ม “โค้ก ประเทศไทย”
หลังจากปล่อยให้คู่แข่งทำตลาด “น้ำแร่” มานาน “บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)” และ “บริษัทโคคา–โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด” ได้เปิดตัวแบรนด์ “BonAqua” ถือเป็นการเดินหน้ารุกเซ็กเมนต์น้ำแร่ธรรมชาติครั้งแรกของ “โคคา–โคล่าในประเทศไทย” หลังจากก่อนหน้านี้ในกลุ่มธุรกิจน้ำดื่ม มีแบรนด์น้ำดื่ม “น้ำทิพย์” ลุยเดี่ยวแข่งขันในสมรภูมิน้ำดื่มมายาวนาน
ทั้งนี้ ตลาดน้ำแร่ในไทย มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณกว่า 4,800 ล้านบาท โดยมี 4 แบรนด์หลักในตลาด Mass คือ
“มิเนเร่” ของค่ายเนสท์เล่
“เพอร์ร่า” ของค่ายสิงห์
“ออร่า” ของค่ายทิปโก้
“มองต์เฟลอ” ของกลุ่มสหพัฒน์
ในขณะที่ค่าย “โคคา–โคลา” หรือที่เราคุ้นเคยกันว่า “โค้ก” ในประเทศไทย ทำตลาดน้ำดื่ม ภายใต้แบรนด์ “น้ำทิพย์” มายาวนาน โดยจุดเปลี่ยนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อในปี 2555 ที่พลิกโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ โลโก้ บรรจุภัณฑ์ และแนวคิดใหม่ “น้ำทิพย์ คิดมาเพื่อโลก” ในขวด “Eco-Crush” ที่ลดการใช้พลาสติก และเมื่อดื่มน้ำหมดแล้ว สามารถบิดขวดทิ้งได้ ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่เก็บขยะ โดยมีต้นแบบมาจากขวด “I LOHAS” ของโคคา-โคลา ประเทศญี่ปุ่น
แต่ทว่าด้วยแนวโน้มไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมผู้บริโภค ใส่ใจสุขภาพ และพิถีพิถันกับการเลือกบริโภคมากขึ้น ทำให้คนไทย หันมาบริโภค “น้ำแร่” มากขึ้น
ประกอบกับตลาดน้ำแร่ในบ้านเรา “ช่องว่างราคา” ระหว่างน้ำดื่มบรรจุขวด PET ทั่วไป กับน้ำแร่ มีราคาไม่ต่างกันมากนัก ยิ่งในบางช่วงมีการแข่งราคา และโปรโมชั่นผ่านช่องทางการขายต่างๆ ก็ยิ่งจูงใจให้ผู้บริโภคไทย หันมาดื่ม “น้ำแร่”
เมื่อโอกาสของตลาดมาในทิศทางนี้ ทำให้ในที่สุด “กลุ่มธุรกิจโคคา–โคลา ในประเทศไทย” ตัดสินใจบุกตลาด “น้ำแร่ธรรมชาติ” ด้วยการนำแบรนด์ “BonAqua” ที่ทำตลาดใน 28 ประเทศทั่วโลก เข้ามาทำตลาดในไทย
นอกจากตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแล้ว ที่สำคัญเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Business Portfolio ภาพรวมของโคคา–โคลา ในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม เซ็กเมนต์น้ำดื่ม และเมื่อมีสินค้าครบทั้งน้ำดื่ม และน้ำแร่ จะช่วยสร้างอำนาจการต่อรองกับช่องทางการขายในการ push สินค้าเข้าไปในช่องทางต่างๆ
“โคคา-โคล่า ศึกษาและยึดถือความต้องการของผู้บริโภคเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ ทำให้เราได้ Insight ว่าผู้บริโภคยุคใหม่เป็นกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพ แต่มีวิถีชีวิตประจำวันที่ค่อนข้างยุ่งไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงมองหาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่เพียงช่วยเติมความสดชื่น แต่เหมาะกับการดูแลสุขภาพและสามารถดื่มคู่กับอาหารได้ทุกมื้อ
ด้วยเหตุนี้ เราจึงเดินหน้ากลยุทธ์ขยายพอร์ตโฟลิโอให้ครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ด้วยการจับมือกับ “หาดทิพย์” เปิดตัว “BonAqua” น้ำแร่แบรนด์ระดับโลก พร้อมนำร่องจัดจำหน่ายใน 14 จังหวัดภาคใต้” คุณมัณฑนา หล่อไกรเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา–โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด เล่าที่มาของการขยาย Brand Portfolio
เลือกแหล่งผลิตจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับแหล่งน้ำแร่ของ “BonAqua” ในประเทศไทย อยู่ที่แหล่งพุนพิน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และใช้โรงงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานีของหาดทิพย์เป็นโรงงานผลิต
พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าน้ำแร่ BonAqua ผลิตจากน้ำแร่ธรรมชาติ 100% จากแหล่งพุนพิน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยศักยภาพ และเทคโนโลยีการผลิตมาตรฐานระดับโลกของหาดทิพย์ พร้อมทั้งใช้เครือข่ายการกระจายสินค้าที่เข้มแข็งของหาดทิพย์ ครอบคลุมช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งร้านค้าทั่วไป ร้านอาหาร และแม็คโครใน 14 จังหวัดภาคใต้
และเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง หาดทิพย์ และโคคา-โคล่าได้เตรียมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อโฆษณานอกบ้านทั่วภาคใต้ และกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายตลอดทั้งปี